ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

  • อ่าน (6,311)
  • ByWebmaster
  • 12:01:59 | 26 มิ.ย. 2564

ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

City Pillar Shrine, Bangkok, Thailand

 

             ศาลหลักเมือง (City Pillar Shrine) กรุงเทพมหานคร สถานที่อันเป็นหลักบ้านหลักเมืองและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนมายาวนาน สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี สถานที่แห่งนี้ในแต่ละวันมีประชาชนหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมากราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่เคยขาดสาย

 


ประวัติ

             ศาลหลักเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธียกเสาหลักเมืองขึ้น เป็นเสาไม้ชัยพฤกษ์มีไม้แก่นจันทน์ประกับนอก ยอดเสารูปบัวตูม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ณ ชัยภูมิใจกลางพระนครใหม่ที่พระราชทานนามว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” หรือเรียกต่อกันมาว่า “กรุงเทพมหานคร”

             จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเสาหลักเมืองต้นใหม่แทนต้นเดิมที่ชำรุดไปตามกาลเวลา เป็นเสาไม้สักเป็นแกนอยู่ภายในประกับด้วยไม้ชัยพฤกษ์ยอดเม็ดทรงมัณฑ์ และผูกดวงชาตาพระนครขึ้นใหม่ เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ที่อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารประสบความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวรยิ่งขึ้น

             ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน ณ ศาลหลักเมือง ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่มหานครตามโบราณราชประเพณี และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการดำเนินการปรับปรุงศาลหลักเมืองให้มีความงดงามบริบูรณ์สมกับเป็นที่สถิตแห่งองค์พระหลักเมือง และให้เชิญเสาหลักเมืองต้นเดิมไปประดิษฐานไว้คู่กับเสาหลักเมืองต้นปัจจุบัน เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จสมบูรณ์ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีสมโภชพระหลักเมือง ณ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 รวมทั้งได้สร้างศาลเทพารักษ์เพื่อเป็นที่สถิตแห่งเทพารักษ์ทั้ง 5 และสร้างอาคารหอพระพุทธรูปขึ้น


องค์พระหลักเมือง

องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ได้แก่

             1. พระเสื้อเมือง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง ทรงยืนบนฐานสิงห์ พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ซ้ายท้าวที่บั้นพระองค์ทรงคฑาวุธ (กระบอง) พระหัตถ์ขวาทรงจักราวุธ พระเสื้อเมือง เป็นเทพารักษ์คุ้มครองป้องกันทั้งทางบก ทางน้ำ คุมกำลังไพร่พลแสนยากร รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขปราศจากศัตรูมารุกราน

             2. พระทรงเมือง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง ทรงยืนบนฐานปัทม์ ยอดทรงมกุฏท่อนบนเป็นแบบเดินหน ซึ่งหมายถึงเสด็จจรไปตรวจตราปกป้องคุ้มครองภัยทั่วประเทศ พระหัตถ์ซ้ายท้าวที่บั้นพระองค์ทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ขวาทรงสังข์ พระทรงเมือง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเปรียบได้กับฝ่ายปกครอง ซึ่งต้องเปี่ยมด้วยพระคุณ คือ ความเมตตา ละมุนละม่อมเป็นแนวทางปฏิบัติ เสมือนสังข์ที่ทรง ซึ่งมีความหมายไปในทางคุณธรรม

             3. พระกาฬไชยศรี ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง มีสี่กร ประทับบนหลังนกแสก ซึ่งเกาะอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมปิดทอง พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ขวาบน ยกเสมอพระอังสาถือชวาลา คือดวงวิญญาณ เปรียบดังธาตุไฟในร่างกายคนเรา ซึ่งหากแตกดับลงเมื่อใดก็เท่ากับสิ้นชีวิตดวงวิญญาณออกจากร่างแล้วนั่นเอง และที่เห็นเป็นรูป 3 แฉกมีความหมายถึง ความตายนั้นย่อมเกิดขึ้นได้โดยไม่กำหนดว่าจะเป็นปฐมวัย มัชฌิมวัย หรือปัจฉิมวัยก็ตาม พระหัตถ์ขวาล่างกุมพระขรรค์ แทนปัญญาอันแหลมคม สำหรับพิจารณาตัดสินปัญหาตลอดจนแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้อง ซึ่งพระขรรค์นี้เป็นอาวุธประจำองค์ของเทพยดาหรือผู้มีบุญญาธิการทั่วไป พระหัตถ์ซ้ายบนถือเชือกบาศ สำหรับคล้องมัดปราณของมนุษย์ผู้ถึงฆาต ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่าง ทรงแสดงกิริยาตักเตือนสั่งสอนมิให้กระทำความชั่วร้าย

             4. เจ้าเจตคุปต์ ลักษณะ เป็นรูปแกะสลักด้วยไม้ ประทับยืนบนแท่นสี่เหลี่ยม พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ประดับทองพระกร โดยพระหัตถ์ขวาทรงจักราวุธเทพคือเหล็กจาร พระหัตถ์ซ้ายถือใบลานอัครสันธานา สำหรับจดความชั่วร้ายของชาวเมืองที่ตายไป ตำนานมีว่า เจ้าเจตคุปต์เป็นบริวารพระยม และมีหน้าที่อ่านประวัติผู้ตายเสนอพระยม

             5. เจ้าหอกลอง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทองพระเศียรทรงมกุฏยอดชัย ทรงยืนบนแท่นแปดเหลี่ยมพระหัตถ์ยกชูขึ้นเสมอพระอุระ พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว ซึ่งแทนความหมายของธรณี (แผ่นดิน) พระหัตถ์ซ้ายถือเขาสัตว์สำหรับใช้เป่าเป็นสัญญาณเรียกไพร่พลให้เข้ามาประจำหน้าที่ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติในสมัยโบราณเจ้าหอกลอง เป็นเทพารักษ์ประจำหอกลอง มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเหตุการณ์ต่างๆอันเกิดขึ้นในแผ่นดิน เช่น คอยรักษาเวลา ย่ำรุ่ง ย่ำค่ำ และเที่ยงคืน เกิดเหตุอัคคีภัย หรือมีอริราชศัตรูยกมาประชิดพระนคร  


องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ได้แก่ พระทรงเมือง พระเสื้อเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าหอกลอง


บรรยากาศของประชาชนที่มากราบสักการะองค์พระหลักเมือง


จิตรกรรมลวดลายไทยงดงามบริเวณกรอบประตู


ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ติดกับอาคารของกระทรวงกลาโหม


การเดินทางไปศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร

             ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 15 นาที มีรถประจำทางสายที่ผ่านบริเวณใกล้เคียงคือสาย 59, ปอ.59 และ ปอ.503


บรรยากาศยามค่ำคืนรอบๆ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครในช่วงที่มีงานเฉลิมฉลอง 


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 05.30 - 19.30 น


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


พระพุทธรูปปางต่างๆ  ที่ประดิษฐานภายในอาคารหอพระพุทธรูป 


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมือง

             ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมศาลหลักเมือง กราบสักการะองค์ศาลหลักเมืองและศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล


ประชาชนกำลังผูกผ้า 7 สีเพื่อความเป็นสิริมงคล


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

                         (City Pillar Shrine, Bangkok, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 05.30 - 19.30 น

                         ตั้งอยู่ที่ : ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร          

                         โทรศัพท์ : (+66) 02 222 9876

                         เว็บไซต์ : https://bangkokcitypillarshrine.com

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         เว็บไซต์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ http://www.bmta.co.th/?q=home

                                         เว็บไซต์รถไฟฟ้าบีทีเอส https://www.bts.co.th

                                         เว็บไซต์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย https://www.mrta.co.th/th/

                                         เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร http://www.bangkok.go.th/main/index.php?l=th

                                         เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ