ทริปนี้ เราจะพาออกเดินทางไปยังสวรรค์ของคนรักทะเลที่สุดแดนภาคตะวันออก ท่ามกลางความสงบงาม และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวประมงบนเกาะกูด จังหวัดตราด เกาะที่ว่ากันว่าสวยราวกับเป็นอันดามันตะวันออก ด้วยน้ำทะเลที่ใส หาดทรายสีขาวนุ่ม และสงบห่างไกลจากความวุ่นวาย จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีใจรักในท้องทะเลมารุ่นต่อรุ่น เรียกว่ามีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน ก็สามารถหลีกหนีจากเมืองกรุงมาพักผ่อน หย่อนใจลงในน้ำทะเลใสๆ ที่เกาะกูดได้โดยอย่างเต็มอิ่มอย่างไม่มีตกหล่น แถมนอกจากจากเกาะกูด จังหวัดตราดแล้ว ขากลับจะแวะไหว้พระ ชมวัดสวยๆ และหาของอร่อยๆ รับประทานที่ชลบุรีก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็ยังทำได้

มาเที่ยวเกาะกูดก็ต้องกินอาหารทะเลสดอร่อย หนึ่งในร้านดังและดีของเกาะกูด คือ นุชชี่ ซีฟู้ด (Noochy Seafood) ที่หมู่บ้านชาวประมง

อ่าวพร้าวบีช รีสอร์ท (Ao Phrao Beach Resort) เป็นรีสอร์ทที่มีความสวยงามท่ามกลางทิวต้นมะพร้าวและชายหาดทอดยาวกว่า 800 เมตร รีสอร์ทนี้ถือเป็นหนึ่งในรีสอร์ทแห่งแรกๆ ของอ่าวพร้าวซึ่งเป็นหาดสุดท้ายบนเกาะกูด

เกาะกูดรีสอร์ท ตั้งอยู่บนหาดบางเบ้าทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งเป็นหาดที่มีรูปร่างคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ด้วยลักษณะที่โค้งสวยงามของหาดบวกกับที่ตั้งทางทิศตะวันตก ทำให้การชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะกูดรีสอร์ท (Sunset at Ko Kut Resort) เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ใครๆ จะต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวเกาะกูด

น้ำตกคลองเจ้า (Klong Jao Waterfall) หรือน้ำตกธารสนุก นอกจากจะเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่ขึ้นชื่อของเกาะกูดแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กับคนเกาะกูดด้วย กล่าวกันว่าใครไปเที่ยวเกาะกูดแล้วไม่ได้ไปน้ำตกคลองเจ้าก็เท่ากับยังไปไม่ถึงเกาะกูด

เชื่อว่าหนึ่งในภาพประทับใจของใครหลายๆ คนเมื่อเอ่ยถึงเกาะกูด ภาพของต้นมะพร้าวคู่สองต้นที่มีระยะห่างพอเหมาะพอดี ที่พร้อมใจกันโน้มเอนเข้าหาท้องทะเลมักจะเป็นภาพที่หลายๆ คนนึกถึง ด้วยความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น บวกกับความสวยงามของท้องทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามพระอาทิตย์ตกนั้นยิ่งช่วยขับให้บรรยากาศโดยรอบของต้นมะพร้าวคู่นี้สวยงามและโรแมนติก