- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดโชเรนอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดโชเรนอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (3,455)
- By Webmaster
- 04:12:10 | 2 ก.พ. 2566
วัดโชเรนอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
Shoren-in Monzeki Temple, Kyoto, Japan
Shijokodo Hall และกิ่งก้านของต้นการบูรเก่า
วัดโชเรนอิน (Shoren-in Monzeki Temple) เป็นวัดของนิกายเทนไดของพุทธศาสนาญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮิกาชิยา มะของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของวัดโมเซกิของนิกายเทนไดในเกียวโต หัวหน้านักบวชในวัดเหล่านี้เป็นสมาชิกหลักของประเพณีราชวงศ์ บรรยากาศที่วัดมีความสงบและเงียบสงบคล้ายกับบรรยากาศของพระราชวังอิมพีเรียล ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้สามารถพบได้ในวัดโชเรนเท่านั้น
แผนที่ตั้ง Shoren-in Monzeki Temple จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมา
ทางเดินเข้าสู่บริเวณพื้นที่วัดโชเรนนิน
วัดโชเรนอิน (Shorenin Temple) เป็นอีกหนึ่งในบรรดาวัดโมเซกิ (monzeki temples) ที่มีเจ้าอาวาสสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ของญี่ปุ่นซึ่งมีให้เห็นไม่มากในประเทศญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮิกาชิยามะของเมืองเกียวโต แต่เดิมนั้นเป็นที่พำนักของท่านชายแห่งจักรพรรดิโทบะ ในช่วงที่มาศึกษาเล่าเรียนที่วัดเอนยาคุจิ (Enryakuji Temple) ซึ่งที่ตั้งของที่พักก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดเอ็นยาคุจิ โดยอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ภายหลังจากความศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนานิกายเทนไดของจักรพรรดิโทบะ จึงได้บูรณะที่พักให้กลายเป็นวัดโชเรนอิน และได้ถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 12 รวมทั้งได้มีการดูแลรักษาจนคนรุ่นหลังได้เห็นต่อมา
การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังตัวเมืองเกียวโต
- รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) สายฮารุกะประจำสนามบินนานาชาติคันไซ ซึ่งมีตัวสถานีที่เชื่อมต่อกับตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังสถานีประมาณ 500 เมตร โดยขึ้นที่ Kansai Kuko Daiichi Terminal มุ่งตรงเข้าเมืองเกียวโตลงที่สถานี Kyoto Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยราคาตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง 2,770 เยน ตั๋วแบบระบุที่นั่ง 3,080 เยน
การเดินทางจากตัวเมืองไปยังวัดโชเรนอิน
- รถไฟใต้ดิน จากสถานี Kyoto Station นั่งรถไฟสาย Tozai Line ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 260 เยน ลงสถานี Higashiyama Station และเดินต่อประมาณ 5 นาที โดยจะมีจุดสังเกตที่ต้นการบูรด้านหน้าประตูวัด
- รถเมล์ จากสถานี Kyoto Station ขึ้นรถเมล์สาย 5 และ 100 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ค่าโดยสาร 230 เยน ให้ลงป้าย Jingu-michi bus stop และเดินต่อประมาณ 5 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดโชเรนอินหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในเกียวโต
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. และเปิดให้เข้าชมในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น. ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
การซื้อบัตรเข้าชม
ศาลเจ้าวัดโชเรนอิน หนึ่งในวัดมอนเซกิ (Monzeki Temple)
อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนมัธยมปลายและมัธยมต้น 400 เยน
และนักเรียนชั้นประถมศึกษา 200 เยน
ค่ำคืนที่สวยงามด้วยไฟ LED ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง บริเวณวัดโชเรนอิน
ทั้งนี้ค่าเข้าชมพิเศษในช่วงเวลากลางคืน สำหรับผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนชั้นประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย 400 เยน
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
วัดโชเรน-อินใน ในช่วงงานเทศกาล Higashiyama Hanatouro ฤดูซากุระและปลายฤดูใบไม้ร่วง
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ(มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง(กันยายน-พฤศจิกายน) เนื่องจากสถานที่ของวัดจะจัดแสงไฟให้สว่างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในเวลากลางคืน ซึ่งวัดจะเต็มไปด้วยแสงไฟสีฟ้าที่เป็นมุมมองสวยงาม
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ต้นการบูรเก่าแก่ที่อยู่บริเวณวัดโชเรนอิน
วัดโชเรนอินตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายในย่านฮิกาชิยาม่า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อไปสะดวก โดยทางด้านซ้ายของวัดติดกับสวนสาธารณะมารุยาม่าซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่ดังที่สุดของเมืองเกียวโต และศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงอย่างมากของเกียวโตและฝั่งขวาอยู่ติดกับวัดชิโอนิน (Chionin Temple) เป็นวัดหลักของนิกายโจโดะ (Jodo) ซึ่งอยู่ ไม่ไกลจากวัดโชเรนอิน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดโชเรนอิน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดโชเรนอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
(Shoren-in Monzeki Temple, Kyoto, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมปกติ 500 เยน สำหรับฤดูกาลพิเศษมีค่าเข้าชม 800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
สถานที่ตั้ง : เมืองฮิกาชิยาม่า จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81)75-561-2345
เว็บไซต์ : http://www.shorenin.com/english/index.html
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้
อ่านต่อหาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด
อ่านต่อล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้
อ่านต่อเกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา
อ่านต่อเกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล
อ่านต่อเกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้
เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"
อ่านต่อภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย
อ่านต่อแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา
อ่านต่อ