- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

- อ่าน (3,779)
- By Webmaster
- 17:40:18 | 24 เม.ย. 2563
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
Nymphenburg Palace and Park, Munich, Germany
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และคลอง Central Canal ภายในสวนนิมเฟนเบิร์ก
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิค แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ บริเวณพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Nymphenburg Palace with Marstallmuseum) พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Nymphenburg Porcelain Museum) และบริเวณสวนของพระราชวัง (Nymphenburg Park Pavilions) ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม
แผนที่ตั้งพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
พระราชวังนิมเฟนเบิร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1662 เพื่อต้อนรับการประสูติขององค์รัชทายาทแม็ก เอ็มมานูแอล (Max Emanuel) ผู้เป็นพระราชโอรสในเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย เฟอร์ดินันด์ มาเรีย (Bavarian Elector Ferdinand Maria) กับพระนางเฮนเรียต อเดลเลด แห่งซาวอย (Henriette Adelaide of Savoy) หลังจากการรอคอยอย่างยาวนานมาถึงสิบปีตั้งแต่อภิเษกสมรส
ต่อมาเมื่อองค์รัชยาทายาทขึ้นครองราชย์เป็น เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย แม็กซ์ เอ็มมานูเอล (ในช่วงปีค.ศ. 1680 - ค.ศ. 1726) พระองค์จึงมีพระประสงค์ให้ขยับขยายพระราชวังออกไปทางด้านเหนือและด้านใต้ การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1701 โดยนายสถาปนิกเฮนรีโค ซัคแคลลี (Henrico Zuccalli) แต่การก่อสร้างก็มีเหตุต้องหยุดชะงักไปในช่วงปีค.ศ.1704 ถึง ค.ศ.1715 เนื่องด้วยสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน (Spanish War of Succession) ที่พระองค์ต้องเสด็จไปทรงงานนอกอาณาจักรบาวาเรียอยู่หลายปี
เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับมายังเมืองมิวนิคในปีค.ศ. 1715 พระองค์ทรงพาศิลปินชาวฝรั่งเศสหลายคนกลับมาด้วย เพื่อสานต่อการขยายพระราชวังออกไปในรูปแบบฝรั่งเศสที่นำสมัยที่สุดในยุคนั้น ภายใต้การร่วมงานกับนายสถาปนิกโจเซฟ เอฟเนอร์ (Joseph Effner) และโดมินิก จีราร์ด (Dominique Girard) ศิลปินนักออกแบบสวน ในส่วนของทัศนียภาพที่มองจากด้านในแกลเลอรี่ของพระราชวังนิมเฟนเบิร์กนั้นดูแลโดยนายฟรังซ์ โจชิม เบช (Franz Joachim Beich) และนายโจแอน แบพทิสท์ ชิมเมอร์แมนน์ (Johann Baptist Zimmermann) ผู้ดูแลงานปูนปั้นฝีมือเอก ด้วยเหตุนี้พระราชวังจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางงานศิลป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ต่อมาเมื่อเข้าสู่รัชสมัยของเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย แม็กซิมิเลียนที่ 3 โจเซฟ (Bavarian Elector Maximilian III Joseph) ในช่วงปีค.ศ.1745 ถึง ค.ศ. 1777 พระราชวังนิมเฟนเบิร์กก็ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของ Great Hall ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามมาจนถึงบัดนี้ นอกจากนี้ในส่วนของสวนก็ได้รับการปรับภูมิทัศน์ใหม่ด้วยเช่นกัน มีการออกแบบใหม่ และตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพเจ้าแห่งโอลิมปัสตามตำนานของเทพปกรณัมกรีก
ต่อมาเมื่อเข้าสู่รัชสมัยของเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย คาร์ล ธีโอดอร์ (Bavarian Elector Karl Theodor) ในช่วงปีค.ศ. 1777 ถึง ค.ศ. 1799 พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ขยายส่วนแกลเลอรี่ให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับการสร้างห้องใหม่ที่เพิ่มขึ้น และได้เปิดพระราชวังนิมเฟนเบิร์กให้สาธารณะได้เข้าชม
เมื่อถึงยุคปลายศตวรรษที่ 18 เมื่ออาณาจักรบาวาเรียได้กลายเป็นแคว้นบาวาเรีย ในรัชสมัยของกษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 โจเซฟ (King Maximilian I Joseph) พระองค์ได้มีพระประสงค์ให้ออกแบบบางห้องภายในพระราชวังนิมเฟนเบิร์กใหม่ และตกแต่งด้วยเครื่องเรือนชั้นสูงในสไตล์นีโอคลาสสิก สำหรับในส่วนของสวนของพระราชวังก็ได้มีการเปลี่ยนจากสไตล์ฝรั่งเศสมาเป็นสวนภูมิทัศน์สไตล์อังกฤษ
นอกจากนี้ พระราชวังนิมเฟนเบิร์กนั้นเป็นสถานที่ที่กษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 สิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1825 และยังเป็นสถานที่ที่กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 (King Ludwig II) ประสูติในปีค.ศ. 1845 อีกด้วย ซึ่งนอกจากเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายยุคหลายสมัย ปัจจุบันพระราชวังนิมเฟนเบิร์กจึงเป็นอีกหนึ่งพระราชวังเก่าที่ควรมาเที่ยวชมเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
บริเวณสวนสไตล์อังกฤษของพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก
สวนนิมเฟนเบิร์กมีพื้นที่ประมาณ 180 เฮคตาร์ หรือประมาณ 1.8 ตารางกิโลเมตร
ตัวอาคารฝั่งทิศเหนือของพระราชวัง
บริเวณปีกอาคารพระราชวัง
อาคาร Court Stables
คลองขุดบริเวณรอบพระราชวัง
ทัศนียภาพโดยรอบ
คลองรอบนอกพระราชวัง
บึงกลางสวนนิมเฟนเบิร์ก และความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ
ห่านสายพันธุ์แคนาดา (Canada goose) เป็นหนึ่งในสัตว์ตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในสวนนิมเฟมเบิร์ก
บริเวณภายในห้องโถงใหญ่ (The Great Hall) ภาพเขียนขนาดใหญ่ด้านบนเพดานเป็นภาพจำลองสรวงสวรรค์แห่งโอลิมเปียน เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
การตกแต่งภายในห้องโถงเป็นแบบร็อคโคโค
ภาพเขียนตรงกลางคือภาพของของกษัตริย์แม็กซิมิเลียน วาดโดย Joseph Vivien ภายในห้อง North Salettl (antechamber) ที่ตกแต่งภายในแบบฝรั่งเศส
ห้องทรงงาน (Writing Cabinet) ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ในแบบร็อคโคโคในปีค.ศ. 1764
แกลเลอรี่รวมภาพหญิงงามแห่งเมืองมิวนิคของกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 (King Ludwig I's Gallery of Beauties)
ภาพวาดหญิงงามจากทุกชนชั้นในสังคม วาดโดย Joseph Stieler
ห้องบรรทมภายในพระราชวัง ภาพเขียนด้านบนเตาผิงเป็นภาพกษัตริย์แม็กซิมิเลียนเมื่อครั้งเสด็จกลับจากฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1715 วาดโดย François Roettier
ห้องรับรองแขกผู้มาเข้าเฝ้าราชินี (Queen's audience room) สร้างขึ้นในสมัยราชินีแคโรลีน (Queen Caroline) เครื่องเรือนทำจากไม้มะฮอกกานีจากฝรั่งเศส
การเดินทางจากสนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) ไปยังสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station))
- รถยนต์ (Car) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) มีระยะทางประมาณ 40.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 36 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) สามารถใช้บริการรถบัส LH-Bus เป็นรถบัสด่วนของ Autobus Oberbayern ออกทุก 15 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Munich International Airport ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงที่สถานี Munich Hauptbahnhof (Main Station) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 47 นาที
การเดินทางจากสถานีสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) ไปยังพระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park)
- รถยนต์ (Car) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ไปยัง Nymphenburg Palace and Park มีระยะทางประมาณ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Laim และเดินต่อไปยัง Nymphenburg Palace and Park อีกประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 18 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน
ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม
รายละเอียดเวลาทำการในส่วนต่างๆ ของพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก
พระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Palace and Museum)
- เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม 9:00 น. - 18:00 น.
- 16 ตุลาคม ถึง มีนาคม 10:00 น. - 16:00 น.
สวนพระราชวัง (Park Pavilions)
- เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม 9:00 น. - 18:00 น.
- 16 ตุลาคม ถึง มีนาคม ปิดให้เข้าชม
บริเวณน้ำพุ (Fountains)
- วันอีสเทอร์ - ต้นเดือนตุลาคม 10:00 น. - 16:00 น.
ล่องเรือกอนโดล่าในคลองสายหลัก (Gondola Rides on the Central Canal)
- เดือนเมษายน ถึง กลางเดือนตุลาคม เปิดบริการทุกวันในช่วงที่สภาพอากาศดี
บริเวณห้องโถงใหญ่ (The Great Hall)
อัตราค่าเข้าชม
- ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro
- ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro
- ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro
- ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)
- เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน ถึง ช่วงต้นเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงเวลาที่สวนนิมเฟนเบิร์กเปิดให้เข้าชม เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เหมาะสม
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
(Nymphenburg Palace and Park, Munich, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro
- ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro
- ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro
- ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)
- เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49) 89 17908-0
เว็บไซต์ : www.schloss-nymphenburg.de
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
โบสถ์ และมหาวิหาร อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ล้วนสร้างขึ้นจากความเชื่อ และความศรัทธา บางสถานที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางสถานที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดผลงานทางสถาปัตยกรรม และประติมากรรมออกมาได้อย่างงดงาม 10 โบสถ์และมหาวิหารที่ PALANLA จะพาไปชมในวันนี้ ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีชื่อเสียงที่สุด
อ่านต่อ
15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
อ่านต่อ
หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน
อ่านต่อ
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ
อ่านต่อ
ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า
อ่านต่อ
จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส
อ่านต่อ
โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน
อ่านต่อ
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย
อ่านต่อ
ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ