- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก

- อ่าน (354)
- By Webmaster
- 17:16:30 | 14 ก.ย. 2566
10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
ศาสนสถานที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นศาสนสถานที่มีความงดงามวิจิตรเป็นอันดับต้นๆของโลก มีทั้งที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ และทั้งที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่แสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่งเลยละค่ะ และไม่เพียงแต่ความงดงามที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด แต่กลับสะท้อนถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง และความศรัทธาของผู้คนออกมาได้เป็นอย่างดี จากองค์ประกอบทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้น ถูกผสมผสานกันออกมาอย่างมีเสน่ห์และลงตัว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ศาสนสถานที่สวยงามที่สุดโลก และควรค่าแก่การไปเยือนเป็นอย่างยิ่งค่ะ
แผนที่ตั้ง 10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
1. วัดร่องขุ่น : ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินเอกของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก 3 สิ่ง ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยภายในวัดมีความวิจิตรงามราวกับดินแดนสวรรค์ ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ตรงพระอุโบสถสีขาวและผลงานประติมากรรมโดยรอบที่มีความสวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก วัดแห่งนี้จึงถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเชียงรายที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 19°49'27.2"N 99°45'48.4"E
2. เจดีย์ชเวดากอง : ประเทศพม่า
เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญสูงสุดของพม่า โดยคำว่า “ ชเว ” หมายถึง ทองคำ และ “ ดากอง ” คือ ชื่อเมืองย่างกุ้งในอดีต ด้วยความสูงของเจดีย์ที่สูงถึง 48 เมตร และความกว้างโดยประมาณ 105 เมตร จึงทำให้เจดีย์แห่งนี้ คือ ศาสนสถานที่โดดเด่นที่สุดในย่างกุ้ง ความงดงามอร่ามตาขององค์เจดีย์ ล้วนแต่เกิดขึ้นจากความศรัทธาต่อองค์เจดีย์ของชาวพม่า ที่นิยมบริจาคเพชรพลอยของมีค่าต่างๆ ให้กับองค์เจดีย์ ว่ากันว่าที่องค์เจดีย์แห่งนี้มีเครื่องประดับมากกว่า 5,000 ชิ้นด้วยกัน โดยเฉพาะเพชรที่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์นั้น กล่าวกันว่าขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือคนเลยทีเดียว ส่วนด้านล่างรอบๆ เจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำนวนมาก และมีไม้แกะสลักประดับอยู่อย่างสวยงาม ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของเส้นผมจำนวน 8 เส้น
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 16°47'53.9"N 96°08'58.6"E
3. นครวัด : ประเทศกัมพูชา
นครวัด (Angkor Wat) ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา สร้างขึ้นในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 17 หรือในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรืองของอาณาจักรขะแมร์ วัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นเพื่ออุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ บริเวณโดยรอบมีพื้นที่กว่า 820,000 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี มีคูน้ำและกำแพงแก้วล้อมรอบองค์ปราสาทประธานและปราสาทเล็กสี่ด้าน อันเป็นการจำลองลักษณะจักรวาลตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกทั้งภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปกรรมที่ล้ำค่ามากมาย อาทิ ภาพแกะสลักนางอัปสรที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ยากจะหาที่ไหนเทียบเคียงได้ ความยิ่งใหญ่ของนครวัดได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งปรากฏอยู่บนธงประจำชาติ และยังได้รับได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 13°24'44.8"N 103°52'01.2"E
4. บุโรพุทโธ : ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ (Borobudur) ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของเกาะชวาที่ เมืองมาเกอลัง (Magelang) ประเทศอินโดนีเซียถือเป็นศาสนสถานสำคัญแห่งอินโดนีเซีย และเป็นพุทธสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือประมาณปี พ.ศ. 1393 มีลักษณะเป็นมหาสถูปซึ่งมีระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นขึ้นไปคล้ายพีระมิดบนฐานสี่เหลี่ยม ที่ชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งของมหาเจดีย์องค์ประธาน ห้อมล้อมด้วยพระพุทธรูปจำนวน 72 องค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ทรงระฆัง ฉลุเป็นช่องสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สร้างอยู่บนเนินสูงจากพื้นดินราว 15 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อ “บุโรพุทโธ” ที่แปลว่า “วิหารที่สร้างบนภูเขาสูง” และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1991 อีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 7°36'28.8"S 110°12'16.0"E
5. พรัมบานัน : ประเทศอินโดนีเซีย
พรัมบานัน (Prambanan) เทวสถานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นหนึ่งในเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ตั้งอยู่บนเกาะจาวา (Java) ที่อยู่ห่างจากเมืองยอกยาการ์ตาไปทางตะวันออกประมาณ 18 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยพระปรางค์ที่สร้างขึ้นด้วยหิน มีความสูงถึง 47 เมตร มหาวิหารมีลักษณะ ภายในบริเวณวัดมีเทวลัยหลัก 8 หลังอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยเทวลัยขนาดเล็กเป็นบริวารอีกมากกว่า 200 หลัง และมีแนวกำแพงล้อมรอบ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความความยิ่งใหญ่ ความงาม และความสำคัญของศาสนาฮินดูในอดีต จนได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจากองค์กร UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1991
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 7°45'07.3"S 110°29'29.3"E
6. หอสักการะฟ้าเทียนถาน : ประเทศจีน
หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังในเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน สถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามคติความเชื่อของจีนโบราณ ตัวหอเป็นอาคารไม้สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่บนฐานหินหยกขาว และมีตำหนักต่างๆรายล้อม อยู่บนพื้นที่กว่า 2,700,000 ตารางเมตร หรือ 1,668.75 ไร่ ทำให้หอสักการะฟ้าเทียนถานได้ชื่อว่าเป็นสถานที่เพื่อการประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผัง และด้านวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อกันมายาวนานกว่า 2,000 ปีของประเทศจีน
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น.
พิกัด GPS : 39°52'55.6"N 116°24'23.5"E
7. วัดชิออนอิน : ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนอิน (Chion-in Temple) ตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยาม่า ของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโจโด ซึ่งเป็นนิกายที่มีชาวญี่ปุ่นนับถือมากที่สุด วัดแห่งนี้ยังสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1234 เพื่ออุทิศแด่พระภิกษุโฮเน็น ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกายโจโด ที่มีคนให้ความนับถืออย่างมากในญี่ปุ่น โดยสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด ล้วนสร้างขึ้นให้มีความใหญ่โตเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงพลังความศรัทธาในนิกายโจโดของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ประตูซานมอน (Sanmon Gate) ประตูทางเข้าวัดที่มีความสูง 24 เมตร กว้าง 50 เมตร ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 และถือเป็นประตูซานมอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้น รวมไปถึงระฆังยักษ์ (Temple Bell) ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1633 มีน้ำหนัก 74 ตัน และต้องใช้คนถึง 25 คนเพื่อตีระฆังนี้ให้ดัง นอกจากนี้ ภายในบริเวณก็ยังมีสวนญี่ปุ่น อย่าง Hojo garden และ Yuzen garden ไว้ให้เที่ยวชมอีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.
พิกัด GPS : 35°00'19.5"N 135°46'56.6"E
8. วิหารฮัมมันดิร ซาฮิบ : ประเทศอินเดีย
วิหารฮัมมันดิร ซาฮิบ (Harmandir Sahib) หรือ วิหารทองคำ (The Golden Temple) ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวซิกข์ ตั้งอยู่ในเมืองอมฤตสาร์ รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย วิหารสีเหลืองทองอร่าม ถูกสร้างขึ้นกลางบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์โซราวอร์ ภายในเป็นที่เก็บรักษาพระมหาคัมภีร์คุรุ กรันต สาหิบ (Guru Granth Sahib) คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา ที่ใช้เป็นหลักในการปฏิบัติตนและใช้ชีวิต นอกจากตัววิหารสีเหลืองทองอันโดดเด่น จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของวิหารแห่งนี้ คือ การสร้างประตูทางเข้าออก 4 ทิศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการต้อนรับทุกคนที่มาเยือน โดยไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ หรือแม้แต่ศาสนา ดังนั้น วิหารทองคำ ฮัมมันดิร ซาฮิบ จึงไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานสำคัญของชาวซิกข์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นพี่น้องและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคน
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 31°37'12.9"N 74°52'33.0"E
9. วัดศรีรังกัม : ประเทศอินเดีย
วัดศรีรังกัม (Sri Ranganathaswamy Temple) เป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็น "ศาสนธานี" ที่สำคัญที่สุดของพระวิษณุ ตั้งอยู่ที่เมืองทามิลนาดู ประเทศอินเดีย วัดศรีรังกัม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 ประกอบไปด้วย หอตัววิหารมีความสูง 236 ฟุต ประดับไปด้วยองค์เทพที่เพ้นท์ด้วยสีสันสดใส มีความเก่าแก่ทางด้านวัฒนธรรม และโดดเด่นด้วยผลงานทางสถาปัตยกรรมมิลักขะ อันประณีต ละเอียดอ่อน ผนวกกับสีสันและลวดลายบนรูปสลักเทวรูปที่งดงามสะดุดตา ปัจจุบันนี้ วัดศรีรังกัมก็ยังคงทำหน้าที่เป็น ศาสนสถานที่มีการประกอบพิธีบูชาอยู่
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ช่วงเช้า เวลา 05.30 - 08.30 น. 09.00 – 12.30 น.
ช่วงบ่าย/เย็น เวลา 15.00 – 17.30 น. 19.00 – 20.30 น.
พิกัด GPS : 10°51'44.7"N 78°41'23.9"E
10. วัดทักซัง : ประเทศภูฐาน
วัดทักซัง (Taktsang Monastery) หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า วัดรังเสือ เป็นอารามริมผาบนภูเขาสูงกว่า 3,000 ฟุต หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก ตั้งอยู่บนผาสูงในหุบเขาพาโร ประเทศภูฐาน ศาสนสถานแห่งนี้ถือเป็นสถานที่แสวงบุญในเขตหิมาลัยที่ชาวภูฐานนิยมมามากที่สุด เพราะด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของสถาปัตยกรรมบนผาแห่งนี้ จากพื้นดินสู่อารามวัดทักซังที่สูงเทียมฟ้า ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ไปตามแนวผา แนวธงหลากสี และเดินขึ้นบันไดอีก 700 ขั้น ก็จะพบกับศาสนสถาน ท่ามกลางขุนเขาที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ช่วงเช้า เวลา 08.00 - 13.00 น.
ช่วงบ่าย/เย็น เวลา 14.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 27°29'19.7"N 89°21'31.5"E
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ