- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

- อ่าน (3,632)
- ByWebmaster
- 10:56:04 | 25 ม.ค. 2565
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
Ton Sak Yai National Park, Uttaradit, Thailand
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ (Ton Sak Yai National Park) เป็นบ้านของต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก อายุราว 1,500 ปี ที่ถูกพบเมื่อประมาณปี พ.ศ. พ.ศ. 2470
ประวัติ
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ อยู่ที่ ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติคลองตรอน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2555 เพื่อให้การเรียกชื่ออุทยานแห่งชาติมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของความโดดเด่นตามสภาพธรรมชาติในท้องถิ่น
ในพื้นที่อุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง หนึ่งในจุดสำคัญก็คือ ต้นสักใหญ่ หรือ "มเหสักข์" เป็นต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกที่ถูกพบเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2470 ต้นสักต้นนี้มีอายุประมาณ 1,500 ปี มีความสูง 47.8 เมตร ความยาวรอบต้น 1,007 เซนติเมตร (วัดเมื่อ 18 มิถุนายน 2543) แม้ส่วนยอดถูกพายุพัดหักแต่ลำต้นส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม และได้รับการดูแลรักษาให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์มาโดยตลอด และเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศ ณ ขณะนั้น) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "มเหสักข์" เพื่อความเป็นสิริมงคลของชาวไทย
ทางอุทยานฯ ได้จัดสร้างทางเดินเป็นแบบสะพานไม้ยกพื้นสูงรอบโคนต้นสักใหญ่ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินบนผิวดินบริเวณโคนต้นสัก เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบให้ต้นสักตายได้ รอบๆ โคนต้นทำเป็นหลุมสำหรับให้ปุ๋ยต้นสักลงบนผิวดิน
นอกจากนี้ ภายในอุทยานยังมีอาคารซึ่งจัดแสดงนิทรรศการต้นสักใหญ่ รวมทั้งประวัติความเป็นมาต่างๆ รวมถึงมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 2 กิโลเมตร
บรรยากาศทางเดินรอบๆ “มเหสักข์” ต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มเหสักข์” หรือ ต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่
"มเหสักข์" ถูกพบเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2470
ภาพต้นมเหสักข์ จากอดีต – ปัจจุบัน
บรรยากาศร่มรื่นและปกคลุมไปด้วยต้นสักสูงชะลูดภายในอุทยานฯ
การเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดพิษณุโลก แล้วเดินทางโดยรถยนต์ต่อมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ อยู่ที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากตัวจังหวัด 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 18.00 น
อาคารจัดแสดงนิทรรศการต้นสักใหญ่ รวมทั้งประวัติความเป็นมาต่างๆ
อัตราค่าเข้าชม
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่
ชม "มเหสักข์" ต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเยี่ยมอาคารจัดแสดงนิทรรศการต้นสักใหญ่ รวมทั้งประวัติความเป็นมาต่างๆ
มเหสักข์" ต้นใหญ่อายุกว่า 1,500 ปี ล้อมรอบด้วยบรรดาต้นสักนับร้อยๆ ต้นภายในอุทยานฯ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
(Ton Sak Yai National Park, Uttaradit, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 18.00 น
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
โทรศัพท์ : (+66) 064 554 6007
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ https://uttaradit.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุตรดิตถ์ http://www.uttaradit.go.th/journey/index2.htm
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
อ่านต่อ
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
อ่านต่อ
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
อ่านต่อ
น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา
อ่านต่อ
วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดศรีโคมคำ (Wat Si Khom Kham) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยามาอย่างช้านาน ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระพุทธรูปที่มีนามว่าพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวงนอกจากจะเป็นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยาแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาอีกด้วย โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระเจ้าตนหลวงเดือนแปดเป็งขึ้นที่วัดศรีโคมคำแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระธาตุจอมทอง (Wat Phra That Chom Thong) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยาที่ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทองซึ่งเป็นเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยศิลปะล้านนาอย่างงดงาม ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่นี่จึงเป็นปูชนียสถานที่ชาวพะเยาเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ จากบริเวณด้านบนดอยยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นป่าไม้และกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดนันตาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดนันตาราม (Wat Nantaram) เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่เมื่อในอดีต มีเอกลักษณ์จากวิหารไม้สักทั้งหลังที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าแท้อย่างวิจิตรงดงาม ภายในบริเวณมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงธนบัตรเก่าและข้าวของเครื่องใช้โบราณ นอกจากนี้ในช่วงวันสำคัญทางศาสนายังมีการแสดงทางวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่บริเวณหน้าวิหารให้ได้ชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดติโลกอาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดติโลกอาราม (Wat Tilok Aram) เป็นวัดเก่าแก่ที่จมอยู่ใต้กว๊านพระเยา มีเพียงยอดเจดีย์เท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือไปชมวัดแห่งนี้ พร้อมสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อศิลาที่ได้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้บนพื้นที่ด้านบน โดยไฮไลท์จะอยู่ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ที่จะมีการเวียนเทียนกลางน้ำรอบพระธาตุเจดีย์วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวในโลกที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
กว๊านพะเยา (Phayao Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่รองรับน้ำจากลำห้วยต่างๆ ไว้กว่า 18 สาย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพะเยา ภายในบริเวณมีความสวยงามจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติของบึงน้ำขนาดใหญ่และทิวเขาที่โอบล้อม บริเวณริมฝั่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยรูปปั้นองค์พญานาคคู่สีขาวสององค์ เป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งกว๊านพะเยา ผู้คนนิยมมาชมวิว ถ่ายภาพ และชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ