- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (3,737)
- By Webmaster
- 11:41:00 | 13 พ.ย. 2562
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan
บรรยากาศอันร่มรื่นบริเวณด้านหน้าศาลเจ้าหลัก
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของศาสนาชินโตแห่งนี้ ถือเป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และยังแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่นของเมืองนาโกย่า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้ากันหนาแน่นทุกวัน
แผนที่ตั้ง อัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของตัวศาลเจ้าหลัก
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ชินโต (Shintoism) เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยความเชื่อ พิธีกรรม ประเพณีที่สืบทอดกันมาจากศาสนาชินโตนั้น ถือเป็นรากเหง้าของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะพบเห็นได้จากการกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ งานรับขวัญเด็กแรกเกิด พิธีศพ ฯลฯ ที่มีพื้นฐานมาจากคำสอน และธรรมเนียมปฎิบัติของศาสนาชินโตทั้งสิ้น โดย ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ป่าไม้ดูร่มรื่นของเมืองนาโกย่าแห่งนี้ นับเป็นศาสนสถานที่บ่งบอกถึงความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ของศาสนาชินโต ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความนับถือที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาศาลเจ้าประจำศาสนาชินโตที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ โดยมีการสันนิษฐานว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในสมัยของพระจักรพรรดิเคโกะ (Emperor Keiko) ที่ครองราชย์สมบัติในช่วงปี ค.ศ. 71 – 103 จึงนับเป็นศาลเจ้าที่มีอายุกว่า 1,900 ปีเลยทีเดียว
จุกสักการะขอพรประจำศาลเจ้า
บ่อน้ำล้างมือโบราณของศาลเจ้า
ศาลาเก็บถังสาเกที่ผู้มาสักการะศาลเจ้านำมาบริจาค
โดยปี ค.ศ. 1893 ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคสมัย (Meiji Period) ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และมีการเปลี่ยนรูปทรงทางสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นแบบชินเม (Shinmei-Zukuri) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมหลักของศาลเจ้าส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โดยสถาปัตยกรรมแนวนี้มีต้นแบบมาจากศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (The Grand Shrine of Ise) ศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาชินโต ก่อนที่ต่อมาศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู แห่งนี้จะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1955 หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนอกจากตัวศาลเจ้าหลักแล้ว ภายในพื้นที่ยังมีโบราณวัตถุน่าสนใจเกี่ยวกับศาสนาชินโตอีกหลายจุด ทั้งเสาโทริอิ (Torii) ไอคอนสำคัญที่เป็นภาพจำเวลานึกถึงศาสนาชินโต หรือจะเป็นรั้วโนบุนากะ (Nobunaga Wall) สิ่งก่อสร้างสำคัญที่เป็นเหมือนบันทึกสำคัญของโชกุนโอดะ โนบูนางะ (Oda Nobunaga) ซึ่งเคยมาขอพรที่ศาลเจ้านี้ก่อนทำศึกและได้ชัยชนะกลับมาในศึกแห่งโอเค ฮาซามะ (Okehazama) สงครามซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดศึกหนึ่งของประเทศ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นจุดสักการะสำคัญที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพร เวลาจะต้องทำการแข่งขัน หรือเริ่มต้นทำอะไรสำคัญด้วย ทั้งยังมีบ่อน้ำล้างมือโบราณ ศาลาเก็บถังสาเกเก่าแก่ ฯลฯ ให้ได้ไปเดินชมอีกหลายจุด
เสาโทริอิประจำศาสนาชินโตของศาลเจ้า
ต้นการบูรอายุกว่า 1,000 ปีของศาลเจ้า
อีกหนึ่งจุดเด่นของศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู คือพื้นที่โดยรอบซึ่งแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ดูร่มรื่นเหมาะแก่การมาเดินเล่นที่สุด มีต้นการบูรสูงใหญ่อายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งบริเวณโคนต้นไม้จะมีไข่ที่คนในพื้นที่นำมาถวายตามความเชื่อของคนในพื้นที่ว่าต้นการบูรนี้เป็นที่สิ่งสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้า และมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่เก็บ ดาบคุซานางิ (Kusanagi Sward) หนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ระดับตำนานของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แม้จะยังไม่มีการนำออกมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันก็ตาม แต่ศาลเจ้าก็มีพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Shrine Museum) เป็นอาคารที่จัดแสดงวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นกว่า 4,000 ชิ้น ที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นเหตุทำให้ที่นี่ สมควรต่อการถูกยกให้เป็นศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
โครงสร้างของศาลเจ้าที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก
จุดเขียนแผ่นไม้ขอพรของศาลเจ้า
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า
การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์สามารถทำได้อย่างสะดวก เพราะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทเรียงรายอยู่บริเวณเดียวกับอาคารผู้โดยสารขาเข้า
- รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=602
- รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส (Centrair Bus Terminal) ที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 6 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกับอีก 15 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/bus.html
- รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/train.html
อ่านบทความวิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ อย่างละเอียดได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=736
การเดินทางจากศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่าไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Line เพื่อไปลงที่สถานี Atsuta Station ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.
ทางเดินปูหินที่กว้างขวางและขนาบไปด้วยพื้นที่สีเขียวของศาลเจ้า
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี แต่ส่วนพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน
ป้ายแสดงข้อมูลน่าสนใจต่างๆ ของศาลเจ้า
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ต้นการบูรที่ปลูกอยู่ภายในศาลเจ้า
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
(Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่จะมี พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองนาโกย่า, ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 52-671-0010
เว็ปไซต์ : http://www.atsutajingu.or.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ