7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง

  • อ่าน (4,330)
  • ByWebmaster Webmaster
  • 14:17:22 | 3 เม.ย. 2566

7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง

             หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ


แผนที่ตั้ง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
 

1. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

             อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya Historical Park)  เป็นเขตโบราณสถานครอบคลุมพื้นที่จำนวนกว่า 3,000 ไร่ และประกอบไปด้วยพระราชวัง วัด และโบราณสถานสำคัญจำนวน 28 แห่ง อุทยานแห่งนี้ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 จากองค์กรยูเนสโก ในนาม “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” ด้วยเหตุผลว่า “เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว”

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°21'02.5"N 100°33'25.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ที่ : https://palanla.com/th/domesticLocation/detail/1333
 

2. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

             พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (King Naresuan The Great Monument) เป็นพระรูปทรงม้าศึก เหตุการณ์ตอนทรงม้าออกมาสังหาร “ลักไวทำมู” ทหารเอกของพระเจ้าหงสาวดี ประดิษฐานบนแท่นและลานหินสีขาว พร้อมเครื่องราชูปโภค 4 อย่าง ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะสวยงาม โอบล้อมด้วยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสมรภูมิรบหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน โดยเมื่อปีพ.ศ. 2129 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกระทำศึกที่บริเวณทุ่งภูเขาทอง และเป็นฝ่ายเอาชนะพม่าได้ในที่สุด ภูมิทัศน์บริเวณรอบๆ พระบรมราชานุสาวรีย์มีความสวยงาม ใกล้ๆ กันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีสวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่น สำหรับให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.

พิกัด GPS : 14°22'19.2"N 100°32'30.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ที่https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=255
 

3. พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

             พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (Somdet Phra Suriyothai Monument) เป็นพระราชานุสาวรีย์แห่งวีรสตรีไทยสมัยอยุธยา หล่อด้วยสำริด มีขนาดหนึ่งเท่าครึ่งขององค์จริงประทับอยู่บนหลังพระคชาธาร ณ บริเวณทุ่งมะขามหย่องที่ในอดีตเคยเป็นสมรภูมิการสู้รบระหว่างไทยกับพม่าหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงวีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่คือเมื่อครั้งที่สมเด็จพระสุริโยทัย พระอัครมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรจนต้องพระแสงของ้าว สิ้นพระชนม์บนคอช้าง นอกจากองค์พระราชานุสาวรีย์อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดอยุธยาแล้ว บริเวณทุ่งมะขามหย่องนี้ยังเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในด้านการป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งกักเก็บน้ำอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 14°23'01.8"N 100°31'34.4"E

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=256
 

4. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

             พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (King Narai the Great Monument) เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นกลางวงเวียนพระนารายณ์ และเป็นแลนด์มาร์กบริเวณใจกลางเมืองลพบุรี พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้เป็นพระบรมรูปโลหะรมดำ ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง ในพระอิริยาบทประทับยืน ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ พระบาทซ้ายวางเยื้องมาข้างหน้าเล็กน้อย พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณูปการณ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทรงมีต่ออาณาจักรอยุธยา และเมืองลพบุรี

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 14°47'58.3"N 100°39'11.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=553
 

5. พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี

             พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ วังนารายณ์ (Phra Narai Ratchanivet) เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ เพื่อใช้เป็นที่ประทับที่เมืองลพบุรี ที่นี่จึงเป็นทั้งที่ประทับ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ปัจจุบันพระนารายณ์ราชนิเวศน์คงเหลือเพียงซากปรักหักพังและได้รับการบูรณะดูแลในฐานะโบราณสถานให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ซึ่งนอกจากจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาคารต่างๆ ในอดีตแล้ว ภายในบริเวณยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ให้ศึกษาเที่ยวชมอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 – 17:30 น.

พิกัด GPS : 14°48'00.9"N 100°36'42.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=552
 

6. อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี

             อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน (Bang Rachan Memorial Park) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 115 ไร่ ภายในบริเวณอุทยานค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเป็นรูปหล่อประติมากรรมของหัวหน้าชาวค่ายบางระจันทั้ง 11 คน ได้แก่ นายจันหนวดเขี้ยว นายโชติ นายดอก นายทองแก้ว นายทองเหม็น นายทองแสงใหญ่ นายแท่น นายเมือง พันเรือง ขุนสรรค์ และ นายอิน อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันที่ช่วยต่อต้านทัพพม่า และรักษาบ้านเมืองไว้ได้เป็นเวลานานก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.2310 ในปัจจุบัน มีการจำลองรูปแบบค่ายในสมัยโบราณ และมีอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจันให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00 – 18:45 น.

พิกัด GPS : 14°48'19.6"N 100°19'14.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=585
 

7. พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (อนุสรณ์ดอนเจดีย์) จ.สุพรรณบุรี

             พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ (Don Chedi Monument) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า และได้ประกาศอิสรภาพไม่เป็นเมืองขึ้นของพม่าอีกต่อไป เมื่อชนะศึกแล้วจึงได้สร้างพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันกองทัพบกได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกา ครอบพระเจดีย์องค์จริงที่พระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเมื่อปี พ.ศ. 2135 เอาไว้ ซึ่งเจดีย์องค์จริงได้ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2456 โดยเจ้าพระยาสุพรรณฯเป็นผู้ค้นพบ

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06.00 – 18.00 น.    

พิกัด GPS : 14°37'59.9"N 100°01'16.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/domesticLocation/detail/1451

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ