- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
- อ่าน (7,162)
- ByWebmaster
- 09:31:41 | 22 เม.ย. 2565
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
Moo Ban E Tong Pilok, Kanchanaburi, Thailand
บริเวณทางเข้าหมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก (Moo Ban E Tong Pilok) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาในอำเภอทองผาภูมิ เอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้คือธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และทิวทัศน์ของป่าไม้และภูเขาอันเขียวขจี นักท่องเที่ยวนิยมไปดื่มด่ำธรรมชาติกันในช่วงปลายฝนต้นหนาวเพราะเป็นช่วงที่จะได้เห็นสายหมอกล่องลอยในช่วงเช้า และยังมีเหมืองเก่าให้ได้เที่ยวชมความรุ่งเรืองในอดีต รวมถึงจุดชมวิวสวยๆ มากมายอีกด้วย
แผนที่ตั้ง หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก (Moo Ban E Tong Pilok) จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ประวัติ
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล๊อก ในอำเภอทองผาภูมิ โดยพื้นที่ของตำบลปิล๊อกนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเป็นพื้นที่ติดชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่าโดยมีเทือกเขาตะนาวศรีเป็นแนวเขตแบ่งแดน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาสูงสลับซับซ้อน หมู่บ้านที่ติดชายแดนคือหมู่บ้านอีต่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีอากาศที่บริสุทธิ์ ในช่วงฤดูฝนจะมีสายหมอกล่องลอยเป็นภาพที่งดงามเป็นอย่างมาก และในอดีตเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเมืองเหมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนที่จะปิดตัวลงไป นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และมีที่พักแบบโฮมเสตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ภายในบริเวณหมู่บ้านมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น จุดชมวิวเนินช้างศึกที่สามารถชมวิวภูเขาและป่าไม้ได้อย่างรอบทิศซึ่งต้องใช้บริการรถท้องถิ่นที่ชำนาญเส้นทางขึ้นไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และสะพานเหมืองแร่กับเหมืองแร่เก่าที่ยังคงหลงเหลืออาคาร เครื่องมือเครื่องจักร และรถเก่าเมื่อในอดีตให้ระลึกถึงอีกด้วย โดยเหมืองแห่งนี้เปิดทำการในปีพ.ศ. 2482 และปิดตัวลงในปีพ.ศ. 2528 บริเวณใกล้กันเป็นที่ตั้งของวัดเหมืองแร่ปิล๊อกที่โดดเด่นด้วยองค์เจดีย์สีทอง และบริเวณตรงข้ามกับวัดยังเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่เป็นจุดชมวิวหมู่บ้านจากในมุมสูงอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในหมู่บ้านยังมีตลาดอีต่องที่มีอาหารและสินค้าท้องถิ่นจำหน่าย และยังสามารถเดินเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำ และร้านค้าภายในหมู่บ้านเพื่อซื้อหาของฝากและของที่ระลึกได้อีกด้วย
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาในอำเภอทองผาภูมิ
เอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้คือธรรมชาติและวิถีชีวิตอันเรียบง่าย
บรรยากาศในหมู่บ้านอีต่องปิล๊อก
ความสวยงามของอ่างเก็บน้ำของหมู่บ้าน
ริมอ่างเก็บน้ำเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้าน
บรรยากาศในยามค่ำคืน
เหมืองแร่เก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีต
เครื่องจักรเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในเหมือง
รถโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในเหมือง
บรรยากาศสายหมอกท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
องค์เจดีย์สีทองภายในวัดเหมืองแร่ปิล๊อก
ความงดงามของพระพุทธรูปเก่าภายในวัดและธรรมชาติโดยรอบ
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดกาญจนบุรีโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปหมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยัง หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก มีระยะทางประมาณ 213 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรีได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 07:00 น. - 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หมู่บ้านอีต่อง ปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
(Moo Ban E Tong Pilok, Kanchanaburi, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จ.กาญจนบุรี 71250 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 034-540-524
เว็บไซต์ : http://www.pilok.go.th/public/location/data/index/menu/24
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดกาญจนบุรี http://www.kanchanaburi.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อสวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย
อ่านต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ
อ่านต่อน้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย
อ่านต่อตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้
อ่านต่อวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967
อ่านต่อวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย
อ่านต่อ