- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (3,027)
- By Webmaster
- 15:34:40 | 13 มี.ค. 2564
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
Kamakura Daibutsu (The Great Buddha), Kamakura, Japan
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระประดิษฐานอยู่บริเวณลานวัดโคโตะคุอิน
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu / The Great Buddha) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้างของวัดโคโตะคุอิน (Kotoku-in Temple) องค์พระใหญ่นี้มีความสำคัญเพราะเป็นองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุกว่าแปดร้อยปีที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างาม และน่าเลื่อมใส และยังเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยนอกจากจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองคามาคุระแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
แผนที่ตั้ง องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
องค์พระใหญ่แห่งคามามุระถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1252 ด้วยความศรัทธาของนักบวชนามว่าโจโกะ (Joko) ที่เป็นผู้รวมรวมเงินบริจาคจากชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้น โดยองค์พระพุทธรูปจำลองมาจากพระอมิตาภพุทธะ (Amitabha Buddha) หรือในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่าพระอมิดะเนียวไร (Amida Nyorai) ซึ่งเป็นพระธยานิพุทธะที่ประทับในแดนสุขาวดี (Pure Land) โดยเมื่อแรกสร้างนั้นองค์พระได้รับการปิดทองและประดิษฐานอยู่ภายในวิหารขนาดใหญ่ของวัดโคโตะคุอิน แต่ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิขึ้นในปี ค.ศ. 1498 ทำให้วิหารถล่มแต่องค์พระใหญ่กลับได้รับความเสียหายแค่เพียงบริเวณฐานเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้องค์พระใหญ่จึงประดิษฐานอยู่บริเวณกลางแจ้งนับแต่นั้นมา
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงสมัยเอโดะ ในช่วงปีค.ศ. 1603-1867 สองนักบวชนิกายโจโดะ (Jodo Sect priests Yuten) นามว่า ยูเทน (Yuten) และโยโกะกุ (Yokoku) ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรองค์พระใหญ่และวัดโคโตะคุอินขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนจากพ่อค้าในย่านอาซากุสะ (Asakusa) นามว่า โนจิมะ ชินซาเอมอน (Nojima Shinzaemon) หลังจากการบูรณะซ่อมแซมองค์พระและวัดเสร็จสมบูรณ์ สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาสักการะและขอพรกันนับแต่นั้นมา ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ของประเทศไทยก็ยังเคยเสด็จมาเยือนองค์พระใหญ่แห่งคามาคุระนี้ด้วยเช่นกัน โดยในหลวงรัชกาลที่ 6 เคยเสด็จมาในปี ค.ศ. 1902 (พ.ศ. 2445) และในหลวงรัชกาลที่ 7 เคยเสด็จมาในปี ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) และทั้งสองพระองค์ทรงปลูกต้นสนไว้เป็นที่ระลึก แต่ต่อมาต้นสนที่รัชกาลที่ 6 ทรงปลูกไว้นั้นไม่สามารถยืนต้นต่อไปได้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้โปรดเกล้าให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นผู้ปลูกต้นสนต้นใหม่ขึ้นเพื่อทดแทนต้นเดิมของรัชกาลที่ 6 ในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)
ปัจจุบันองค์พระใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองคามาคุระ โดยองค์พระใหญ่นี้มีความสูงประมาณ 13.35 เมตรรวมฐาน และมีน้ำหนักประมาณ 121 ตัน โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากองค์พระที่วัดโทดาอิจิ (Todaiji Temple) ในเมืองนาระ (Nara)
ประตูนิโอะมง (Nio-mon Gate) ทางเข้าวัดโคโตะคุอิน
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระที่มีความน่าเลื่อมใส (รูปซ้าย), นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมด้านในองค์พระใหญ่ได้ (รูปขวา)
ผนังด้านในขององค์พระใหญ่จะมีร่องรอยของการหล่อพระที่มีความซับซ้อน
ป้ายอธิบายวิธีการสร้างพระพุทธรูปในอดีต
ต้นสนที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย
ป้ายของต้นสนมีใจความว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้โปรดเกล้าให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นผู้ปลูกต้นสนต้นใหม่ขึ้นเพื่อทดแทนต้นเดิมของรัชกาลที่ 6 ในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2010
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองคามาคุระ
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟคามาคุระ (Kamakura Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Kamakura Station โดยใช้ทางด่วนมีระยะทางประมาณ 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport เดินมาขึ้นรถไฟที่ Narita Airport Terminal 1 Station ให้เลือกสายรถไฟด่วนที่ตรงไปยังเมืองคามาคุระโดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีเพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา จากนั้นลงที่ Kamakura Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
หมายเหตุ สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner: https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
การเดินทางจากสถานีรถไฟคามาคุระ (Kamakura Station) ไปยัง องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu (The Great Buddha)
- รถยนต์ (Car) จาก Kamakura Station ไปยัง Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Kamakura Station ขึ้นรถประจำทางสาย 6 หรือ สาย F11 ไปลงป้าย Daibutsu Buddha และเดินต่อไปยัง Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Kamakura Station ขึ้นรถไฟสาย Enoden Line ลงที่ Hase Station และเดินต่อไปยัง Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 15 นาที
- เดิน (Footpath) จาก Kamakura Station ไปยัง Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 21 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน เปิดทำการเวลา 8:00 น. - 17:30 น.
เดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เปิดทำการเวลา 8:00 น. - 17:00 น.
ป้ายแผนผังเมืองคามาคุระที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ราคา 300 เยน
เด็กอายุ 6-12 ปี ราคา 200 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมด้านในองค์พระใหญ่ ราคา 20 เยน
หน้าตาของตั๋วเข้าชมองค์พระใหญ่สำหรับผู้ใหญ่
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
พระพุทธรูปอื่นๆ ที่อยู่บริเวณด้านในวัด
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Kamakura Daibutsu (The Great Buddha) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
(Kamakura Daibutsu (The Great Buddha), Kamakura, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 300 เยน / เด็กอายุ 6-12 ปี ราคา 200 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี / ค่าเข้าชมด้านในองค์พระใหญ่ ราคา 20 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน เปิดทำการเวลา 8:00 น. - 17:30 น.
เดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เปิดทำการเวลา 8:00 น. - 17:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 467-22-0703
เว็บไซต์ : https://www.kotoku-in.jp/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/kamakura-shi/218558/current-weather/218558
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองคามาคุระ http://www.city.kamakura.kanagawa.jp/visitkamakura/en/
เว็บไซต์รถไฟท้องถิ่น Enoden https://www.enoden.co.jp/en/train/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023
การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง
อ่านต่อ
3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
อ่านต่อ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
อ่านต่อ
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
อ่านต่อ
วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
อ่านต่อ
วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้
อ่านต่อ
วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
อ่านต่อ
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่
อ่านต่อ
หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
อ่านต่อ
สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
อ่านต่อ