- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

- อ่าน (4,483)
- ByWebmaster
- 16:56:31 | 26 ม.ค. 2565
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Queen Sirikit Botanic Garden, Chiang Mai, Thailand
ทางเดินชมธรรมชาติภายในสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (Queen Sirikit Botanic Garden) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นดอกไม้เมืองหนาว กล้วยไม้นานาพันธุ์ พืชทะเลทราย และพืชพรรณที่หาชมได้ยาก โดยมีทั้งสวน เรือนกระจก อาคารนิทรรศการ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมศึกษาตลอดทั้งปี ซึ่งสามารถขับรถเข้าเที่ยวชมหรือจะใช้บริการรถรางภายในสวนก็สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังพลาดไม่ได้กับการเดินชมธรรมชาติบนสกายวอล์ค Canopy Walks ซึ่งเป็นทางเดินกระจกเหนือเรือนยอดไม้ ที่สามารถเดินชมธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างเพลิดเพลิน โดยบรรยากาศภายในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จะค่อนข้างคึกคักในช่วงฤดูหนาวประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี
แผนที่ตั้ง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (Queen Sirikit Botanic Garden) จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ประวัติ
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ เดิมมีชื่อว่า "สวนพฤกษศาสตร์แม่สา" ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ โดยได้มีการวางแผนและพัฒนาให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากลแห่งแรกของประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์"
สภาพพื้นที่ภายในสวนแห่งนี้มีลักษณะเป็นที่ราบสูงสลับกับที่ราบลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีความสูง 300-970 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พื้นที่สวนจะจัดแบ่งตามพันธุ์ไม้และความเหมาะสมของพื้นที่ โดยมีพันธุ์ไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมศึกษา และภายในสวนยังมีพื้นที่ต่างๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ศูนย์สารนิเทศที่มีการจัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ไทย กลุ่มอาคารเรือนกระจกบริเวณลานเนินเขาที่ภายในจัดแสดงพรรณไม้ในเขตป่าดงดิบจากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ด้วยการฉีดละอองน้ำในเรือนกระจก อีกทั้งยังมีอาคารเรือนกระจกที่จัดแสดงพืชทะเลทราย และกล้วยไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ภายในสวนสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และสกายวอล์คหรือทางเดินลอยฟ้าบนสะพาน Canopy Walks ซึ่งเป็นทางเดินเปิดโล่งเหนือต้นไม้ไม้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
Canopy Walks อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวภายในสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ทางเดินเปิดโล่งให้เที่ยวชมธรรมชาติจากมุมสูง
ทางเดินมีทั้งส่วนที่เป็นพื้นตะแกรงและพื้นกระจก
สามารถเดินเที่ยวชมธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลิน
ทางเดินทอดยาวท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น
บริเวณจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวเขาเป็นฉากหลัง
เป็นสถานที่พักผ่อนและจุดชมวิวที่มีบรรยากาศที่ดีมาก
นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพจากมุมสูงได้อย่างรอบทิศ
ทางเดินทอดตัวไปท่ามกลางป่าเขาอันเขียวขจี
ข้อห้ามและข้อคววรระวังขณะเดินบน Canopy Walks
ทัศนียภาพอันเขียวขจึของป่าไม้จากจุดชมวิวบน Conapy Walks
การเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดเชียงใหม่
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ มีระยะทาง 696 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 11 - 13 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบกำหนดการเดินรถและค่าโดยสารได้ที่ https://www.railway.co.th
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง
- อื่นๆ (Others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ สามารถตรวจสอบกำหนดการเดินรถและค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th
การเดินทางไปสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปยัง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 08:30 น. - 17:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
- เด็กมัธยม 20 บาท
- ผู้ใหญ่ 40 บาท
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ภิกษุ/สามเณร/ผู้พิการ เข้าชมฟรี
ค่านำยานพาหนะเข้าเที่ยวชม
- รถจักรยานยนต์ 30 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 100 บาท
- รถยนต์ 6 ล้อ 200 บาท
ค่าบริการรถราง
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 10 บาท
- ผู้ใหญ่ 30 บาท
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
(Queen Sirikit Botanic Garden, Chiang Mai, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
เด็กมัธยม 20 บาท
ผู้ใหญ่ 40 บาท
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ภิกษุ/สามเณร/ผู้พิการ เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:30 น. - 17:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : 100 หมู่ 9 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180
โทรศัพท์ : (+66) 053-841-234
เว็บไซต์ : http://www.qsbg.org/webBGO/highlight.html
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ http://www.tourismchiangmai.org
เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ http://www.cm-mots.com
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
อ่านต่อ
วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
อ่านต่อ
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
อ่านต่อ
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
อ่านต่อ
น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา
อ่านต่อ
วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดศรีโคมคำ (Wat Si Khom Kham) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยามาอย่างช้านาน ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระพุทธรูปที่มีนามว่าพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวงนอกจากจะเป็นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยาแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาอีกด้วย โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระเจ้าตนหลวงเดือนแปดเป็งขึ้นที่วัดศรีโคมคำแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระธาตุจอมทอง (Wat Phra That Chom Thong) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยาที่ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทองซึ่งเป็นเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยศิลปะล้านนาอย่างงดงาม ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่นี่จึงเป็นปูชนียสถานที่ชาวพะเยาเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ จากบริเวณด้านบนดอยยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นป่าไม้และกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
อ่านต่อ