การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า

  • อ่าน (4,843)
  • By Webmaster
  • 16:09:40 | 26 มิ.ย. 2562

การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า

Traveling by Vehicle through Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge (HZMB)

           สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (The Hong Kong–Zhuhai–Macau Bridge / HZMB) เป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 55 กิโลเมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยใช้งบประมาณการสร้างกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.5 แสนล้านบาท สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ประกอบด้วยสะพานสามสาย ระบบอุโมงค์ใต้ทะเล และเกาะเทียมสี่เกาะ สะพานแห่งนี้ทำหน้าที่เชื่อมแผ่นดินใหญ่ของจีนเข้ากับเขตปกครองพิเศษ ฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า รวมถึงเมืองสำคัญอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 11 เมือง ยกระดับการคมนาคมเพื่อส่งเสริมโครงการพัฒนาและสร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจภายในพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า (Greater Bay Area) ให้มีความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยช่วยร่นระยะเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมงให้เหลือเพียง 45 นาที


สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (HZMB)


โครงสร้างสะพานอันเป็นเอกลักษณ์


การเดินทางบางช่วงต้องลอดอุโมงค์ใต้ทะเล

           ทั้งนี้ ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจราจรบนสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า อยู่หลายประการ อาทิ ในขณะที่ฮ่องกงและมาเก๊ามีระบบการจราจรที่ชิดทางด้านซ้ายมือ (Left-Hand Traffic – LHT) สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าจะใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ (Right-Hand Traffic – RHT) ตามระบบของเมืองจู่ไห่และเมืองอื่นๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ และยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้งด้วยสะพานแห่งนี้จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าก็จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกง มาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากส่วนของสะพานหลักนั้นถือว่าตั้งอยู่บนน่านน้ำของจีนแผ่นดินใหญ่ จึงต้องทำตามระเบียบของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย


สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ

           และเนื่องจากการจราจรของเมืองทั้งสามเมือง คือ ฮ่องกง จูไห่ และมาเก๊า นั้นมีความแออัดมาก แต่ละเมืองไม่ต้องการให้มีจำนวนยานพาหนะเพิ่มขึ้น สะพานแห่งนี้จึงมีข้อจำกัดให้ยานพาหนะที่มีทะเบียนข้ามเขตแดนที่กำหนดเท่านั้นที่จะสามารถผ่านขึ้นสะพานได้ โดยในบางเส้นทางไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัววิ่ง ผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงนักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางข้ามสะพานแห่งนี้ด้วยรถโดยสารประจำทาง (Shuttle Bus), รถโค้ชข้ามเขตแดน (Cross-Boundary Coach) หรือ รถรับจ้างข้ามแดน (Cross-Boundary Hire Car) เท่านั้น ซึ่งรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากที่สุดคือ Shuttle Bus และ Cross-Boundary Coach


อาคาร HZMB Hong Kong Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งฮ่องกง ตั้งอยู่ที่ HZMB Passenger Clearance Building ใกล้ๆ กับสนามบินนานาชาติฮ่องกง


อาคาร Macau Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Outer Harbour Ferry Terminal


รถประจำทาง (Shuttle Bus) และรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach)


Shuttle Bus หรือ Golden Bus จะมีสีทองเท่านั้น

             รถประจำทาง (Shuttle Bus หรือ Golden Bus) คือรถที่ให้บริการเฉพาะเดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บริการรับส่งต่อไปยังจุดต่างๆ ของตัวเมือง (ดังนั้นผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป และ เดินทางออกจาก Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ เอง) บริการของ Shuttle Bus แบ่งเป็น 2 เส้นทางด้วยกันคือ

                     1. Hong Kong Port ไปกลับ Zhuhai Port

                     2. Hong Kong Port ไปกลับ Macao Port

           การเดินรถแต่ละเส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง เที่ยวรถออกทุก ๆ 10 - 15 นาทีในเวลาปกติ และทุก ๆ 5 - 10 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และทุก ๆ 15 - 30 นาทีในช่วงกลางคืน

           ราคาตั๋วโดยสาร กลางวันเที่ยวละ 65 HKD กลางคืน 70 HKD ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port หลังจากที่ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ผ่านบัญชี Wechat สาธารณะชื่อ “hzmbus” และผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นภาษาจีนของบริษัทรถ Shuttle Bus ได้ที่ http://www.hzmbus.com/


Cross-Boundary Coach หรือรถโค้ชข้ามแดน มีหลายบริษัทให้บริการและมีสีสันที่แตกต่างกัน

             รถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) มีลักษณะคล้ายกับรถทัวร์ในไทย ให้บริการรับผู้โดยสารจากเขตเมืองของฮ่องกง จูไห่ หรือมาเก๊า เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าไปยังอีกตัวเมืองหนึ่ง โดยมีจุดจอดที่แน่นอน เส้นทางและตารางเวลาคงที่ จุดจอดหลักๆ ในเขตเมืองของฮ่องกง ได้แก่ Causeway Bay, Tsim Sha Tsui, Kowloon, Mon Kok, Prince Edward, Kwun Tong, Tseung Kwan O จุดจอดหลักในแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ Zhongshan Zhuhai, Jiangmen, Xinhui, Kaiping, Toishan, Yangjiang และจุดจอดหลักในมาเก๊าจะเป็นโรงแรมต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต Taipa

           ลักษณะของการใช้บริการของรถประเภทนี้คือ รถจะขับไปรับผู้โดยสารตามจุดจอดต่างๆ ข้างต้น โดยเมื่อเดินทางมาถึง Port ต้นทาง และ Port ปลายทาง รถก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เมื่อผู้โดยสายกลับขึ้นมาบนรถแล้วจึงเดินทางไปส่งตามจุดหมายปลายทางต่างๆ ในตัวเมือง ค่าโดยสารอยู่ระหว่าง 160 - 190 HKD 


ขั้นตอนการเดินทางข้ามสะพาน

           1. ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองที่ Port ต้นทาง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)

           2. ซื้อบัตร Shuttle Bus โดยสารข้ามสะพาน (สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางโดย Cross-Boundary Coach) วิธีที่สะดวกที่สุดคือซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรอัตโนมัติ หรือสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรก็ได้เช่นกัน

           3. เดินไปยังจุดขึ้นรถบัสที่กำหนด รถบัสจะไม่ได้ระบุที่นั่ง โดยจะออกทุกๆ 15-30 นาที หรือรอให้เต็มจึงออก

           4. รถเดินทางข้ามสะพานประมาณ 45 นาที

           5. เมื่อถึง Port ปลายทางผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)

           6. ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ออกมาใช้บริการรถประจำทาง, รถ Cross-Boundary Coach คันเดิม, รถ Taxi หรือ รถรับส่งฟรีของโรงแรมไปยังจุดหมายที่ต้องการ

           **หากเดินทางโดยใช้บริการรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) รถจะให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ คือ รับผู้โดยสารจากจุดต่างๆ ในตัวเมืองต้นทาง เมื่อมาถึง Port ต้นทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาออก และรอผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางข้ามสะพาน และเมื่อถึง Port ปลายทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าอีกครั้ง รอจนผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางไปส่งยังจุดหมายต่างๆ ในตัวเมืองปลายทาง


ข้อควรรู้เกี่ยวกับการ
ตรวจคนเข้าเมือง

           ผู้ที่เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าจะต้องผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาออก (Departure) ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ที่ต้นทางก่อนข้ามสะพาน และผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า (Arrival) ในอาคารผู้โดยสารที่ Port ปลายทางอีกครั้งหลังจากข้ามสะพานมาแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่และขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงนั้นค่อนข้างเข้มงวดกว่าที่มาเก๊า และนักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปที่เข้าแถวรอตรวจคนเข้าเมืองนั้นมีเป็นจำนวนมาก สิ่งแรกเลยที่ควรทำเมื่อเดินทางไปถึง Hong Kong Port คือ ให้เดินไปหยิบฟอร์มคนเข้าเมืองแผ่นเล็กๆ ตรงจุดที่มีป้ายสีส้มๆ เขียนว่า Departure Card (สำหรับขาออก) หรือ Arrival Card (สำหรับขาเข้า) มากรอก จากนั้นค่อยไปต่อแถวรอตรวจกับตม.หรือจะนำไปกรอกระว่างที่เข้าคิวแถวอยู่ก็ได้ เพราะหากลืมไม่ได้เดินไปหยิบแผ่นนี้มาก่อนที่จะไปเข้าแถวจะต้องเสียเวลาเดินออกจากแถวมาหยิบและเริ่มต่อคิวใหม่ ซึ่งการรีบออกจากแถวมาหยิบเอกสารแผ่นนี้ก็อาจทำให้โดนเจ้าหน้าที่เพ่งเล็งจนนำไปสู่การไม่ผ่าน ตม.ได้

 
หยิบฟอร์มตม. Departure Card (ขาออก) หรือ Arrival Card (ขาเข้า) ได้จากบริเวณที่มีลักษณะเช่นนี้

           หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถ Cross-Boundary Coach ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ติดด่านตม. ซึ่งต้องถูกกักตัวและเข้าไปสัมภาษณ์ในห้องพิเศษจนเกิดความล่าช้าก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เมื่อผ่านตม. ออกมาแล้วไม่พบรถของบริษัทที่นั่งมาก็ยังสามารถขึ้นรถคันถัดไปของบริษัทเดียวกันได้ โดยแต่ละบริษัทจะมีสติ๊กเกอร์แปะที่แขนเสื้อให้เราก่อนขึ้นรถมาที่ Port ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถโค้ชสื่อสารมาเป็นภาษาจีนและชี้มาที่สติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ที่เสื้อของนักท่องเที่ยว นั่นหมายถึงให้แกะสติ๊กเกอร์นั้นส่งให้เขาก็จะสามารถขึ้นรถได้

 
เจ้าหน้าที่ของบริษัทต่างๆ บริเวณจุดจอดรอผู้โดยสารรถ Cross-Boundary Coach 


บริเวณทางเดินไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองที่ Hong Kong Port และหมายเลขของรถสายต่างๆ กำกับไว้ชัดเจน


บริเวณจุดจอดรถแท็กซี่สำหรับเดินทางเข้าเมืองที่ Hong Kong Port

           ทั้งนี้ แม้ระยะเวลาในการเดินทางจากข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จะใช้เวลาเพียงประมาณ 45 นาที แต่เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมด ทั้งการรอผู้โดยสารแต่ละคนผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองให้กลับมาขึ้นรถจนเต็มคันแล้วค่อยออกนั้น โดยรวมแล้วใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งนับว่านานกว่าการเดินทางข้ามฝั่งด้วยเรือเฟอรี่ที่มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่รวดเร็วและไม่ต้องรอผู้โดยสารเต็มจึงค่อยออก

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ