สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,597)
  • By Webmaster
  • 14:45:34 | 27 เม.ย. 2566

สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan


ลิงหิมะนั่งอยู่บนโขดหินท่ามกลางไอน้ำริมบ่อน้ำพุร้อนของสวนลิง

             สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) เป็นเหมือนแดนสวรรค์ของฝูงลิงป่าที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจิโกคุดานิ และยังเป็นที่เดียวในโลกที่มีลิงแช่ออนเซ็นซึ่งเป็นภาพที่สร้างชื่อเสียงให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยฝูงลิงมักจะมาแช่ออนเซ็นที่จัดไว้ให้กลางแจ้งเพื่อคลายความหนาว ก่อให้เกิดภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู และหาชมได้ยาก โดยสวนลิงแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น (Jigokudani Yaen-koen) ซึ่งแปลว่า หุบเขานรก เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้จะมีหิมะปกคลุมยาวนานถึงหนึ่งในสามของปี และมีสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง รวมถึงสภาพพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีหน้าผาสูงชัน และมีไอน้ำพวยพุ่งจากธารน้ำพุร้อนที่ไหลรินอยู่เกือบตลอดเวลา คนญี่ปุ่นโบราณจึงเปรียบเปรยว่ามีสภาพเหมือนหุบเขานรกนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก  


แผนที่ตั้ง สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ

             สวนลิงหิมะจิโกคุดานิก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1964 ในพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น มีความสูง 850 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใกล้กับอุทยานแห่งชาติโจชิเนสึ โคเก็น (Joshinetsu Kogen) สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ลิงป่าหรือที่นิยมเรียกกันว่าลิงหิมะหลากหลายช่วงอายุที่อาศัยอยู่ในบริเวณภูเขาแถบนี้ตามธรรมชาติ และด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็ว พวกมันจึงรู้ว่าอาหารที่เจ้าหน้าที่จัดหาให้ที่สวนแห่งนี้ค่อนข้างดีกว่าอาหารที่พวกมันจะหาได้เองจากภูเขา และรู้ว่ามนุษย์ในสวนไม่ทำอันตรายพวกมัน พวกมันจึงพากันเข้ามาอาศัยอยู่ในสวนนี้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นฝูงลิงในสวนจิโกคุดานิอยู่กันอย่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในสวนสัตว์อย่างสิ้นเชิง

             โดยฝูงลิงจะประกอบด้วยลิงตัวผู้ที่โตเต็มวัย กับลิงตัวเมียที่โตเต็มวัยเป็นจำนวนสองหรือสามเท่าของจำนวนตัวผู้ รวมถึงบรรดาลูกลิงน้อย และจะมีลิงจ่าฝูงเป็นหัวหน้าคอยดูแลฝูง สาเหตุที่ลิงมาแช่ออนเซ็นนั้นเป็นเพราะบ่อน้ำร้อนช่วยคลายความหนาวเย็นได้ ซึ่งลิงส่วนใหญ่มักจะแช่บ่อน้ำร้อนกันในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวจัดราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยแต่เดิมนั้นช่วงที่ก่อตั้งสวนลิงแห่งนี้ขึ้นใหม่ๆ จะมีลิงบางตัวลงไปแช่ออนเซ็นของคนระหว่างที่มารออาหารจากเจ้าหน้าที่ และพวกมันก็ลงไปแช่กันเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงสร้างออนเซ็นส่วนตัวให้ลิงใช้โดยเฉพาะซึ่งเป็นบ่อที่เห็นกันในปัจจุบัน เพื่อให้ลิงใช้บ่อน้ำร้อนแยกกับมนุษย์จะได้ถูกสุขอนามัย ตั้งแต่นั้นมาลิงก็จะมาแช่ออนเซ็นบริเวณนี้กันจากรุ่นสู่รุ่น

             ในส่วนของสภาพทางธรรมชาติของหุบเขานั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงามสะดุดตาจากหน้าผาสูงชันและก้อนหินมากมาย มีธารน้ำโยโคยุ (Yokoyu) ที่มาจากน้ำพุเกลือร้อนที่มีความใสสะอาดซึ่งผุดออกมาจากรอยแตกของชั้นหินควอตซ์ไดโอไรต์ (Quarts diorite) ซึ่งเป็นชั้นหินหนืดใต้ดินที่แข็งตัวหลังจากการประทุของภูเขาไฟ โดยน้ำร้อนจากแหล่งธรรมชาติแห่งนี้ยังได้ถูกผันไปยังชิบุออนเซ็นและคันบายาชิออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถไปใช้บริการได้


ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้

             1. สวนลิงหิมะจิโกคุดานินั้นตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขา จึงต้องเดินเท้าจากบริเวณเชิงเขาด้านล่างลัดเลาะไปตามทางเดินประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงในแบบที่ค่อยๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปยังด้านบน ซึ่งอาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่รู้สึกท้อใจและตัดสินใจไม่เดินขึ้นไป แต่อันที่จริงแล้วการเดินขึ้นไปนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด เนื่องจากทัศนียภาพสองข้างทางระหว่างที่เดินขึ้นไปนั้นมีความสวยงาม และสร้างความเพลิดเพลินให้จนสามารถลืมเรื่องระยะทางไปได้ เช่น บรรยากาศของต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารข้างทาง และบ่อออนเซ็น อีกทั้งด้วยสภาพเส้นทางที่ไม่ได้ลาดชันมากนัก และสภาพอากาศที่ไม่มีแดดจัดจึงสามารถเดินได้อย่างสบายๆ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อม  


ทางเดินปกคลุมด้วยหิมะ


บริเวณทางขึ้นมีป้ายบอกระยะทางและแผนที่เส้นทาง


             2. การเตรียมตัวให้พร้อมท่องเที่ยวท่ามกลางหิมะ และสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อผ้า ถุงมือ ที่ปิดหู หมวก และเครื่องกันหนาวต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพร่างกายของตนเอง และที่ขาดไม่ได้คือ “รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ” ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าธรรมดาตรงที่พื้นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะจะมีแผงหมุดช่วยยึดเกาะพื้นและกันลื่นได้ดีกว่า เนื่องจากหิมะที่ตกสะสมในบางพื้นที่นั้นมีความลื่น โดยเฉพาะในช่วงที่หิมะกำลังละลาย หากใส่รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้เดินได้อย่างสบายขึ้น ไม่ต้องกลัวหรือกังวลเรื่องลื่นล้ม ทำให้เที่ยวชมบรรยากาศสองข้างทางได้อย่างมีความสุข


             3. มีจุดเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะไว้บริการนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินขึ้นไปยังสวนลิงหิมะด้านบนหุบเขาแต่ไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะมาด้วย ก็สามารถทำการเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะได้ที่บริเวณใกล้กับเชิงเขาทางขึ้น


รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะวัสดุที่ใช้จะมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ


พื้นรองเท้าด้านล่างจะมีลักษณะเป็นแผงหมุดไว้ยึดเกาะพื้นหิมะหรือพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งเพื่อช่วยกันลื่นและเพิ่มแรงเสียดทานในการก้าวเดินให้ทรงตัวได้ดี


รองเท้าผ้าใบทั่วไป


พื้นรองเท้าผ้าใบทั่วไปจะไม่มีแผงหมุดไว้ยึดเกาะหิมะและพื้นน้ำแข็ง


บริเวณทางเดินไปยังสวนลิงหิมะ พื้นอาจมีความลื่นจากหิมะที่ละลายไปบ้างแล้วบางส่วน


เส้นทางท่ามกลางธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะ


หากเตรียมตัวมาพร้อมก็สามารถเดินชมทัศนียภาพได้อย่างสบายๆ


ทิวทัศน์อันสวยของงามของหุบเขาที่มีหิมะปกคลุม


มีลำธารสายเล็กๆ ภายในหุบเขา


กองหิมะใกล้กับลำธารกำลังละลาย


บรรยากาศเมืองเล็กๆ ภายในหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ


ระหว่างทางจะพบบ่อน้ำพุร้อนอยู่เป็นระยะ


บันไดทางขึ้นเขาสู่สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ


บริเวณทางเข้าไปยังที่ทำการด้านในอาคาร


ภายในอาคารยังมีการจัดแสดงป้ายข้อมูลของลิง และมีห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน


สะพานทางเดินทอดยาวไปยังสวนลิงหิมะ


ธารน้ำจากบ่อน้ำร้อนที่ไหลอยู่ในบริเวณนี้ และทางด้านซ้ายคือออนเซ็นของลิง


เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก


ลิงตัวเล็กและลิงตัวใหญ่นั่งเล่นคลายหนาวอยู่ริมบ่อออนเซ็น


ไอน้ำร้อนช่วยคลายหนาวให้ลิงรู้สึกสบายตัว


บางตัวก็ชอบปลีกวิเวกไปนั่งอยู่ตัวเดียว


ลิงวัยรุ่นกำลังเล่นกัน


ลูกลิงจะอยู่ไม่ห่างแม่ลิง


ลิงแม่ลูกนั่งกอดกันอย่างน่าเอ็นดู และธรรมชาติของแม่ลิงจะค่อนข้างหวงลูก


การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)

             - รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้

             วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที 

             วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที

หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub

                2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/  


การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park)

             - รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยังบริเวณที่จอดรถของสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น ต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Nagano Station ให้เดินไปขึ้นรถบัสบริเวณประตูทางออกสถานี Nagano Station East Exit และลงป้าย Snow Monkey Park ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

             เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.


ลูกลิงกำลังเล่นหิมะ


อัตราค่าเข้าชม

             ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน

             เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน

             เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


บรรยากาศของหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ


กฎระเบียบที่ควรรู้

ที่สวนนี้มีกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยของทั้งลิงและตัวนักท่องเที่ยวเอง ดังนี้

             1. ห้ามให้อาหารลิง หรือเอาอาหารมาล่อให้ลิงเข้ามาใกล้

             2. ห้ามสัมผัส อย่าจับลิงหรือตะโกนใส่ลิง อย่ารบกวนให้ลิงหงุดหงิด เพราะคุณอาจถูกกัด โดยเฉพาะลูกลิงเพราะพวกมันอาจจะขอความช่วยเหลือจากลิงตัวโตเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้น อย่าแตะต้องลิงแม้ว่าพวกมันจะอยู่ใกล้ชิดกับคุณก็ตาม

             3. ห้ามจ้องตาลิง การจ้องตาลิงอย่างใกล้ชิดพร้อมพูดด้วย สำหรับลิงแล้วจะมองอากัปกิริยาเช่นนี้เป็นศัตรูทันที ดังนั้นอย่าเข้าใกล้พวกมันมากเกินไปนัก และจงรักษาระยะห่างอยู่เสมอ

             4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบริเวณนี้

             5. การถ่ายภาพและวีดีโอควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง

             6. ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ และห้ามรบกวนลิงกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ


ภาพลิงริมออนเซ็นที่หาชมได้แค่เพียงที่สวนลิงหิมะจิโกคุดะนิเท่านั้น


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Jigokudani Snow Monkey Park สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

                         (Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน / เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี

                         เวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

                                              เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 269-33-4379

                         เว็บไซต์ : https://jigokudani-yaenkoen.co.jp/

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701

                                          เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/

                                          เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ