- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

- อ่าน (203)
- By Webmaster
- 13:15:11 | 8 พ.ย. 2566
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
Top 15 Travel Destinations in Ho Chi Minh, Vietnam
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
แผนที่แสดงตำแหน่ง 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์
1. ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market)
ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) ตลาดใหญ่ที่สุดของไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ ที่จำหน่ายสินค้าค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร เครื่องเทศ ไปจนถึงอาหารสด โดยเบน (Ben) ในภาษาเวียดนามนั้นแปลว่าท่าเรือ และถั่น (Thanh) แปลว่าป้อมปราการเต่า ตลาดเบนถั่นถือเป็นหนึ่งในอาคารยุคแรกสุดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยไซ่ง่อน บริเวณด้านหน้าของตลาดมีสัญลักษณ์อันโดดเด่นคือหอนาฬิกา ซึ่งกลายมาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนี้
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป ตลาดเบนถั่น มีระยะทาง 7.4 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที รถประจำทางสายที่ผ่านคือ 109
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 – 19.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'21.0"N 106°41'52.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดเบนถั่น ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2502
2. ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Saigon Central Post Office)
ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Saigon Central Post Office) เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสกับอาคารสีเหลืองนวลใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนก่อสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1896 เสร็จในปีค.ศ.1901 สถาปนิกผู้ออกแบบคือ Alfred Foulhoux สถาปัตยกรรมของไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนนั้นมีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคงตามสไตล์ฝรั่งเศส ภายในตัวอาคารประดับภาพของอดีตผู้นำประเทศอย่างโดดเด่นสะดุดตา และภาพแผนที่ขนาดใหญ่สองภาพ นอกจากบริการทางด้านไปรษณีย์แล้ว ที่ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนยังจำหน่ายแสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด และมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวอยู่ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน มีระยะทาง 7.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที มีรถประจำทางสายที่ผ่านคือ VIE LIMO Ho Chi Minh City
เวลาปิด - เปิด : วันจันทร์ – เสาร์ เปิดเวลา 07.30 – 18.00 น. วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'47.9"N 106°42'00.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2501
3. อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnels)
อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnels) เป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของกองทัพและฐานปฏิบัติการของเวียดกงในอดีต โดยในช่วงสงครามเวียดนามอุโมงค์แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของกองทัพและถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเวียดกงอยู่หลายครั้ง โดยฝ่ายเวียดกงได้ใช้อุโมงค์กู๋จีเป็นจุดซ่อนตัวระหว่างการปะทะ ใช้เป็นเส้นทางสื่อสารและลำเลียงเสบียง โรงพยาบาล สถานที่เก็บอาวุธ และเป็นที่พักอาศัย จนกระทั่งสหรัฐต้องถอนกำลังทหารออกจากเวียดนามใต้ในที่สุด ปัจจุบันมีการเปิดสมรภูมิเลือดแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่พาเดินไปยังจุดสำคัญและนักท่องเที่ยวสามารถมุดลงไปถึงชั้นสามของอุโมงค์ที่คดเคี้ยว ซับซ้อนแห่งนี้ได้ บริเวณโดยรอบของอุโมงค์กู๋จียังคงเหลือซากแห่งสงคราม อาทิ รถถัง เครื่องบิน วัตถุระเบิดให้ได้ชม
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป อุโมงค์กู๋จี มีระยะทาง 50.9 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 38 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 11°08'29.4"N 106°27'41.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุโมงค์กู๋จี ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2506
4. พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum)
พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้ๆ กับทำเนียบประธานาธิบดี ด้านในอาคารพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ชั้น จัดแสดงภาพถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงที่เกิดสงครามกับสิ่งเลวร้ายที่ชาวเวียดนามต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นภาพการสู้รบ ภาพความบาดเจ็บเสียหาย ภาพคนเวียดนามที่รอดชีวิตจากสงครามแต่ต้องกลายเป็นคนพิการ และอีกหลากหลายภาพที่แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่อันขมขื่นของชาวเวียดนามในช่วงที่เกิดสงคราม นอกจากนี้ยังมีการจำลองสถานการณ์ความยากลำบากในช่วงเวลานั้น เช่น คุกคุมขัง และการทรมานนักโทษหรือผู้กระทำความผิดด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมทารุณ ส่วนบริเวณรอบนอกตัวอาคารก็มีเครื่องบิน รถถัง ลูกระเบิด เฮลิคอปเตอร์รุ่นที่ใช้ในสงครามของเวียดนาม สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย จัดวางเรียงรายอยู่เป็นจุดๆ ให้ได้ชม
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไปพิพิธภัณฑ์สงคราม มีระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 25 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 17.30 น.
พิกัด GPS : 10°46'44.9"N 106°41'32.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์สงคราม ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2504
5. ทำเนียบประธานาธิบดี (Independence Palace)
ทำเนียบประธานาธิบดี (Independence Palace) อาคารบรรยากาศน่าเกรงขามที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ของพระราชวังนโรดมเดิม สถาปัตยกรรมของอาคารแห่งนี้มีลักษณะเฉพาะของเวียดนามที่ผสานอย่างกลมกลืนกับโครงสร้างสมัยใหม่ โดยในช่วงสงครามเวียดนามที่นี่เคยเป็นที่พักและที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งเวียดนามใต้ เมื่อครั้งที่เวียดนามเหนือชนะเวียดนามใต้ทำเนียบแห่งนี้ก็ถูกยึดไป และถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในภายหลังเนื่องจากเป็นฉากแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของประวัติศาสตร์ไซ่ง่อน บริเวณด้านหน้ามีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ ด้านในอาคารมีทางเดินทอดยาวและห้องต่างๆ ทั้งห้องจัดเลี้ยง ห้องโถง ห้องประชุม ห้องแผนที่ ห้องทำงานอดีตประธานาธิบดี ห้องฉายหนัง บนดาดฟ้ามีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และยังมีชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยห้องลับบัญชาการอีกมากมายหลายห้อง
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไปทำเนียบประธานาธิบดี มีระยะทาง 6.6 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที รถประจำทางสายที่ผ่านคือ 152
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 -15.30 น.
พิกัด GPS : 10°46'37.1"N 106°41'43.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทำเนียบประธานาธิบดี ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2503
6. เจดีย์จักรพรรดิหยก (Jade Emperor Pagoda)
เจดีย์จักรพรรดิหยก (Jade Emperor Pagoda) เจดีย์จักรพรรดิหยก หรือ วัดพระหยก เป็นวัดนิกายเต๋าที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โดยชาวจีนที่อพยพมาจากกวางโจว ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุด และโด่งดังที่สุดของโฮจิมินห์ ภายในวัดประดิษฐานพระหยกที่ชาวเวียดนามให้ความเคารพศรัทธา ชาวเวียดนามนิยมมาเผาเครื่องหอมขอพรที่วัดแห่งนี้ แม้จะไม่ได้มีที่ขนาดใหญ่แต่วัดก็มีบรรยากาศร่มรื่นและมีที่สักการะแยกต่างหาก สิ่งที่โดดเด่นภายในวัดนี้นอกจากองค์พระหยกแล้วก็ยังมีไม้แกะสลักสวยงามเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนรกสิบแปดชั้น เตาหอมขนาดใหญ่ที่ชาวเวียดนามจะมาเผาเครื่องหอมขอพร และสระปล่อยเต่า สัตว์ที่สื่อถึงความอายุยืนและพลังตามความเชื่อ
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป เจดีย์จักรพรรดิหยก มีระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 24 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 -18.00 น.
พิกัด GPS : 10°47'30.2"N 106°41'51.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เจดีย์จักรพรรดิหยก ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2500
7. พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Museum)
พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Museum) ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากทำเนียบประธานาธิบดี และ โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1885-1890 โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบเป็นชาวฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับเมืองไซง่อนในอดีต ตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ไปจนถึงสถานะปัจจุบันในฐานะมหานครที่คึกคัก ภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนแสดงวิถีชีวิตผ่านเครื่องมือและหุ่นจำลองหลากหลายอาชีพ โซนทหาร เครื่องมือ เครื่องใช้และยุทธภัณฑ์ และโซนธนบัตร เหรียญเงินตรา เหรียญที่ระลึกและของที่ระลึกต่างๆ
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'33.0"N 106°41'58.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2558
8. โบสถ์ทันดินห์ (Tan Dinh Church)
โบสถ์ทันดินห์ (Tan Dinh Church) โบสถ์สีชมพูอ่อนหวาน ความสูง 60 เมตร ที่มองเห็นได้จากระยะไกลแห่งนี้ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันโดยมีส่วนผสมของศิลปะโกธิกและเรอเนซองส์เป็นหลัก มียอดแปดเหลี่ยมพร้อมไม้กางเขนทองแดง โบสถ์ทันดินห์ยังเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนครโฮจิมินห์ โบสถ์ทันดินห์สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1876 ปัจจุบันเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองโฮจิมินห์รองจากมหาวิหารไซ่ง่อน น็อทร์-ดาม และกล่าวกันว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่โดดเด่นที่สุดในเวียดนามเนื่องจากสีสันและบรรยากาศ จากภายนอกจะสามารถมองเห็นหอคอยสามแห่ง รวมทั้งหอระฆังซึ่งมีสี่ชั้น โดยที่ชั้นสองของหอระฆังจะมีนาฬิกาทรงกลมสีขาวขนาดใหญ่กรอบสีชมพูและเลขโรมันสีทองประดับอยู่ ทุก 1 ชั่วโมงก็จะมีการตีระฆังบอกเวลาด้วย
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป โบสถ์ทันดินห์ มีระยะทาง 5.8 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 20 นาที
เวลาปิด - เปิด : วันจันทร์ – วันศุกร์ เปิดเวลา 8.00 - 11.30 น., 14.00 - 17.00 น. ปิดวันเสาร์และวันอาทิตย์
พิกัด GPS : 10°47'18.5"N 106°41'26.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบสถ์ทันดินห์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2554
9. โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Opera House)
โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Opera House) สถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมฝรั่งเศสในเวียดนาม ที่มีอายุกว่า 300 ปี สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1897 วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้แสดงอุปรากร เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่ชาวฝรั่งเศสในยุคนั้น โดยสถาปนิกผู้ออกแบบก็เป็นสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ในอดีตสถานที่แห่งนี้ยังเคยมีบทบาทเป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียดนามใต้ ปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นโรงละครและสถานที่จัดแสดงงานต่างๆ และเป็นหนึ่งในอาคารซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของเมืองไซ่ง่อน
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ มีระยะทาง 9.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 34 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'35.9"N 106°42'11.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2555
10. ถนนคนเดินบุยเวียน (Bui Vien Walking Street)
ถนนคนเดินบุยเวียน (Bui Vien Walking Street) หรือมีอีกชื่อว่า “ย่านแบ็คแพ็คไซ่ง่อน ฟามงูเหลา” (Pham Ngu Lao) เป็น "ถนนยุโรป" (European Street) ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในเวียดนาม อีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะเยี่ยมชมเมื่อมาเยือนเมืองไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ ถนนคนเดินบุยเวียนอยู่ห่างจากตลาดเบนถั่นประมาณ 1 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกจำนวนมากเลือกที่จะมาพักและดื่มด่ำกับบรรยากาศคึกคัก สนุกสนานในยามราตรีของไซ่ง่อนกันที่นี่จึงได้ชื่อว่า “ถนนยุโรป” ซึ่งคล้ายๆ กับถนนข้าวสารของเมืองไทย ตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้เรียงรายไปด้วยที่พัก ผับบาร์หลากสไตล์ อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารริมทางทั่วไปในราคาย่อมเยา โดยถนนคนเดินบุยเวียนจะปิดไม่ให้รถสัญจรในช่วงสุดสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 19.00 – 02.00 น. เมื่อมาเที่ยวโฮจิมินห์ควรมาที่นี่สักครั้งหากเป็นไปได้
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไปถนนคนเดินบุยเวียน มีระยะทาง 8.4 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง โดยถนนคนเดินบุยเวียนจะปิดไม่ให้รถสัญจรในช่วงสุดสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 19.00 – 02.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'02.8"N 106°41'38.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนคนเดินบุยเวียน ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2556
11. อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ (President Ho Chi Minh Statue)
อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ (President Ho Chi Minh Statue) อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาว่าการนครโฮจิมินห์ บนถนนคนเดินเหงียนเว้ รูปปั้นประธานโฮจิมินห์ยืนตระหง่านในอิริยาบถยกมือขวา ด้วยท่าทางแห่งความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่น เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและความชื่นชมอันยิ่งใหญ่ที่ชาวเวียดนามมีต่ออดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่อเอกราชและการรวมประเทศทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งเดียวและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 10°46'33.7"N 106°42'05.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ ได้ที่ : https://palanla.com/en/abroadLocation/detail/2575
12. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh The Museum of History)
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh The Museum of History) หรือที่รู้จักในชื่อพิพิธภัณฑ์ไซง่อน ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองโฮจิมินห์และภาคใต้ของเวียดนาม โดยเป็นที่รวบรวมโบราณวัตถุ เอกสาร และการจัดแสดงมากมายที่เน้นช่วงเวลาต่างๆ ของประวัติศาสตร์เวียดนาม รวมถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ อารยธรรมจาม ยุคอาณานิคมฝรั่งเศส และสงครามเวียดนามด้วยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมรดกอันยาวนานของโฮจิมินห์ซิตี้
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 08.00 – 11.30 น. และ 13.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 10°47'16.4"N 106°42'17.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นครโฮจิมินห์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2573
13. ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Hall)
ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Hall) อาคารสีเหลืองนวลที่มีสถาปัตยกรรมงามสง่า ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ประธานาธิบดีโฮจิมินห์แห่งนี้ คือสถานที่ที่ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของโฮจิมินห์ซิตี้ และยังเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารเมืองโฮจิมินห์ด้วย ศาลาว่าการโฮจิมินห์ซิตี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1902 – 1908 เดิมทีสร้างขึ้นเป็น Hôtel de Ville ซึ่งทำหน้าที่เป็นศาลากลางและศูนย์กลางการปกครองของรัฐบาลอาณานิคมฝรั่งเศส รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานระหว่างอิทธิพลของฝรั่งเศสและยุโรปคลาสสิก โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Femand Gardès ภายในอาคารตกแต่งอย่างโอ่อ่า ด้วยห้องโถงกว้างขวางและองค์ประกอบที่วิจิตร ทว่านักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมศาลาว่าการและถ่ายรูปได้จากด้านนอก ส่วนด้านในนั้นจำกัดไว้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 07.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'35.7"N 106°42'03.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2576
14. มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน (Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon)
มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน (Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหาวิหารพระแม่ปฏิสนธินิรมล (Cathedral Basilica of Our Lady of The Immaculate Conception) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่มีชื่อเสียงในเมืองโฮจิมินห์ มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวอาณานิคมฝรั่งเศสระหว่างปีค.ศ. 1863 - 1880 โดยสร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมนีโอโรมาเนสก์ มีหอระฆัง 2 หอ แต่ละหอมีความสูงถึง 58 เมตร อิฐสีแดงที่สวยงามที่ใช้ในการก่อสร้างนั้นถูกนำมาจากเมืองมาร์เซย์ ประเทศฝรั่งเศส มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อนไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทางศาสนาเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกด้วย เพราะได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ มากมายในประวัติศาสตร์ของเวียดนาม รวมถึงการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในช่วงสงครามเวียดนาม
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 11 น. และ 14.00 – 16.00 น.
พิกัด GPS : 10°46'47.1"N 106°41'56.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2574
15. จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค (Saigon Skydeck)
จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค (Saigon Skydeck) เป็นจุดชมความงามของโฮจิมินห์ซิตี้จากมุมสูง ที่จะเผยให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและบริเวณโดยรอบแบบพาโนรามา 360 องศา จากชั้นที่ 49 ของตึก Bitexco Financial Tower จากจุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันอันตระการตาของสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำไซง่อน มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซ่ง่อน และถนนที่พลุกพล่านของเมืองโฮจิมินห์ ถือเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการชมเมืองโฮจิมินห์ ถ่ายภาพประทับใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟ นอกจากนี้ที่ Skydeck Café ยังมีเครื่องดื่มให้บริการแกล้มกับการชมวิวทิวทัศน์สวยๆ อีกด้วย
ข้อมูลการเดินทาง : จากท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ไป จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.30 – 21.30 น.
พิกัด GPS : 10°46'17.7"N 106°42'15.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2571
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม https://www.vietnamtourism.com
สกุลเงินที่ใช้ : ดงเวียดนาม (VND)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย www.vietnamembassy-thailand.org
อัตราค่าบริการแท๊กซี่ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
ภูเขาฟานซีปัน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฟานซีปัน (Fansipan Mountain) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามและภูมิภาคอินโดจีน บนยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถมองเห็นธรรมชาติได้รอบทิศ และมีทิวทัศน์ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล โดยในฤดูใบไม้ผลิจะปกคลุมไปด้วยหมอกหนา และดอกซากุระกับดอกพลัมจะบานสะพรั่ง ในฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบสีแดงสดบานไปทั่วภูเขา ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีเมฆมาก เมื่อมองลงมาจากยอดเขาจะเห็นเมฆหมอกล่องลอยและทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของเมืองซาปาเบื้องล่าง และในฤดูหนาวจะมีแม่คะนิ้งและมีหิมะปกคลุมในช่วงที่อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า -9 องศาเซลเซียส เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ