- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (395)
- By Webmaster
- 09:20:55 | 24 เม.ย. 2567
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
Top 11 Travel Destinations in Kanagawa, Japan
จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้
1. ชายหาดยูอิกาฮามะ
ชายหาดยูอิกาฮามะ (Yuigahama Beach) เป็นสถานตากอากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมในเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะในฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะเป็นสถานที่เล่นน้ำยอดนิยมที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวจึงมีความสะดวกในการเดินทาง และยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักรองรับอย่างครบครัน อีกทั้งด้วยสภาพของชายหาดที่เป็นหาดน้ำตื้นบริเวณกว้างทำให้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และชายหาดนี้ยังใช้จัดงานแข่งขันพลุดอกไม้ไฟประจำเมืองคามาคุระที่จัดขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคมอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวที่แม้จะลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่สามารถเดินชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งทะเลและภูเขาไฟฟูจิในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งได้อย่างชัดเจน
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 35°18'33.1"N 139°32'32.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชายหาดยูอิกาฮามะ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1121
2. องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu / The Great Buddha) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้างของวัดโคโตะคุอิน (Kotoku-in Temple) องค์พระใหญ่นี้มีความสำคัญเพราะเป็นองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุกว่าแปดร้อยปีที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างามและน่าเลื่อมใส และยังเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยนอกจากจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองคามาคุระแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 300 เยน / เด็กอายุ 6 - 12 ปี ราคา 150 เยน
ค่าเข้าชมด้านในองค์พระใหญ่ ราคา 50 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน เปิดทำการเวลา 08:00 - 17:30 น.
เดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เปิดทำการเวลา 08:00 - 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°19'00.2"N 139°32'08.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/1130
3. วัดฮาเสะเดระ
วัดฮาเสะเดระ (Hasedera Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดฮาเสะคันนง (Hase Kannon) เป็นวัดพุทธนิกายโจโดะ ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียร ซึ่งแกะสลักจากไม้การบูรขนาดใหญ่ สูงถึง 9.18 เมตร นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ใกล้กับโถงหลักเป็นโถงพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม (Kannon Museum) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิม วัดฮาเสะเดระมีพื้นที่กว้างขวาง ภายในบริเวณวัดยังมีสวนไฮเดรนเยียอันขึ้นชื่อของเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมากเป็นพิเศษ และอย่าพลาดชมถ้ำเบนเทนคุทสึ ที่สักการะพระเบนไซเทน หนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดของญี่ปุ่น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก (6 - 11 ปี) 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือน มีนาคม - เดือน กันยายน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:30 น.
เดือน ตุลาคม - เดือน กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°18'44.7"N 139°31'58.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดฮาเสะเดระ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/1247
4. วัดโอฟุนะคันนงจิ
วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) เป็นวัดพุทธที่สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวที่เรียกว่า เบียคคุอิคันนง ซึ่งมีความสูงถึง 25 เมตร มองเห็นเด่นชัดตั้งแต่บนสถานีรถไฟ Ofuna แต่ที่จริงแล้วรูปปั้นนี้มีเพียงครึ่งตัวเท่านั้น วัดโอฟุนะคันนงจิยังเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิในครั้งนั้นคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นหลายแสนคน เจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสีอีกมากมาย ภายในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมีห้องนิทรรศการที่มีพระพุทธรูปนับพันองค์ สร้างขึ้นเพื่ออธิษฐานให้กับเหยื่อสงครามและให้โลกสงบสุข
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 100 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือน กุมภาพันธ์ - เดือน ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 09:00 – 16:50 น.
เดือน พฤศจิกายน - เดือน มกราคม ตั้งแต่เวลา 09:00 – 16:20 น.
พิกัด GPS : 35°21'10.5"N 139°31'42.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโอฟุนะคันนงจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1246
5. ไชน่าทาวน์
ไชน่าทาวน์ (China Town) ย่านคนจีนประจำเมืองโยโกฮาม่าที่กินพื้นที่แค่ประมาณ 0.2 ตารางกิโลเมตร ทว่ามีความเข้มข้นทางด้านวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของชุมชมชาวจีนที่มาตั้งรกรากกันยาวนานนับร้อยปี ในสมัยอดีตบริเวณนี้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับทำประมงขนาดเล็กของคนในละแวกเท่านั้น แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1859 ญี่ปุ่นได้เปิดประเทศให้ชาติอื่นๆ โดยรอบได้เข้ามาทำการค้าขายได้ และหนึ่งในกลุ่มชนชาติที่มาทำการค้าขายที่อ่าวโยโกฮาม่ามากที่สุดก็คือคนจีนนั่นเอง จึงเกิดเป็นชุมชนชาวจีนประจำเมืองหรือที่เรียกกันติดปากว่า ไชน่าทาวน์ โดยภายในย่านไชน่าทาวน์จะเป็นถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนสารพัดประเภทให้เลือกทานกัน รวมถึงยังมีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่งที่กระจายตัวอยู่โดยรอบ
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่ภายในอาคารเปิดให้เข้าชมเวลา 11:00 – 20:00 น.
พิกัด GPS : 35°26'36.3"N 139°38'46.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไชน่าทาวน์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=643
6. สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด
สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด (Yokohama Cosmo World) สถานที่ที่เป็นแหล่งรวมรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเมืองท่าโยโกฮาม่าในจังหวัดคานากาว่ามายาวนาน ภายในมีการแบ่งโซนเครื่องเล่นตามความเหมาะสมของอายุ และกิจกรรมสนุกๆ แบบจัดเต็ม ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม เพราะตั้งอยู่ริมทะเลของอ่าวโยโกฮาม่า (Yokohama Bay) กินอาณาบริเวณ 20,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ที่ถมขึ้นมาจากทะเล สวนสนุกคอสโม่เวิล์ดยังเป็นที่ตั้งของชิงช้าสววรค์คอสโม (Cosmo Clock 21) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น กับความสูง 112.5 เมตร นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยศูนย์กลางของชิงช้าสวรรค์จะมีการติดตั้งนาฬิกาดิจิตอล (Clock 21) ขนาดใหญ่ โดยพอตกค่ำตัวชิงช้าสวรรค์จะส่องแสงไฟหลากสีสันออกมาสร้างบรรยากาศโรแมนติกทั่วทั้งอ่าวโยโกฮาม่า
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ส่วนเครื่องเล่นภายในสวนสนุกต้องเสียต่างหาก โดยมีราคาตั้งแต่ 100 - 800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 22:00 น. (ปิดทุกวันพฤหัสบดี / วันหยุดประจำชาติ)
พิกัด GPS : 35°27'18.5"N 139°38'13.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=645
7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า (Aqua Museum Yokohama) หรือ Yokohama Hakkejima Sea Paradise ตั้งอยู่บนเกาะทางตอนใต้ของโยโกฮาม่า ถือเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ โซนอควาเรียมในร่ม (Aqua Museum) โซนปลาโลมา (Dolphin Fantasy) โซนสัมผัสสัตว์น้ำ (Fureai Lagoons) โซนตกปลา (Umi Farm) ซึ่งไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็น่าจะอยู่ที่โชว์การแสดงความสามารถของบรรดาสัตว์ทะเลน่ารักๆ อย่างวอลรัส โลมา และโลมาสีขาว ที่อควาสเตเดียม (Aqua Stadium) บริเวณชั้น 4 ของโซนอควาเรียมในร่ม เรียกรอยยิ้มและความประทับใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นบ้านของสัตว์น้ำน้อยใหญ่กว่า 500 ชนิดร่วม 100,000 ตัวแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งเครื่องเล่น ร้านอาหาร ช้อปปิ้งสโตร์ และโรงแรมที่พร้อมจะมอบช่วงเวลาสุดพิเศษแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ เริ่มต้นที่ราคา 5,300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 17:00 น. (บางวันปิดเวลา 18:00, 18:30 น.)
พิกัด GPS : 35°20'16.6"N 139°38'47.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1218
8. วัดเคนโชจิ
วัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1253 เป็นวัดเซนที่มีอายุแปดร้อยกว่าปี มีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองคามาคุระ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของศาลา หอระฆัง และหอปฏิบัติธรรม รวมถึงสวนสไตล์เซน และพลาดไม่ได้กับการสักการะพระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu / Bodhidattava) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าสามารถช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือและเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สามารถเดินขึ้นไปด้านบนเนินเขาประมาณ 15-20 นาทีก็จะพบกับจุดชมวิวบริเวณศาลเจ้าซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดเคนโชจิที่อยู่เบื้องล่างและยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ราคา 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วัดเคนโชจิ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:30 - 16:30 น.
พิกัด GPS : 35°19'53.2"N 139°33'17.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเคนโชจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1122
9. ศาลเจ้าฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่ (Hakone Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,250 ปี ว่ากันว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 712 เพื่อบูชาเทพเจ้า ฟูจิวะระโนะคามิ ผู้ปกป้องภูเขาไฟฟูจิ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ ดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมโลก ภาพของทะเลสาบอะชิ เสาโทริอิสีแดงริมทะเลสาบ และมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ถือเป็นมุมยอดนิยมซึ่งกลายเป็นภาพคุ้นตานักท่องเที่ยว โดยเสาโทริอิในภาพเหล่านั้นก็คือบริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกเน่นั่นเอง ด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ประกอบด้วยอาคารหลัก เสาโทริอิสีแดงสดใส และขุมน้ำศักดิ์สิทธิ์ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น บวกกับที่ตั้งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าฮาโกเน่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:00 - 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°12'17.5"N 139°01'30.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าฮาโกเน่ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/234
10. ทะเลสาบอะชิ
ทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) หรือในชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ทะเลสาบฮาโกเน่ ทะเลสาบอะชิโนะโกะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีทิวทัศน์งดงาม สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบอะชินั้นเกิดขึ้นจากการมอดดับของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3,000 ปีก่อน อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเล 725 เมตร มีระยะทางโดยรอบทะเลสาบ 21 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 100 กิโลเมตร นอกจากชื่อเสียงในเรื่องจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ บริเวณรอบๆทะเลสาบอะชิยังเต็มไปด้วยรีสอร์ทที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก และมีจุดเด่นคือการล่องเรือชมวิวข้ามทะเลสาบด้วยเรือแบบโจรสลัดตะวันตก
ค่าเข้าชม : บริเวณทะเลสาบอะชิ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด : เนื่องจากทะเลสาบอะชิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ
พิกัด GPS : 35°12'34.8"N 139°00'31.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทะเลสาบอะชิ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/235
11. ฮาโกเน่โรปเวย์
ฮาโกเน่โรปเวย์ (Hakone Ropeway) เป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่ตั้งอยู่ที่ตำบลฮาโกเน่ อำเภออาชิงาราชิโมะ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น ฮาโกเน่โรปเวย์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของหุบเขาโอวาคุดานิที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้วและชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ทัศนียภาพรอบๆ เมื่อมองจากบนกระเช้าลอยฟ้าขณะที่เคลื่อนผ่านภูเขาเบื้องล่างไปเรื่อยๆ นั้นสวยงาม เพลิดเพลิน และเป็นบรรยากาศที่ชวนดื่มด่ำยิ่ง โดยเส้นทางกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่โรปเวย์นั้นมีให้เลือก 5 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ 1. เส้นทางภูเขาโซอุนไปโอวากุดานิ 2. เส้นทางภูเขาโซอุนไปอุบาโกะ 3. เส้นทางภูเขาโซอุนไปโทเง็นได 4. เส้นทางโอวากุดานิไปอุบาโกะ 5. เส้นทางโอวากุดานิไปโทเง็นได ฮาโกเน่โรปเวย์เคยถูกบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ค เมื่อปี ค.ศ. 2008 และ 2009 สองปีซ้อนว่า เป็นกระเช้าที่มีสถิติผู้โดยสารมาใช้บริการต่อปีอย่างเนืองแน่นมากที่สุดในโลก
ค่าเข้าชม : ราคาตั๋วโดยสารกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่โรปเวย์ (เที่ยวเดียว) มีหลากหลายราคาตามเส้นทางดังนี้ ภูเขาโซอุน ไป โอวากุดานิ 840 JPY ภูเขาโซอุน ไป อุบาโกะ 1,050 JPY ภูเขาโซอุน ไป โทเง็นได 1,370 JPY โอวากุดานิ ไป อุบาโกะ 730 JPY โอวากุดานิ ไป โทเง็นได 1,050 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:00 น.
พิกัด GPS : 35°14'40.4"N 139°01'10.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮาโกเน่โรปเวย์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/559
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- ข้อมูลการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
https://www.japan.travel/th/th/
- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000
อ่านต่อสวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997
อ่านต่อเนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
อ่านต่อทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว
อ่านต่อถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ
อ่านต่ออุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว
อ่านต่อสะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อ