- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดอินทขีล จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
วัดอินทขีล จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

- อ่าน (3,490)
- ByWebmaster
- 17:18:41 | 24 พ.ค. 2561
วัดอินทขีล จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Wat Inthakhin, Chiang Mai Province, Thailand
วัดอินทขีล หรือ วัดสะดือเมือง หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดอินทขีลสะดือเมือง เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ของเมืองเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย
โดยวัดอินทขีลนั้น เคยเป็นที่ตั้งของเสาอินทขีลหรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่ ที่จะประดิษฐานอยู่ที่ใจกลางเมือง หรือที่เรียกว่า สะดือเมือง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยโบราณ รวมถึงเป็นแหล่งรวมศรัทธาที่สำคัญอีกแห่งของชาวเมืองเชียงใหม่
ถึงแม้ปัจจุบัน ภายในวัดอินทขีลจะไม่มีเสาอินทขีลดั้งเดิม เนื่องจากถูกย้ายไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวงแล้ว แต่ประชาชนชาวเชียงใหม่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับวัดนี้ เนื่องจากภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อขาว พระศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีที่ผู้คนศรัทธา ดังนั้น ในทุกๆเทศกาลสำคัญอาทิ ปีใหม่หรือสงกรานต์ จะมีการมาทำบุญขึ้นปีใหม่ หรือสะเดาะเคราะห์ประจำปีที่วัดนี้อยู่เสมอ รวมถึงในวันธรรมดาด้วยเช่นกัน
ภายในวิหารของวัดอินทขีลสะดือเมืองที่เคยเป็นที่ประดิษฐานเสาอินทขีล
หลวงพ่อขาว (องค์ใหญ่ด้านหลัง) อีกหนึ่งพระเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่
ด้านนอกของวิหารที่ก่อสร้างตามศิลปะล้านนาเช่นกัน
รูปประดับที่บานประตูของวิหาร
หลวงพ่อทันใจตรงข้ามวิหารหลวงพ่อขาว อีกหนึ่งพระที่วัดในเมืองเชียงใหม่นิยม
เสาอินทขีลจำลองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ใกล้ๆกับวิหารหลวงพ่อขาว
ความเป็นมาของวัดอินทขีล
เชื่อกันว่าคำว่า อินทขีล ซึ่งเป็นชื่อของวัดนั้นมาจากคำในภาษาบาลีว่า อินทขีละ ซึ่งหมายถึงเสาหินหรือเสาหลักเมือง โดยมีที่มาจากความเชื่อว่าพญามังรายผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ได้สร้างวัดขึ้นที่แห่งนี้เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของเสาหลักเมืองในราวปี (พ.ศ.1835) และได้รับความสำคัญจากกษัตริย์รวมถึงประชาชนเมืองเชียงใหม่สืบเนื่องยาวนาน ก่อนที่จะกลายเป็นวัดร้างเมื่อคราวที่เมืองเชียงใหม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพม่าในช่วงกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาพระเจ้ากาวิละ ผู้เป็นปฐมกษัตริย์ที่ปกครองเมืองเชียงใหม่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ได้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ขึ้น และในปี (พ.ศ. 2343) ได้ย้ายเสาอินทขีลจากที่แห่งนี้ไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวงแทน และได้อัญเชิญพระอุ่นเมืองหรือหลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีที่ชาวเมืองศรัทธา มาประดิษฐานไว้ภายในวิหารวัดอินทขีลแทน จากนั้นจึงสร้างวิหารคร่อมวิหารเดิมเอาไว้ และมีการบูรณะอีกครั้งในช่วงไม่กี่สิบปีก่อน จนมีสภาพสวยงามดังที่เห็นในปัจจุบัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.finearts.go.th/fad8/parameters/km/item/วัดสะดือเมือง.html)
วิหารที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่อันสวยงามของวัดอินทขีล
การเดินทางไปวัดอินทขีล อ.เมือง จ.เชียงใหม่
วัดเจดีย์หลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยประมาณ 696 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้หลายวิธี คือ
- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเที่ยวบินได้ทั้งจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางใต้ 4 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินที่ให้บริการ รวมถึงตารางเวลาเพิ่มเติมได้ที่ http://chiangmaiairportthai.com/
- รถโดยสารประจำทาง บริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เนื่องมาจากจำนวนรอบต่อวันที่ค่อนข้างมาก รวมถึงเที่ยวเวลาและผู้ให้บริการที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) (หรือสถานีหมอชิต) และลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1490, 0-2872-1777 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th และเว็บไซต์ http://www.thairoute.com
- รถไฟ เป็นอีกบริการขนส่งสาธารณะสำหรับเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนยาวในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากใช้เวลาในการเดินทางยาวประมาณ 11 – 13 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเวลา, ราคา ตลอดจนสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://www.railway.co.th/ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1690
- รถยนต์ / รถรับจ้าง เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และนักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกแวะพักหรือท่องเที่ยวจังหวัดระหว่างทางซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้อีกด้วย
ทั้งนี้หลังจากมาถึงเมืองเชียงใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปยังวัดอินทขีล ซึ่งตั้งอยู่ ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างง่ายๆ หลายวิธี อาทิ
- รถโดยสารประจำทางสีแดง (รถแดง) หรือ รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งให้บริการวิ่งวนรอบเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถได้ทั้งจากที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ หรือบริเวณอื่นๆในตัวเมือง โดยสามารถตกลงราคากันได้ประมาณ 15 – 60 บาท/คน ตามแต่จุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นรถ
- รถแท็กซี่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีให้บริการทั้งจาก แท็กซี่ของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดและอัตราค่าบริการกรณีเหมาจ่ายได้ที่ http://www.taxichiangmai.com/ หรืออาจเลือกใช้บริการแท็กซี่อย่าง Grabcar ซึ่งเมืองเชียงใหม่มีบริการระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx
- รถยนต์/รถจักรยานยนต์ นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเอง สามารถนำรถไปจอดใกล้ๆกับบริเวณวัดได้
- การเดินเท้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีที่พักอยู่ในตัวเมืองแล้ว สามารถเดินทางไปยังวัดเจดีย์หลวงได้ง่ายๆ โดยสามารถเลือกดูรายละเอียดระยะทางและเวลาเพิ่มเติมโดยการใช้บริการ https://www.google.com/maps
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดอินทขีลได้ ทุกวัน และตลอดเวลา
ป้ายชื่อเต็มของวัดอินทขีลสะดือเมืองซึ่งตอนกลางคืนจะเปิดไฟรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือน
อัตราค่าเข้าชม
ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ฤดูกาลและเทศกาลสำคัญกับการเที่ยววัดอินทขีล
นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนวัดอินทขีลได้ทุกฤดู โดยช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ช่วงฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม แต่หากนักท่องเที่ยวเลือกมาในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมรับมือกับอากาศร้อน (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซสเซียสขึ้นไป) และลมมรสุมหน้าร้อน เช่นเดียวกับในฤดูฝน (เดือนกรกฏาคม – เดือนตุลาคม) ซึ่งมักจะมีฝนฟ้าคะนองกะทันหันบ่อยครั้งจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวชมได้
ทั้งนี้ ในทุกๆวันอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ บริเวณใกล้ๆกับวัดอินทขีล คือลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์, ถนนราชมรรคา ไปจนถึงถนนราชดำเนินประตูท่าแพ ยังเป็นที่ตั้งของ ถนนคนเดินท่าแพ อันมีชื่อเสียงของเชียงใหม่ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปเที่ยวชมพร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าได้อีกด้วย
ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ที่อยู่ใกล้ๆกับวัดอินทขีล
และนอกจากถนนคนเดินท่าแพแล้ว ในช่วงวันสำคัญต่างๆ อาทิ วันสงกรานต์, วันลอยกระทง วัดอินทขีลยังอาจมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ การเขียนแผ่นใบโพธิ์ต่อชะตา, การสรงน้ำหลวงพ่อขาว และ ฯลฯ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถตรวจสอบเวลาในการจัดงานเทศกาลต่างได้ที่หน้าแฟนเพจการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาในการเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวง ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดอินทขีล จ.เชียงใหม่
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว วัดอินทขีลยังถือเป็นสถานที่สำคัญที่ชาวเชียงใหม่เคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมวัดอินทขีล จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน และกางเกงหรือกระโปรงสั้น และไม่ใส่รองเท้าเข้าไปในวิหารหรืออาคารที่ห้ามไว้โดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ เนื่องจากวัดอินทขีลตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ จึงมีบริการร้านอาหารและที่พักแรมให้นักท่องเที่ยวเลือกพักมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทส หรือบูติคโฮเทล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวชมวัดอินทขีลเสร็จแล้ว แต่ยังมีเวลาเหลือ สามารถเลือกที่จะไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นๆที่อยู่ไม่ห่างกันนัก อาทิ วัดเจดีย์หลวง, วัดพระสิงห์, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือ ฯลฯ
วิหารใหม่ของวัดอินทขีลที่โดดเด่นในความงามรอให้นักท่องเที่ยวไปชื่นชม
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดอินทขีล สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดอินทขีล จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
(Wat Inthakhin, Chiang Mai Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวันและตลอดเวลา
ฤดูกาลต่างๆในการท่องเที่ยว : ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) เป็นฤดูกาลที่ได้รับความนิยมที่สุดในการท่องเที่ยว
ระวังอากาศที่ร้อนจัดในเดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน
และหลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะมีปริมาณมาก
ตั้งอยู่ที่ : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/
สำนักงานการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ http://www.cm-mots.com/
Facebook Fanpage การท่องเที่ยวเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com
บริการรถเมลล์เชียงใหม่ http://www.cityupdate.in.th/chiangmai/?p=23
ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ http://www.airportthai.co.th/chiangmai/th
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
อ่านต่อ
วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
อ่านต่อ
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
อ่านต่อ
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
อ่านต่อ
น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา
อ่านต่อ
วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดศรีโคมคำ (Wat Si Khom Kham) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยามาอย่างช้านาน ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระพุทธรูปที่มีนามว่าพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวงนอกจากจะเป็นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยาแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาอีกด้วย โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระเจ้าตนหลวงเดือนแปดเป็งขึ้นที่วัดศรีโคมคำแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระธาตุจอมทอง (Wat Phra That Chom Thong) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยาที่ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทองซึ่งเป็นเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยศิลปะล้านนาอย่างงดงาม ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่นี่จึงเป็นปูชนียสถานที่ชาวพะเยาเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ จากบริเวณด้านบนดอยยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นป่าไม้และกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
อ่านต่อ