ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,534)
  • By Webmaster
  • 15:28:59 | 13 ธ.ค. 2565

ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

Hiroshima Castle, Hiroshima, Japan


ปราสาทฮิโรชิมะอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของตังหวัดฮิโรชิมะ 

             ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) มีชื่อเล่นว่า ปราสาทปลาคาร์พ ซึ่งตัวปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนั้นบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากที่ปราสาทเดิมถูกไฟไหม้ และโดนระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีสภาพเป็นซากปราสาท มีเพียงต้นไม้ 3 ต้นในนั้นที่รอดมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หอคอยปราสาทฮิโรชิมะปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก จำลองโครงสร้างให้เหมือนปราสาทเดิม ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวฮิโรชิมะ ซึ่งชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นจังหวัดฮิโรชิมะได้รอบทิศเลยทีเดียว


แผนที่ตั้ง ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น 


ประวัติ

             ปราสาทฮิโรชิมะเดิมสร้างขึ้นในสมัยเทนโช 17 หรือปี ค.ศ. 1589 โดยโมริ เทรุโมโตะ ไดเมียวผู้เป็นหนึ่งในห้าผู้อาวุโสของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปราสาทนี้เป็นปราสาทไม้ สร้างขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากปราสาทโอซาก้า ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะกาวะ บนพื้นที่โกะคามุระ แม้ตัวปราสาทจะสร้างเสร็จตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1591 แต่การก่อสร้างในส่วนอื่นๆ เช่น คูน้ำ ป้อมปราการ กำแพงรอบปราสาท ไปเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 1599

             ในปี ค.ศ. 1600 เกิดการสู้รบที่เซกิงาฮาระ ซึ่งโทโยโทมิ ฮิเดโยชิเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อโทคุงาวะ อิเอยาสึ ทำให้ไดเมียวโมริ เทรุโมโตะ ถูกเนรเทศออกจากจังหวัดฮิโรชิมะ โดยแต่งตั้งไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริ เข้ามาปกครองเมืองแทน และลดขนาดปราสาทลง ต่อมาปราสาทฮิโรชิมะเกิดความเสียหายจากพายุและน้ำท่วม ไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริ ออกคำสั่งให้ซ่อมแซมปราสาท และปรับปรุงเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีคูเมืองถึง 3 ชั้น รวมถึงพัฒนาเมืองปราสาทด้วย

             การซ่อมแซมปราสาทนั้นจะต้องรายงานต่อโชกุนและผู้สำเร็จราชการแทน ตามกฎ “บุเกะ โชฮัตโตะ” ที่อิเอยาสึตั้งไว้เพื่อจำกัดอำนาจของไดเมียว และซามุไร ซึ่งการซ่อมแซมปราสาทฮิโรชิมะ ผู้สำเร็จราชการตัดสินว่าผิด จากการที่รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ได้อนุมัติ ทำให้ในปี ค.ศ. 1619 ไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริถูกย้ายไปปกครองจังหวัดอื่นแทน โดยแต่งตั้งตระกูลอาซาโนะเป็นไดเมียวขึ้นปกครองแทน ซึ่งตระกูลอาซาโนะอาศัยอยู่ในปราสาทฮิโรชิมะยาวนานกว่า 250 ปี

             ในสมัยเมจิ ปราสาทฮิโรชิมะถูกใช้เป็นศูนย์กลางทางการทหาร โดยสร้างฮิโรชิมะชินได หรือกองบัญชาการทหารอยู่ภายในปราสาท รวมถึงจัดค่ายทหารไว้ในซันโนะมารุ ต่อมาในปี ค.ศ. 1874 เกิดไฟไหม้ในฮมมารุ และนิโนะมารุ สิ่งก่อสร้างบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย จังหวัดฮิโรชิมะเป็นพื้นที่ทางการทหารทั้งในสงครามจีน-ญี่ปุ่น และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น พื้นที่หลายแห่งเกิดความเสียหายจากสงคราม ต่อมาในปี ค.ศ. 1926 อาคารกองบัญชาการทหารถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถาน และในปี ค.ศ. 1931 หอคอยปราสาทฮิโรชิมะก็ได้รับการประกาศเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่นด้วย

             เนื่องจากศูนย์บัญชาการทางการทหารอยู่ที่ฮิโรชิมะบริเวณปราสาทฮิโรชิมะ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 อเมริกาจึงเลือกทิ้งระเบิดปรมาณูลงใจกลางจังหวัดฮิโรชิมะ ซึ่งจุดศูนย์กลางการระเบิดอยู่ห่างจากปราสาทเพียง 1 กิโลเมตร แรงระเบิดทำให้ปราสาทและพื้นที่บริเวณนั้นภายในพังทลายลง หลังการฟื้นฟูเมือง มีการสร้างปราสาทฮิโรชิมะขึ้นมาใหม่ ในปี ค.ศ. 1958 โดยมีเฉพาะหอคอยปราสาท 5 ชั้น สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ และเรื่องราวของเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งนี้


ปราสาทล้อมรอบด้วยคูเมือง


ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ


ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นจังหวัดฮิโรชิมะได้รอบทิศ


แผนผังภายในบริเวณโบราณสถานปราสาทฮิโรชิมะ


ซุ้มประตูภายในบริเวณ


การเดินทางจากสนามบินไปยังจังหวัดฮิโรชิมะ

             - จากสนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport - FUK) ขึ้นรถไฟใต้ดิน (Subway) สาย Kuko Line จากสถานี Fukuokakuko Station (Airport) ไปลงที่สถานี Hakata Station แล้วเปลี่ยนชานชาลาไปขึ้นรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) สาย Tokaido Sanyō Shinkansen ไปลงที่สถานี Hiroshima Station ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

             - จากสนามบินคันไซ (Kansai International Airport - KIX) ขึ้นรถไฟสาย Haruka จากสถานี Kansai - Airport Station ไปลงที่สถานี Shin-Osaka Station ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วเปลี่ยนชานชาลาไปขึ้นรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) สาย Tokaido Sanyō Shinkansen ไปลงที่สถานี Hiroshima Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที รวมใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที


การเดินทางไปปราสาทฮิโรชิมะ

             - รถบัสนำเที่ยว (Hiroshima Maple Loop Sightseeing Bus) จากสถานี Hiroshima Station ให้แสดงตั๋วรถไฟ JR กับคนขับรถ (หากไม่มีตั๋วรถไฟ JR สามารถซื้อแบบรายวันได้ในราคา 400 - 2,000 เยน) แล้วขึ้นรถบัสนำเที่ยวสายสีเหลืองไปลงที่ปราสาทฮิโรชิมะ


เวลาทำการเปิด-ปิด

             หอคอยปราสาท

             มีนาคม - พฤศจิกายน 09:00 น. – 18:00 น. (เข้าก่อน 17:30 น.)

             ธันวาคม - กุมภาพันธ์ 09:00 น. – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)

             นิโนะมารุ

             เมษายน - กันยายน 09:00 น. – 17:30 น. (เข้าก่อน 17:00 น.)

             ตุลาคม - มีนาคม 09:00 น. – 16:30 น. (เข้าก่อน 16:00 น.)

             ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 2 มกราคม ของทุกปี


อัตราค่าเข้าชม

             ผู้ใหญ่ 370 เยน

             เด็ก ม.ปลาย 180 เยน

             เด็กเล็ก เข้าชมฟรี


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ปราสาทฮิโรชิมะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

                         (Hiroshima Castle, Hiroshima, Japan)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

                         เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา 

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : 21-1 Motomachi, Naka Ward, Hiroshima, 730-0011, Japan

                         โทรศัพท์ : (+81) 82-221-7512

                         เว็บไซต์ : https://www.rijo-castle.jp

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com  

                                                     เว็บไซต์จังหวัดฮิโรชิมะ https://www.city.hiroshima.lg.jp/site/english/

                                                     เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.or.th/ 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ