- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (7,016)
- By Webmaster
- 04:13:01 | 2 ก.พ. 2566
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
Itsukushima Shrine, Hisoshima, Japan
ประตูโทริอิลอยน้ำ
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เกาะศาลเจ้า หรือศาลเจ้าลอยน้ำ หรือประตูโทริอิลอยน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ โดยศาลเจ้าอิสึคุชิมะนี้ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก
แผนที่ตั้ง ศาลเจ้าอิสิกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมา
วิหารของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ
ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ (Itsukushima jinja) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตบนเกาะอิตสึกุชิมะ เมืองฮัตสึกาอิจิ จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะอาคารต่างๆ ในศาลเจ้าให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น
รูปปั้นด้านหน้าศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ
ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ.1711 โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากแม่ทัพคิโยโมริ ซึ่งทำให้ศาลเจ้านี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเกาะ โดยในอดีตชาวบ้านสามัญชนจะถูกห้ามไม่ให้ย่างเท้าขึ้นบนเกาะ และต้องเดินทางโดยเรือผ่านเสาประตูที่ลอยอยู่กลางทะเล
สัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเกาะ
ด้านเสาโทริอิของศาลเจ้าอิตสึกุชิมะเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกที่มีสัญลักษณ์เป็นประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้นสูงและทิวทัศน์ของเสาประตูที่อยู่หน้าภูเขามิเซ็งบนเกาะ ทั้งยังได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น (Three Views of Japan) โดยเสาโทริอิถูกสร้างขึ้นในบริเวณนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.1711 แต่เสาที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2418 ตัวเสาทำจากไม้การบูร มีความสูงประมาณ 16 เมตร มีเสาเล็กๆ เป็นฐานรองอีก 4 เสา
การเดินทางจากสนามบินฮิโรชิม่าไปยังตัวเมืองฮิโรชิมา
- รถลีมูซีนบัส เป็นการเดินทางจะสะดวกที่สุด โดยนักท่องเที่ยวเดินออกจากสนามบินประมาณ 200 เมตร เพื่อมานั่งรถจากสถานี Hiroshima Airport ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ในการเข้าสู่ตัวเมืองฮิโรชิม่า ลงสถานี Hiroshima Station Shinkansen หรือ HIROSHIMA STATION ค่าโดยสารสำหรับตั๋วเที่ยวเดียวราคาประมาณ 1,300 เยน ส่วนตั๋วไปกลับ ราคาประมาณ 2,360 เยน โดยมีกำหนดใช้ภายใน 7 วัน
การเดินทางไปยังเกาะมิยาจิมะ
- รถไฟฟ้า นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถไฟจาก JR Hiroshima Station สาย Sanyo Line - JR Miyajimaguchi Station แล้วต่อเรือเฟอรี่มาลงที่เกาะมิยาจิม่า (Matsudai Kiden Miyajima Ferry Terminal) ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย โดยเรือ JR Nishinihon Miyajima Ferry มีบริการเรือเฟอร์รี่ทุกประมาณ 15 นาที ใช้เวลาในการข้ามไปยังเกาะมิยาจิมะประมาณ 10 นาที
การเดินทางไปยัง ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)
- เดินเท้า หลังจากมาถึงเกาะมิยาจิมะแล้ว เดินไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ หรืออีกทางเลือกหนึ่งจะมีเรือโอโทริอิออกจากเกาะมิยาจิมะล่องไปเทียบกับเสาโอโทริอิขนาดยักษ์นี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากชมเสาโอโทริอิลอยน้ำก็สามารถไปใช้บริการได้
เวลาทำการเปิด-ปิด
ส่วนหนึ่งของศาลเจ้าอิตสึกุชิมะที่ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06:30 - 18:00 น. ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามฤดูกาล
การซื้อบัตรเข้าชม
กวางที่อาศัยอยู่ในเกาะมิยาจิมะนี้มีจำนวนกว่า 500 ตัว
อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น 100 เยน
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
เสาโทริอิสีแดงในเวลากลางคืน
จุดท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมายังศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า คือเสาโอโทริอิขนาดยักษ์ของศาลเจ้าที่ลอยเหนือทะเลเซะโตะจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
เสาโอโทริอิที่ตั้งตระหง่านอยู่บนทะเลเซะโตะ
สำหรับเสาโอโทริอิของศาลเจ้าที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลเซะโตะของญี่ปุ่นนี้ มีแนะนำอยู่ในหนังสือนำเที่ยวทั่วโลกในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ซึ่งชื่อดั้งเดิมคือ อิสึกุชิมะ แต่เพราะว่ามีโอมิยะ(ศาลเจ้า) จึงกลายเป็นเรียกว่ามิยาจิมะกันทั่วไป
มุมมองเสาโทริอิจากศาลเจ้าอิสึกุชิมะ
ทั้งนี้เสาโอโทริอิที่สูงตระหง่านขึ้นมาจากท้องทะเลของศาลเจ้าอิสึคุชิมะมีความสูง 16 เมตร และหนักกว่า 60 ตัน โดยไม่มีการตอกเสาเข็มลงใต้ดิน ตั้งอยู่ใต้ทะเลด้วยน้ำหนักของตัวโทริอิเองเท่านั้น
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ประตูโทริอิลอยน้ำขณะช่วงน้ำขึ้น
ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นบนทะเลจึงมีทัศนียภาพแตกต่างกันตามน้ำขึ้น – น้ำลง เมื่อระดับน้ำสูงขึ้นมากกว่า 250 เซนติเมตร ก็จะสามารถมองเห็นศาลเจ้าอิสึคุชิมะโผล่ขึ้นมาบนทะเลได้ และถ้าระดับน้ำลดลงต่ำกว่า 100 เซนติเมตร ก็จะสามารถเดินไปถึงฐานเสาโอโทริอิได้ด้วย ถ้านักท่องเที่ยวได้มาในวันที่มีระดับน้ำขึ้น – น้ำลงสูงตั้งแต่ตอนเช้าไปถึงตอนเย็นก็จะสามารถเพลิดเพลินกับทั้งเสาโอโทริอิโผล่ขึ้นมาจากทะเลและการเดินเล่นที่ฐานเสาโอโทริอิได้ด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช็คระดับน้ำทะเลล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์หลักของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะมิยาจิมะ
ข้อมูลที่ควรรู้
วิหารอิตสึคุชิมะ
วิหารทรงคุณค่าศาลเจ้าอิสึคุชิมะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในจังหวัดฮิโรชิมะ และเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ วิหารนี้สะสมสมบัติล้ำค่ากว่า 4,500 ชิ้น ที่ตระกูลเฮอิเกะและผู้มีอิทธิคนอื่นๆ มอบแก่ศาลเจ้า แต่ผู้ที่มาเยี่ยมชมจะได้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น
บริเวณทางเข้าวิหารจะมีเสาอิตสึคุชิมะ-จินจา โอโตริดั้งเดิมที่นำมาวางใหม่ในปี ค.ศ.1875 และพิพิธภัณฑ์ได้จัดวางแผ่นไม้ที่ได้จากต้นไม้ยักษ์ขนาดกว้างถึง 10 เมตร วัตถุโบราณในวิหารทรงคุณค่ามีอายุมากกว่า 900 ปี รวมถึงหนังสือสวดมนต์ของตระกูลเฮอิเกะ พัดไม้ไซเปรส เสื้อเกราะ และดาบที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีหน้ากากบุงากุ และวัตถุเก่าแก่อื่นๆ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น
(Itsukushima Shrine, Hisoshima, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น 100 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เวลา 06:30 - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี เลือกตามช่วงเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง
สถานที่ตั้ง : จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81)829-44-2020
เว็บไซต์ : http://www.miyajima.or.jp/sio/sio01.html
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เช็คตารางเวลารถ http://highway-buses.jp/fuji/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเกาะมิยาจิมะ http://www.miyajima.or.jp/sio/sio01.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ