- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว
ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว
- อ่าน (5,530)
- By Webmaster
- 11:22:48 | 16 ส.ค. 2561
ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว
Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos
ถ้ำปากอู หรือถ้ำติ่ง ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวหลวงพระบาง
ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำที่อยู่ปากทางสบอู ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 29 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู จุดเชื่อมของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มาบรรจบกัน จึงเป็นที่มาของ ชื่อ "ถ้ำปากอู" แห่งนี้
ที่ตั้งแขวงหลวงพระบางในประเทศสปป.ลาวบนแผนที่โลก
ประวัติและความเป็นมา
ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง มีความสำคัญมาอย่างยาวนานกับชาวลาว โดยเฉพาะหลวงพระบาง เพราะถือได้ว่าเป็นเทวสถานของเจ้าที่แม่น้ำ โดยในสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งหินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายภายในถ้ำนั้นเป็นที่สิงสถิตของผี ทั้งวิญญาณในน้ำและในถ้ำ
ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านเหนือน่านน้ำแม่น้ำโขง
ต่อมาศาสนาพุทธเริ่มเข้ามาเผยแผ่ผ่านมาทางชาวมอญ ในราวๆ พุทธศตวรรษที่ 13 และได้รับการนับถือกันอย่างแพร่หลายคู่ไปกับความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องของการนับถือบูชาผีฟ้า เทวดา
ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแม่น้ำโขง ณ หลวงพระบาง
ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 เข้าสู่ยุคเฟื่องฟูแห่งศาสนาพุทธ ในรัชสมัยของพระเจ้าโพธิสารราช (พ.ศ. 2063 - พ.ศ. 2090) พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ทรงสร้างวัดวาอารามต่างๆ มากมาย และประกาศยกเลิกไม่ให้ประชาชนนับถือผีสางแต่ให้มายึดมั่นในพระพุทธศาสนา
พระพุทธรูปสมัยโบราณที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู
ความเชื่อในเรื่องการบูชาภูติผีจึงลดบทบาทไป ประกอบกับสภาวะบ้านเมืองในขณะนั้น ถ้ำติ่งจึงถูกทิ้งร้าง จนมาในปี พ.ศ. 2091 ถ้ำติ่งถูกค้นพบอีกครั้งโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา (พระเจ้าโพธิสารราช) ในขณะทำการก่อสร้างวัดปากอู ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้าม ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มายังถ้ำปากอูก็คือฟรานซิส การ์นิเย่ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสก็มาพบเข้า
บริเวณจุดรับส่งรถที่มาส่งท่าเรือของหมู่บ้านปากอูเพื่อต่อเรือไปยังถ้ำปากอูหรือถ้ำติ่ง
จากนั้นมาถ้ำติ่ง ก็กลายเป็นพุทธสถาน ที่นักแสวงบุญในพุทธศาสนาได้เดินทางมาสักการะอย่างต่อเนื่อง และตามธรรมเนียมความเชื่อ นักแสวงบุญก็จะทิ้งพระพุทธรูปไว้ในถ้ำ ทำให้ทุกวันนี้มีพระพุทธรูปกว่า 4,000 องค์ ส่วนใหญ่แล้วมีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 24-25 กว่า 2,500 องค์ ส่วนองค์ที่เก่าที่สุดนั้นสร้างจากไม้ และมีอีกหลายองค์ที่หล่อจากสำริดลงรักปิดทอง
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง
- รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) เป็นวิธีการเดินทางที่นิยมมาก เนื่องจากมีความสะดวกสบาย โดยมีระยะทางประมาณ 5.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที อัตราค่าโดยสารมีสองรูปแบบคือ ราคา 50,000 กีบ/3คน หรือจะจ่ายเป็นสกุลเงินไทยก็ได้ ประมาณ 200 บาท/3คน เช่นเดียวกัน
- รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งไปด้านตรงข้ามสนามบิน ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia/
การเดินทางจากตัวเมืองไปยังท่าเรือ
- รถจักรยานยนต์ (เช่า) นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานยนต์ได้ตรงที่พักหรือในซอยโจมา ซอยยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แล้วขับไปตามถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 13 ทางเหนือของหลวงพระบาง เรียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านช่างไหจนถึงหมู่บ้านปากอูเพื่อขึ้นเรือข้ามฟากไปยังถ้ำปากอูซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม (ท่าเรือบ้านซ่างไห) และ (ท่าเรือปากอู)
บริเวณจุดขึ้นเรือโดยสารเพื่อข้ามฟากไปยังถ้ำปากอู
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เดินเรือบริเวณท่าเรือปากอูหรือท่าเรือช่างไหเพื่อเดินทางข้ามฝั่งไปยังถ้ำติ่งได้เลย โดยราคาค่าเรือโดยสาร ประมาณ 10,000 กีบ/คน
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ของทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์
พื้นที่กว้างบริเวณหมู่บ้านปากอู แสดงถึงความเป็นอยู่และการเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน
การซื้อบัตรเข้าชม
เนื่องจากถ้ำปากอูเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวลาวหลวงพระบางให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน และมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกมากมาย รวมถึงมีความสำคัญทางศาสนาอย่างมาก อัตราค่าเข้าจึงอยู่ที่ชาวลาวคนละ 5,000 กีบ และ นักท่องเที่ยวคนละ 20,000 กีบ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้บริเวณจุดทางเข้าปากถ้ำ
พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีมาแต่โบราณกาล
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
ถ้ำติ่งล่าง หรือถ้ำลุ่ม ในภาษาลาว อยู่เหนือจากท่าจอดเรือเล็กน้อย บริเวณหน้าปากถ้ำมีรูปแกะสลักจิ้งจอก 2 ตัวทาสีขาวหันหัวเข้าหากัน ตรงบริเวณโขดหิน แทนสัญลักษณ์ว่าเป็นจุดที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มีพระพุทธรูปจำนวนมากหลายขนาด ทำมาจากไม้ ดิน ปูน สัมฤทธิ์ฯ โดยถ้ำติ่งลุ่มมีลักษณะเป็นโพรงตื้นๆ สูงประมาณ 60 เมตร จากพื้นน้ำ มีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย ตามความเชื่อโบราณกล่าวว่าจะมีสิ่งของมีค่าซ่อนอยู่ภายในถ้ำ
พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ชาวหลวงพระบางเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน
ส่วนใหญ่พระพุทธรูปภายในถ้ำปากอูจะมีลักษณะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ความสำคัญของถ้ำติ่งในสมัยโบราณคือการเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งเมื่อตอนค้นพบใหม่มีพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งทำด้วยเงิน และทองคำ แต่ปัจจุบันถูกลอกออกไปหมด
พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่อยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันหลากหลาย
พระพุทธรูปส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำปากอูมีลักษณะเป็นพระยืนด้วยปางต่างๆ
ถ้ำติ่งเทิง หรือถ้ำติ่งบน จะมีทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น สองข้างทางจะร่มรื่นไปด้วยเงาไม้ ลักษณะถ้ำติ่งบนเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำเล็กน้อย ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง
รูปปั้นที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู
การเข้าชมภายในถ้ำติ่งบนนี้ มีความมืดพอสมควร ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง ซึ่งที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปชมภายใน
มุมจากบนถ้ำปากอูซึ่งมองเรือโดยสารที่ลอยตัวอยู่บนแม่น้ำโขง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สัตว์เลี้ยงของชาวหลวงพระบางลงเล่นแม่น้ำโขง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงฤดูร้อนหรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ที่นี่อาจจะมีอากาศร้อนมากจนแสบผิวได้ แนะนำให้ทาครีมกันแดด พกแว่นตากันแดดหรือใส่เสื้อแขนยาว
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ท่าเทียบเรือฝั่งบริเวณถ้ำปากอู
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือที่ท่าวัดเชียงทองได้ โดยเป็นเรือเช่าเหมาซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฟากฝั่งแม่น้ำโขง หากนั่งเรือจากในตัวเมืองจะเป็นการนั่งทวนน้ำ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่ขากลับจะล่องเรือไปตามน้ำใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ถ้ำปากอู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว
(Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : คนละ 20,000 กีบ
เวลาเปิด – ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ของทุกวัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านปากอู ห่างตัวเมืองไปประมาณ 30 กิโลเมตร ทางทิศเหนือ
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : www.louangprabang.net
ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้
อ่านต่อหาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด
อ่านต่อล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้
อ่านต่อเกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา
อ่านต่อเกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล
อ่านต่อเกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้
เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"
อ่านต่อภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย
อ่านต่อแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา
อ่านต่อ