วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว

  • อ่าน (10,315)
  • By Webmaster
  • 10:06:30 | 13 ส.ค. 2561

วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว

Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos


วัดเชียงทอง เพชรเม็ดเอกแห่งล้านนา แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว

           วัดเชียงทองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองมรดกโลกนี้ โดยเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” ที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว



ประวัติของวัดเชียงทอง


ริมแม่น้ำโขง ที่วัดเชียงทองตั้งอยู่

           วัดเชียงทองได้ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนา ก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ วัดนี้จึงถือว่าเป็น “วัดประตูเมือง” และท่าเทียบเรือด้านเหนือสำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์หลวงพระบางด้วย ทำให้วัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอด


พระประธานที่ประดิษฐานภายในสิมหรือ ชาวลาวเรียกว่า พระองค์หลวง

           และที่สำคัญยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ ซุ้มประตูโขง พระธาตุ หอไหว้น้อย หอไหว้สีกุหลาบ หอไหว้หลังพระอุโบสถ หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ฯลฯ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการนับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ และเป็นความโชคดีของวัดเชียงทองอย่างยิ่ง

การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมือง

             - รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือมีสัมภาระติดตัวค่อนข้างมาก ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 20 นาที โดยค่าโดยสารจากสนามบิน ราคา 50,000 กีบ นั่งได้ 3 คน (ลงที่เดียวกัน)

             - รถโดยสารรับจ้างทั่วไป โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินออกจากสนามบินแล้วข้ามถนนมายังอีกฝั่ง จะมีรถตุ๊กตุ๊กวิ่งไปมาอยู่ตลอด สามารถต่อรองราคาแล้วระบุจุดหมายปลายทางได้  ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 กีบ

             - รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งเช่นเดียวกันกับรถโดยสารรับจ้างทั่วไป ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia

การเดินทางไปวัดเชียงทอง

             - รถมอเตอร์ไซค์ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ได้ตามที่พักหรือในเมือง ราคาวันละประมาณ 100,000 กีบ

             - รถรับจ้างท้องถิ่น มีบริการรถรับจ้างท้องถิ่นทั้งจากสนามบินและตัวเมือง สามารถว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเพื่อรับ-ส่งถึงอาคารผู้โดยสารได้

             - รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ตัดเข้าถนน Phetsarat จากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง

เวลาในการเปิด – ปิดทำการ

           วัดเชียงทองเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 17.30 น.


บันไดทางเดินขึ้นวัดเชียงทอง

การซื้อบัตรเข้าชม

           สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ด้านหน้าวัดเชียงทอง ราคา 20,000 กีบ

จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัด


หลังคาของสิมที่ซ้อนกัน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอนและลาดต่ำ

             พระอุโบสถ (ชาวลาวเรียกว่า “สิม”) ของวัดนี้ถือว่าเป็นแบบอย่างของหลวงพระบางอันเก่าแก่ สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน มีโครงสร้างที่ไม่สูงนัก มีความงดงามด้วยสัดส่วนและการประดับตกแต่งต่างๆ อย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามอลังการมากที่สุด เปรียบประดุจอัญมณีแห่งงานสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรลาวอย่างแท้จริง

           สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ หลังคาซ้อน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอน และลาดต่ำลงมามากถือเป็นแบบฉบับของสิมแบบล้านช้าง ซึ่งชาวลาว เปรียบสิมหลังคาโค้งต่ำอย่างสิมวัดเชียงทอง หรืออีกหลายวัดในหลวงพระบางเป็นสิมสุภาพสตรี ส่วนสิมทรงสูงอย่างวัดทางเวียงจันทน์หรือวัดในเมืองไทยเป็นสิมสุภาพบุรุษ นอกจากนี้เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าไปในพระอุโบสถด้วย


ช่อฟ้า 17 ช่อ อันหมายถึงเป็นวัดของพระมหากษัตริย์และยังเป็นรูปเขาพระสุเมรุ จำลองจักรวาลตามคติพุทธศาสนา

           บนกลางสันหลังคามีการทำ “ช่อฟ้า” รูปเขาพระสุเมรุ และทิวเขาสัตตบริภัณฑ์ที่ล้อมรอบ 7 ชั้น รองรับด้วยปลาอานนท์ อันเป็นรูปแบบการจำลองจักรวาลตามคติทางพุทธศาสนา เช่น เดียวกับที่ปรากฏในจิตรกรรมของล้านนาและอยุธยา ซึ่งหน้าบันของพระอุโบสถ แกะสลักเป็นรูปดอกตาเว็น หรือลายดวงอาทิตย์ ที่ดูคล้ายกับลายดอกจอกของไทย


ถัดหน้าบันของพระอุโบสถเข้ามา ภายในประดิษฐานพระประธาน

             วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย) มีหลังคาเป็นรูปใบโพธิ์ตัดครึ่ง อันเป็นรูปแบบของลาวดั้งเดิมซึ่งประดับด้วยกระจกสีงดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย พระราชทานให้แก่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์


อูบมุง ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ในหลวงพระราชทานให้เจ้าศรีสว่างวัฒนา (ด้านข้างสิม)

             หอไหว้สีกุหลาบ (สีชมพู) เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่มีการบูรณะครั้งใหญ่โดย “ท้าวคำม้าว” เมื่อ พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นการฉลอง 25 พุทธศตวรรษของพระพุทธศาสนา ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปะติดปะต่อเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องราววรรณกรรมชั้นเอกของลาว และเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้านทั่วไป


วิหารด้านข้างสิมอีกฝั่ง โดยมีชื่อเรียกว่า หอไหว้สีกุหลาบ

           ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2112 ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่ทำให้แปลกตา คือ ช่องบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กจำนวนนับพันองค์บนผนังภายในวิหารหลังนี้ เป็นเรื่องของพระอนันตพระพุทธเจ้า


หอพระม่าน พระพม่าที่ชาวหลวงพระบางนับถือมาก

           วิหารหลังใหญ่ หลังพระอุโบสถ เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ หอไหว้หลังนี้ประดิษฐานพระม่าน (พระพม่า) ที่ชาวหลวงพระบางนับถือกันมาก เนื่องจากพม่าได้เข้ามามีอิทธิพลในล้านช้างอยู่ระยะหนึ่ง ในช่วงท้ายพุทธศตวรรษที่ 21 ชาวลาวนิยมมาบนบานเพื่อขอบุตรจากพระม่านองค์นี้


สิมวัดเชียงทอง ยอดอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมล้านนา

           นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่มีความสวยงามอีกมากมาย เช่น หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (โรงเมี้ยนโกศ) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 หลังการสิ้นพระชนม์ของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เป็นอาคารที่มีหลังคาสูง ประดับด้วยงานแกะสลักเรื่องรามเกียรติ์ งดงามมาก หอราชโกศนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษามรดกเก่าแก่ของหลวงพระบาง เช่น ราชรถ ไม้แกะสลักปิดทอง ประดิษฐานพระโกศ 3 องค์ คือ องค์ใหญ่ตรงกลางเป็นของเจ้าศรีสว่างวงศ์ องค์เล็กด้านหลังของพระราชมารดา ส่วนองค์ด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


วิหารแดงหรือหอไหว้สีกุหลาบ ด้านข้างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

           เนื่องจากวัดเชียงทองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญของหลวงพระบาง ที่ในแต่ละวันมีคนไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งวัดเชียงทองก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีแห่งพุทธศาสนาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ควรไปในช่วงเช้า เพราะแดดจะยังไม่ส่องตัววัดอย่างเต็มที่ ทำให้ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม

           นอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป สามารถเดินทางไปในช่วงสงกรานต์ได้ เนื่องจากมีประเพณีสรงน้ำพระม่านของชาวหลวงพระบาง

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


โรงเมี้ยนโกศวัดเชียงทอง สร้างขึ้นเพื่อใช้เพื่อเก็บโกศและพระราชรถ

           พระม่านเพี้ยนมาจากคำว่า "พม่า" เนื่องจากพม่าได้สร้างองค์พระจากทองคำเนื้อนพเก้า (ทองเนื้อเก้าคือทองที่สวยและสูงค่าที่สุด )เสร็จแล้วจึงได้นำขึ้นแพล่องแม่น้ำโขงเพื่อนำกลับพม่า แต่พอถึงบริเวณเมืองหลวงพระบาง องค์พระได้หยุดและหมุนวนน้ำ ทำยังไงก็ไม่สามารถดึงแพไปต่อได้  เจ้าอาวาสทุกวัดได้มาอัญเชิญ อุ้มท่านขึ้นจากแม่น้ำโขงแต่ก็ไม่มีวัดไหนสามารถยกขึ้นมาได้ จนกระทั่งเจ้าอาวาส "วัดเชียงทอง" มาตั้งจิตอธิษฐาน และสามารถอุ้มองค์พระขึ้นจากน้ำได้ราวปาฏิหาริย์ จึงได้อัญเชิญเข้าวัดและทำการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดเชียงทอง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดเชียงทอง หลวงพระบาง ประเทศลาว

                       (Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : 20,000 กีบ

                       เวลาเปิด – ปิด : 06.00 น. – 17.30 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : www.louangprabang.net

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ