10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (7,295)
  • By Webmaster
  • 05:37:50 | 7 ก.พ. 2566

 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี

Top 10 Travel Destinations in Munich and nearby areas, Germany

 

             เมืองมิวนิค (Munich ชื่อภาษาเยอรมันคือ München) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ในพื้นที่ของรัฐบาวาเรีย (The State of Bavaria) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน (Berlin) และเมืองแฮมเบิร์ก (Hamburg) ทางด้านสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย แม่น้ำสายหลักของเมืองคือแม่น้ำอีซาร์ (Isar River) ทางด้านสภาพภูมิอากาศในฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่น แต่จะมีอากาศร้อนจัดในช่วงกลางปีที่มีฝนตกหนัก และในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็น โดยจะหนาวที่สุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมและมีหิมะตกในบางพื้นที่

             ในอดีตเมืองมิวนิคเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียมาก่อน จึงเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอีกเมืองหนึ่งของเยอรมนีที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างเช่น ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence) รวมถึงจุดแลนด์มาร์กอันโดดเด่นอย่างเช่น หอนาฬิกา Munich Glockenspiel และอนุเสาวรีย์พระแม่มารีที่ตั้งอยู่ในบริเวณจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ (Marienplatz) และหอชมเมืองโอลิมปิคทาวเวอร์กับโอลิมปิคสเตเดียมภายในโอลิมเปียปาร์ค (Olympiapark)

             นอกจากนี้เมืองมิวนิคยังเป็นศูนย์รวมของมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ สถาปัตกรรมเก่าแก่ ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดงานแข่งขันกีฬาระดับโลก และยังเป็นบ้านเกิดของทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างทีมบาเยิร์นมิวนิค (FC Bayern Munich) และยังมีเทศกาลเบียร์ประจำปีที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Oktoberfest ซึ่งเป็นเทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเบียร์ที่ใช้ในเทศกาลจะเป็นเบียร์ท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของบาวาเรีย อย่างเช่น Augustiner, Hacker-Pschorr, Löwenbräu, Paulaner, Spaten และ Staatliches Hofbräuhaus ในส่วนของอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ ไส้กรอกขาว (white sausage / weisswurst) ซึ่งทำจากเนื้อลูกวัวสับกับเบคอนทานคู่กับมัสตาร์ดหวาน (sweet mustard) และขนมปังเพรทเซลส์ (pretzels)

             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวชมเมืองมิวนิค สามารถมาลงเครื่องได้ที่สนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) และนั่งรถไฟหรือรถบัสเข้าไปยังตัวเมืองได้ตามต้องการ โดยสถานีรถไฟหลักของเมืองคือ สถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) และสถานีที่เป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวคือสถานีมิวนิคมาเรียนปลาทซ์ (Munich Marienplatz Station)


แผนที่ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง


แผนที่รถไฟในเมืองมิวนิค (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.mvg.de)


1. Marienplatz (จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์)

 

             จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยอาคารศาลากลางขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกพร้อมด้วยหอนาฬิกา Munich Glockenspiel ที่รูปปั้นด้านล่างหอนาฬิกาจะหมุนพร้อมเล่นเพลงเหมือนกล่องดนตรีวันละสองรอบ และอนุเสาวรีย์พระแม่มารีทองคำ สองแลนด์มาร์กนี้ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่ภายในบริเวณจัตุรัส นอกจากนี้จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ยังเป็นพื้นที่จัดตลาดคริสต์มาส จัดงานประจำปี และงานฉลองที่สำคัญของเมืองมิวนิคอีกด้วย 

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : ลงสถานี Munich Marienplatz Station ก็จะถึง Marienplatz

พิกัด GPS : 48°08'14.6"N 11°34'31.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=897


2. Karlsplatz (จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์)

 

             จัตุรัสคาร์ลปลาทซ์มีอีกชื่อหนึ่งว่าจัตุรัสสตาคุส (Stachus) โดดเด่นด้วยจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมืองมิวนิค จัตุรัสนี้เป็นถนนช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้งได้ตามต้องการ และยังสามารถเดินทะลุไปถึงย่านมาเรียนปลาทซ์ได้อีกด้วย ที่นีจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคอีกแห่งหนึ่ง

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Karlsplatz โดยมีระยะทาง 700 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที

พิกัด GPS : 48°08'21.1"N 11°33'58.3"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับจัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=887


3. Munich Residence (พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์)

 

             พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เป็นพระราชวังเก่าอายุหลายร้อยปีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และยังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์หลวงที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดดเด่นด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรียอันรุ่งโรจน์มาก่อน สถานที่แห่งนี้จึงเป็นดั่งศูนย์รวมความหลากหลายทางสถาปัตยกรรมและศิลปะจากฝีมือของศิลปิน สถาปนิก และนักออกแบบชั้นนำในแต่ละยุค ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเข้าชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Residence Museum) ราคา 9 Euro

                - ตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Treasury) ราคา 9 Euro

                - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังและตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Residence Museum+Treasury) ราคา 14 Euro

                - ตั๋วเข้าชมโรงละครคูวิลลีส์ (Cuvilliés Theatre) ราคา 5 Euro

                - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ห้องพระคลังเก็บสมบัติ และโรงละครคูวิลลีส์ (Residence Museum+Treasury+Cuvilliés Theatre) ราคา 17 Euro

                - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีเข้าชมฟรี

                - สนามและสวนบริเวณน้ำพุ เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25, 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Munich Residence โดยมีระยะทาง 450 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที

พิกัด GPS : 48°08'30.4"N 11°34'46.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=893


4. Frauenkirche (มหาวิหารเฟราเอน)

 

             มหาวิหารเฟราเอน เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิคและเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองมิวนิค โดยชื่อ Frauenkirch นั้นหมายถึง Cathedral of Our Dear Lady หรือมหาวิหารแห่งพระแม่ ตัวมหาวิหารโดดเด่นด้วยหอคอยคู่ที่มีโดมทรงหัวหอมด้านบนซึ่งสามารถมองเห็นได้จากจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ สำหรับหอคอยทิศใต้นั้นสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเมืองมิวนิค และยังสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ที่อยู่ไกลออกไปได้อีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะไปเที่ยวชมเมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7:30 น. - 20:30 น. (ในช่วงฤดูหนาวปิดเวลา 20:00 น.)

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Frauenkirche โดยมีระยะทาง 280 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที

พิกัด GPS : 48°08'19.1"N 11°34'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับมหาวิหารเฟราเอนได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=896


5. Nymphenburg Palace and Park (พระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก)

 

             พระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งนอกจากเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ที่ปกครองบาวาเรียมาหลายยุคหลายสมัย พระราชวังนิมเฟนเบิร์กจึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro

                - ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro

                - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro

                - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)

                - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Sendlinger Tor จากนั้นต่อรถรางสาย 17 ไปลงยังสถานี Schloss Nymphenburg และเดินต่อไปประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงยัง Nymphenburg Palace and Park ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 35 นาที

พิกัด GPS : 48°09'29.8"N 11°30'11.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับพระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์กได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=892


6. BMW Museum (พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู)

 

             เมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค เมืองที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของรถหรูอย่าง BMW Group ก็ต้องไม่พลาดไปชมพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู ที่นี่จะเปิดโลกทัศน์ในด้านนวัตกรรมแห่งยานยนต์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาสมรรถนะในการขับขี่ รวมถึงการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ และมีการจัดแสดงรุ่นรถตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงวิสัยทัศน์และทิศทางของยานยนต์ในอนาคต เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเข้าชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ราคา 10 Euro / คน ตั๋วครอบครัวราคา 24 Euro

เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. - 18:00 น. ปิดวันจันทร์

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Olympiazentrum และเดินต่อไปประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงยัง BMW Museum ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 17 นาที

พิกัด GPS : 48°10'36.6"N 11°33'32.7"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=895


7. Olympiapark (โอลิมเปียปาร์ค)

 

             โอลิมเปียปาร์ค สถานที่ที่เคยจัดงานกีฬาโอลิมปิค ปัจจุบันเป็นได้รับการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะและศูนย์กีฬาแห่งใหญ่ของเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยหอชมเมืองโอลิมปิคทาวเวอร์ความสูง 181 เมตร พร้อมร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ภายในโอลิมเปียปาร์ค นั่นคือ โอลิมปิคสเตเดียมที่มีรูปทรงหลังคาคล้ายเต็นท์ขนาดใหญ่หลายหลังซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการก่อสร้างมาจากเทือกเขาแอลป์ สเตเดียมนี้ใช้จัดงานกีฬาระดับโลกมากมาย และยังใช้เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินดังอยู่หลายต่อหลายครั้ง โอลิมเปียปาร์คจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคอีกแห่งหนึ่งที่ควรมาเที่ยวชม

ค่าเข้าชม : บริเวณสวนไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : บริเวณสวนเปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Olympiazentrum ก็จะถึงยัง Olympiaparkใช้เวลาโดยรวมประมาณ 13 นาที

พิกัด GPS : 48°10'31.7"N 11°33'06.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับโอลิมเปียปาร์คได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=902


8. Viktualienmarkt (ตลาดวิคทัวเลียน)

 

             ตลาดวิคทัวเลียน ตลาดขายของสดจากไร่และฟาร์ม เป็นตลาดเก่าแก่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ที่นี่มีของสดทุกอย่างให้เลือกสรรทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ วัตถุดิบท้องถิ่น และวัตถุดิบนำเข้า ในตลาดมีจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่ คือ เสาเต้นรำ Maibaum/Maypole สีขาวสลับฟ้าตามสีประจำรัฐบาวาเรียและตกแต่งด้วยภาพสะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้านในสมัยก่อน ซึ่งเสานี้ค่อนข้างหาชมได้ยากเพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในเมืองมิวนิคที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว 

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 8:00 น. - 18:00 น. / ปิดวันอาทิตย์

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Viktualienmarkt โดยมีระยะทาง 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

พิกัด GPS : 48°08'06.4"N 11°34'34.5"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับตลาดวิคทัวเลียนได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=888


9. Neuschwanstein Castle (ปราสาทนอยชวานสไตน์)

 

             ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นปราสาทของ กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งห่างจากเมืองมิวนิคประมาณหนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะเดินทางออกจากเมืองไปเที่ยวชม ด้านบนปราสาทมีทัศนียภาพทางธรรมชาติอันสวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ สำหรับตัวปราสาทมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมในยุคกลางและมีการออกแบบอิงตามบทประพันธ์ของอุปรากรเรื่องอัศวินหงส์ (The Swan Knight) ของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) นอกจากนี้ ความสวยงามอลังการของปราสาทนอยชวานสไตน์ยังได้สร้างแรงบันดาลใจต่อให้กับวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) นำไปเป็นต้นแบบปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์จึงถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายนับแต่นั้นมา ที่นี่จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 13 Euro / ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 12 Euro / เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9.00 น.– 18.00 น.

                     16 ตุลาคม ถึง มีนาคม เวลา 10.00 น.– 16.00 น.

                     ปิดวันที่ 1 มกราคม และ 24 - 25 และ 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย S8 ไปลงสถานี München-Pasing จากนั้นต่อรถรางสาย BRB Füssen ไปลงป้าย Füssen และต่อรถประจำทางสาย 73 ไปลงป้าย Neuschwanstein Castles, Schwangau ก็จะถึงยังเชิงเขาทางขึ้น Neuschwanstein Castle ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที (เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนภูเขานอกตัวเมือง ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางสามารถซื้อบริการทัวร์ได้จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือจากโรงแรมที่พักที่น่าเชื่อถือได้ตามต้องการ)

พิกัด GPS : 47°33'27.3"N 10°44'59.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=891


10. Linderhof Palace and Park (พระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟ)

 

             พระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟ เป็นพระราชวังเก่าซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมร็อคโคโค การออกแบบตกแต่งพระราชวังและสวนด้านนอกได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศสเนื่องจากกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ทรงชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) และทรงประทับใจในความสวยงามและวิจิตรบรรจงของพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส พระราชวังลินเดอร์ฮอฟตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งห่างจากเมืองมิวนิคประมาณเกือบหนึ่งร้อยกิโลเมตร จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะเดินทางออกจากเมืองไปเที่ยวชมที่นี่พร้อมกับปราสาทนอยชวานสไตน์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมพระราชวังและสวนราคา 8.50 Euro / ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวังเพียงอย่างเดียวราคา 5 Euro / เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9:00 น. – 18:00 น.

                     16 คุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เวลา 10:00 น. – 16:30 น.

                     ปิดวันที่ 1 มกราคม และวันที่ 24 - 25 และ 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย S8 ไปลงสถานี München-Pasing จากนั้นต่อรถรางสาย RB Mittenwald ไปลงป้าย Garmisch-Partenkirchen และต่อรถประจำทางสาย 9606 ไปลงยังป้าย Eugen-Papst-Straße, Oberammergau และต่อรถประจำทางสาย 9622 ไปลงป้าย Linderhof Schloss, Ettal และเดินต่อไปราว 400 เมตร ก็จะถึงยัง Linderhof Palace and Park ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที (เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนภูเขานอกตัวเมือง ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางสามารถซื้อบริการทัวร์ได้จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือจากโรงแรมที่พักที่น่าเชื่อถือได้ตามต้องการ)

พิกัด GPS : 47°34'17.3"N 10°57'38.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับพระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=894


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather

                            เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de 

                            เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en

                            เว็บไซต์ทางการของเทศกาลเบียร์ Oktoberfest https://www.oktoberfest.de/

                            เว็บไซต์สโมสรฟุตบอล FC Bayern Munich https://fcbayern.com/en

                            สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (Euro)

                            ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/

                          

                            สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย https://bangkok.diplo.de/


แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

                            - Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อ่านต่อ

หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน

อ่านต่อ

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ

อ่านต่อ

ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า

อ่านต่อ

จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส

อ่านต่อ

โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน

อ่านต่อ

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย

อ่านต่อ

ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์

ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ