- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ทุ่งดอกหงอนนาค จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
ทุ่งดอกหงอนนาค จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
- อ่าน (6,496)
- ByWebmaster
- 17:19:22 | 21 พ.ค. 2564
ทุ่งดอกหงอนนาค จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
Murdannia Giganteum Field, Uttaradit, Thailand

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos
ทุ่งดอกหงอนนาค (Murdannia giganteum field) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกสีม่วงอ่อน ม่วงน้ำเงิน ขาว และชมพู แต่งแต้มความสวยงามอ่อนหวานให้กับผืนป่าในฤดูฝน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่นอกจากจะเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยแล้วยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคที่สวยที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย

ประวัติ
ดอกหงอนนาค มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน มีทั้งดอกสีม่วงอ่อน ม่วงน้ำเงิน ขาว และชมพู ซึ่งสีที่สามารถพบเห็นได้มากกว่าสีอื่นๆ คือสีม่วงอ่อน ในยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอกและจะบานเมื่อมีแสงแดด ส่วนกลางของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ เป็นที่มาของชื่ออันไพเราะเพราะพริ้งว่า “น้ำค้างกลางเที่ยง”
ลานสนที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ เป็นป่าสนสามใบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตามพื้นดินของภูสอยดาวที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้ามีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดออกดอกหมุนเวียนอวดความงามตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงเวลาอวดโฉมของดอกหงอนนาค เจ้าของฉายา “นางเอกแห่งภูสอยดาว” แม้ว่าดอกหงอนนาคจะเป็นพืชล้มลุกที่สามารถพบได้บ้างตามภูเขาอื่นๆ อาทิ เขาสมอปูน ทุ่งโนนสน เขาใหญ่ และแห่งอื่นๆ ทว่าภูสอยดาวยังคงได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในเมืองไทยที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติใฝ่ฝันจะเดินทางไปสัมผัสกับความงามสีม่วงอ่อนนี้อยู่เสมอมา
ช่วงเวลาที่ดอกหงอนนาคบนภูสอยดาวจะพร้อมใจกันเบ่งบานคือช่วงกลางฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. - ปลายเดือน ก.ย. โดยจะบานเต็มที่ในช่วงราวเดือน ส.ค. - ก.ย. บนภูสอยดาวมีทุ่งดอกหงอนนาคให้ชมหลายทุ่งด้วยกัน ทั้งบริเวณลานสนและบริเวณจุดกางเต็นท์ที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งดอกหงอนนาค 2 ทุ่งใหญ่ๆ รวมไปถึงตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติด้วย
การเดินทางขึ้นไปชมดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาวนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กม. โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ทั้งหมด 5 เนิน ได้แก่ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ จากนั้นจึงจะถึงลานสนที่จากนักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศของต้นสนสูงชะลูดรูปทรงสวยงามและดอกหงอนนาคแสนสวย ทางเดินแต่ละช่วงก่อนจะถึงลานสนนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันไป มีทั้งทางเดินเลียบน้ำตก มีเนินขึ้น-ลงเป็นระยะ และมีทางเดินขึ้นเขาที่มีบันไดเหล็กไว้ให้ปีนขึ้นเป็นช่วงๆ โดยเนินที่ชันที่สุดและมีทิวทัศน์ที่สวยที่สุดคือบริเวณเนินมรณะ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่บดบัง สามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกลของทิวเขาเขียวขจีที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่างๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ ทว่าต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095-629-9528, 091-024-7633 และ 095-625-8839 หรือสอบถามทาง inbox เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park
แต่ละปีภูสอยดาวจะแบ่งช่วงเวลาขึ้นภูเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่ดอกหงอนนาคบาน (กรกฎาคม – ต้นตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ไม่สามารถพิชิตยอดได้เนื่องจากอันตราย) และช่วงพิชิตยอด (พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม)

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos
การเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์

- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดพิษณุโลก แล้วเดินทางโดยรถยนต์ต่อมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์
การเดินทางไปทุ่งดอกหงอนนาค
ทุ่งดอกหงอนนาค อยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 2 ชั่วโมง 30 นาที
นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการรถรับส่งที่ติดต่อจองกับทางเพจของอุทยาน มีทั้งรถเก๋งสำหรับ 4 คน ราคาเที่ยวละประมาณ 1,500 บาท รวมถึงรถแวนสำหรับ 7 คน รถตู้สำหรับ 10 คน และรถสองแถวสำหรับ 12 คน
เวลาทำการเปิด – ปิด
ในช่วงขึ้นภู อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos
อัตราค่าเข้าชม
ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวทุ่งดอกหงอนนาค
ชมความงามของทุ่งดอกหงอนนาค ดื่มด่ำกับบรรยากาศของต้นสนสูงชะลูดรูปทรงสวยงามที่ลานสนภูสอยดาว และธรรมชาติที่บริสุทธิ์ภายในอุทยานฯ

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่ดอกหงอนนาคบนภูสอยดาวบานคือช่วงกลางฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. - ปลายเดือน ก.ย. โดยจะบานเต็มที่ในช่วงราวเดือน ส.ค. - ก.ย.
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นอกจากค่าเข้าอุทยานฯ แล้ว ยังมีค่ามัดจำขยะ 200 บาท โดยขาลงนักท่องเที่ยวต้องนำขยะใส่ถุงลงมาด้วยเพื่อรับเงินคืน และเมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วนักท่องเที่ยวต้องพกบัตรค่าบริการติดตัวไว้ด้วยเผื่อสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจ

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ้คอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว https://www.facebook.com/phusoidao07/photos
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ทุ่งดอกหงอนนาค สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ทุ่งดอกหงอนนาค จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
(Murdannia giganteum field, Uttaradit, Thailand)
ระดับความนิยม : ![]()
อัตราค่าเข้าชม : ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด : ในช่วงขึ้นภู อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
โทรศัพท์ : (+66) 095-629-9528, 091-024-7633 และ 095-625-8839
เว็บไซต์ : http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9114
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ https://uttaradit.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุตรดิตถ์ http://www.uttaradit.go.th/journey/index2.htm
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุโมงค์ขุนตาน จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน
อ่านต่อ
สะพานขาวทาชมภู จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
สะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (Wat Phrabhuddabat Huai Tom) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ วัดแห่งนี้วัดมีตำนานความเป็นมาจากเมื่อครั้งพระพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดงไม้ตาลและประทับบนดอยนางพี่ ภายในวัดมีพระธาตุเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมพม่าโดดเด่นงดงาม
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat Phrabhuddabat Tak Pha) เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน โดยนับถือกันว่ามีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก และมีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้าอยู่
อ่านต่อ
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย (Phra Mahathat Chedi Si Wiang Chai) เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดลำพูนที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ที่สร้างโดยมีแนวคิดการจำลองแบบมาจากมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองในพม่า
อ่านต่อ
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง (Thai Elephant Conservation Center) เคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้างที่แรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อให้ความรู้และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้าง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความสนใจ
อ่านต่อ
วัดเชียงราย จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
วัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว
อ่านต่อ
น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ประเทศไทย
น้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย
อ่านต่อ
ถ้ำสีฟ้า จังหวัดตาก ประเทศไทย
ถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"
อ่านต่อ