- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- เที่ยว 9 วัด อยุธยา : ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
เที่ยว 9 วัด อยุธยา : ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า

- อ่าน (12,165)
- ByWebmaster
- 15:17:44 | 18 ต.ค. 2565
เที่ยว 9 วัด อยุธยา
ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาราชเป็นธานีเก่าที่เคยเป็นศูนย์กลางของสยามประเทศมายาวนานถึง 417 ปี ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะทริปไหว้พระและชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ นั้นถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมของการท่องเที่ยวอยุธยาเลยทีเดียว วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวมวัดจำนวน 9 แห่งที่เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของอยุธยามาฝากทุกท่าน โดยเราจะเดินทางไปตามเส้นทางที่ต่อเนื่องกันเพื่อความสะดวกและเพื่อที่จะได้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย
แผนที่เที่ยว 9 วัดอยุธยา ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
1. วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chai Mongkhon) ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา บริเวณนอกเกาะเมือง ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลเป็นที่ตั้งของเจดีย์องค์ใหญ่อายุหลายร้อยปีที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจดีย์องค์นี้มีนามว่าเจดีย์ชัยมงคลซึ่งเป็นเจดีย์ที่สันนิษฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะครั้งใหญ่หลังจากทรงรบชนะมังกะยอชวาพระมหาอุปราชาของหงษาวดี นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปสักการะบริเวณด้านบนองค์เจดีย์ และเดินชมวิวเมืองอยุธยาบริเวณระเบียงด้านบน ซึ่งนอกจากองค์เจดีย์ชัยมงคลแล้วนักท่องเที่ยวก็ยังนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธชัยมงคลที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ รวมถึงองค์พระนอนที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารพระพุทธไสยาสน์ และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
การเดินทาง : จาก กรุงเทพฯ ไปยัง วัดใหญ่ชัยมงคล มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'44.1"N 100°35'32.8"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=103
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร (Wat Phanan Choeng Worawihan) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลูเช่นกัน วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เอกลักษณ์แห่งนี้คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์พระพุทธรูปนี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 19 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่แรกสร้างกรุง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอีกหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปสักการะขอพร เช่น พระพุทธรูปทองคำสามองค์ในพระอุโบสถซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณในสมัยสุโขทัย และศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากที่นิยมมาขอพรเรื่องความรัก
การเดินทาง : จาก วัดใหญ่ชัยมงคล ไปยัง วัดพนัญเชิงวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'39.1"N 100°34'44.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=98
3. วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเกาะเมือง ในพื้นที่ของตำบลท่าวาสุกรี ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มโบราณสถานสำคัญอยู่หลายแห่ง โดยวัดมหาธาตุก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากในอดีตวัดมหาธาตุเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งนอกจากเราจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว เรายังสามารถเดินชมโบราณสถานที่ยังคงเหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ได้เห็น เช่น พระปรางค์องค์ใหญ่ พระปรางค์องค์กลาง พระปรางค์องค์เล็ก เจดีย์แปดเหลี่ยม และวิหาร นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ เศียรพระหน้าวิหารเล็ก ที่มีลักษณะเป็นเศียรพระที่ถูกปกคลุมด้วยรากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : จาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปยัง วัดมหาธาตุ มีระยะทางประมาณ 4.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.
พิกัด GPS : 14°21'25.1"N 100°34'03.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดมหาธาตุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=101
4. วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดพระศรีสรรเพชญ์ (Wat Phra Si Sanphet) ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ เพราะในอดีตนั้นวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นวัดหลวงของกรุงศรีอยุธยา ความยิ่งใหญ่ของวัดนี้จึงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามของกรุงเทพมหานครในยุครัตนโกสินทร์นั่นเอง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในวัดแห่งนี้ก็คือ องค์พระเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่ทอดตัวเรียงกันจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของวัดพระศรีสรรเพชญ์ และเมื่อเราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมของกลุ่มโบราณสถานอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบได้อีกด้วย เช่น อุโบสถ วิหาร พระพุทธรูปเก่าแก่ และแนวกำแพงเก่า
การเดินทาง : จาก วัดมหาธาตุ ไปยัง วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.
พิกัด GPS : 14°21'20.8"N 100°33'29.3"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=100
5. วิหารพระมงคลบพิตร
วิหารพระมงคลบพิตร (Wihan Phra Mongkhon Bophit) ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในระยะที่เดินถึงกันได้ วิหารพระมงลบพิตรมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือ วิหารเก่าแก่ในเขตกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ไว้เป็นอย่างดีมาหลายยุคหลายสมัย ภายในบริเวณมีทางเดินทอดยาวเข้าสู่วิหารสีขาว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองมาอย่างช้านาน โดยพระมงคลบพิตรนี้เป็นพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะสุโขทัยในสมัยสมเด็จพระไชยราชา มีความสูงประมาณ 12.54 เมตร หน้าตักกว้าง 9.55 เมตร นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีจุดบริการนั่งช้างชมเมืองเก่าอีกด้วย
การเดินทาง : จาก วัดพระศรีสรรเพชญ์ ไปยัง วิหารพระมงคลบพิตร มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'17.8"N 100°33'27.9"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วิหารพระมงคลบพิตร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=175
6. วัดธรรมิกราช
วัดธรรมิกราช (Wat Thammikarat) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกี ใกล้กับพระราชวังโบราณในพื้นที่ของเกาะเมือง สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการพบเศียรพระธรรมิกราชซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปสำริดที่มีขนาดใหญ่สุด และมีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะองค์พระนอนภายในวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ อย่างเช่น วิหารเก้าห้อง พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจดีย์ทรงกลมที่บริเวณฐานประดับด้วยปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมที่หาชมได้ยาก เพราะในสมัยโบราณนิยมสร้างเป็นรูปปั้นช้างล้อมมากกว่า
การเดินทาง : จาก วิหารพระมงคลบพิตร ไปยัง วัดธรรมิกราช มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'33.9"N 100°33'41.4"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดธรรมิกราช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=1019
7. วัดหน้าพระเมรุ
วัดหน้าพระเมรุ (Wat Na Phra Meru) หรือวัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลลุมพลี บริเวณนอกเกาะเมือง ทางด้านคูเมืองฝั่งเหนือ วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายเมื่อตอนที่เสียกรุงครั้งที่ 2 และยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ภายในพระอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน หลังจากนั้นสามารถเดินชมความงดงามของสถาปัตกรรมและศิลปกรรมภายในวัด เช่น บริเวณหน้าบันของพระอุโบสถที่แกะสลักเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑและเหล่าเทวดา และลูกกรงมะหวดเหลี่ยมบริเวณผนังของวิหารที่ใช้ศิลปะอยุธยาตอนต้น
การเดินทาง : จาก วัดธรรมิกราช ไปยัง วัดหน้าพระเมรุ มีระยะทางประมาณ 650 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'45.2"N 100°33'31.6"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดหน้าพระเมรุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=102
8. วัดภูเขาทอง
วัดภูเขาทอง (Wat Phu Khao Thong) ตั้งอยู่ตำบลภูเขาทอง วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณอีกแห่งหนึ่งของอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร มีอายุราวหกร้อยปี ชื่อของวัดตั้งตามเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ซึ่งก็คือมหาเจดีย์สีขาวที่มีนามว่า เจดีย์ภูเขาทอง องค์เจดีย์มีความสูงประมาณ 90 เมตร ตั้งอยู่บริเวณกลางทุ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล สามารถเดินขึ้นไปกราบสักการะสิงศักดิ์สิทธิ์และเดินชมทัศนียภาพของท้องทุ่งนาจากบริเวณระเบียงแต่ละชั้นได้โดยรอบ นอกจากนี้ยังสามารถแวะสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงม้าบริเวณหน้าวัดได้อีกด้วย
การเดินทาง : จาก วัดหน้าพระเมรุ ไปยัง วัดภูเขาทอง มีระยะทางประมาณ 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°22'08.8"N 100°32'23.1"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดภูเขาทอง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=260
9. วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม (Wat Chaiwatthanaram) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของพระนครศรีอยุธยา โดยจะเห็นปราฏอยู่ในหลายฉากของละครและภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์หลายเรื่อง วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เพื่ออุทิศผลบุญให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะหลังรบชนะเขมร ด้วยเหตุนี้สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของวัดส่วนหนึ่งจึงมีรูปแบบมาจากปราสาทนครวัดนั่นเอง โดยหลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็ไม่ควรพลาดเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ และพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เรียงรายอยู่ตามแนวระเบียงคต นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการล่องเรือชมวิวได้อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงใกล้ค่ำก็จะได้ชมบรรยากาศของวัดไชยวัฒนารามที่สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
การเดินทาง : จาก วัดภูเขาทอง ไปยัง วัดไชยวัฒนาราม มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'34.9"N 100°32'30.7"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดไชยวัฒนาราม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=87
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา https://www.ayutthaya.go.th
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

แจกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย
อุทยานแห่งชาติ (National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ใจดีคอยให้ข้อมูล มีที่พัก และอาหารไว้บริการในราคาย่อมเยา และยังมีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวสายแคมปิ้งได้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลิน ในวันนี้ palanla เลยจะมาบอกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติตามไปเช็คอินกัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ และถ้ำวังบาดาล อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549
อ่านต่อ
7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) Wat Nong Pho (Wat Luang Por Derm) วัดดังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นที่รู้จักในฐานะวัดของพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) พระเกจิชื่อดังกับมงคลของท่านคือมีดหมอ
อ่านต่อ
บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
บึงบอระเพ็ด (Bueng Borraped Swamp) บึงชื่อคุ้นหูในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บึงอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีไฮไลต์คือทุ่งดอกบัวสีสันสวยงาม และบรรดานกน้ำหลากสายพันธุ์ที่มีให้ได้ชมกันอยู่โดยตลอด ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีนอพยพจากทางตอนเหนือของโลกมาอาศัยอยู่รอบบึงแห่งนี้
อ่านต่อ
ตลาดร้อยปีชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
ตลาดร้อยปีชุมแสง (Chum Saeng 100 Years Market) ชุมชนตลาดใกล้สถานีรถไฟชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี กับบรรยากาศที่ยังคงอบอวลไปด้วยความสวยงามคลาสสิก และของกินอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง
อ่านต่อ
พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
เมื่อมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) (King Ramathibodi 1 Monument) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดมาสักการะปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกรุงเก่า
อ่านต่อ
11 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
จังหวัดพิษณุโลกตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ภูเขาและป่าไม้ขนาดใหญ่จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะหน้าผา น้ำตก และทุ่งดอกไม้ภายในอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้จังหวัดพิษณุโลกยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีว่าพื้นที่บริเวณนี้มีการตั้งรกรากมาตั้งแต่ก่อนกรุงสุโขทัย ด้วยเหตุนี้จังหวัดพิษณุโลกจึงมีโบราณสถานและวัดวาอารามเก่าแก่ให้เที่ยวชมอีกด้วย ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลกมาฝากทุกท่านกันวันนี้เพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวในวันหยุดครั้งหน้ากัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (Thung Salaeng Luang National Park) อุทยานฯ เก่าแก่อันดับ 3 ของประเทศ ฉายา “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” กับพื้นที่กว้างขวางครอบคลุม 2 จังหวัด อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด
อ่านต่อ