- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
![](https://www.palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (5,259)
- ByWebmaster
- 02:05:54 | 27 ธ.ค. 2564
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
Ajarn Man Phurithatto Museum, Sakon Nakhon, Thailand
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตั้งอยู่ภายในวัดป่าสุทธาวาส
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต (Ajarn Man Phurithatto Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาที่มีชื่อเสียงและมีศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในวัดป่าสุทธาวาส ภายในจัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และประวัติของท่านให้ได้ศึกษาเที่ยวชม นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นขนาดเท่ารูปจริงในอิริยาบทนั่งสมาธิ และมีตู้กระจกบรรจุอัฐิของท่านที่แปรสภาพเป็นผลึกแก้วใสสีขาวอีกด้วย
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต (Ajarn Man Phurithatto Museum) จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
ประวัติ
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตั้งอยู่ภายในวัดป่าสุทธาวาส ที่ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2472 จากที่ดินที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายให้หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ได้นำมาสร้างวัด ในส่วนของพิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระอาจารย์มั่น และคำสอนของพระอาจารย์มั่น โดยตัวอาคารมีลักษณะเป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าชั้นเดียว หลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ ผนังด้านหน้าทางเข้าตัวอาคารมีรูปปั้นนูนสูงดินเผา เป็นภาพเล่าเรื่องธุดงควัตรของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภายพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ดังนี้
- เครื่องอัฐบริขาร เช่น สบง จีวร สังฆาฎิ บาตร รัดประคต และมีดโกน
- เครื่องใช้ในการธุดงค์ เช่น กลด มุ้ง และ หมอน
- เครื่องใช้ประจำวัน เช่น คนโทน้ำ จอกน้ำ มีด ช้อน ตลับและ สีผึ้ง
- บริขารเบ็ดเตล็ด เช่น อ่างไม้บดยาและย้อมผ้า สมุนไพร ย่าม เชิงเทียน และกระถางธูป
ชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยย่อ
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นอาจารย์สอนธรรมทางวิปัสสนาที่มีศิษยานุศิษย์มากมายและเป็นที่เคารพนับถือเป็นอย่างมาก ท่านเกิดในสกุลแก่นแก้ว เมื่อวันที่ 20 เดือนมกราคม พ.ศ. 2413 ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อท่านอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักวัดบ้านคำบง แต่ในขณะที่ท่านอายุ 17 ปี บิดาได้ขอร้องให้ลาสิกขาเพื่อออกมาช่วยงานทางบ้าน ท่านจึงได้ลาสิกขาออกไปช่วยงาน และอำลาทางบ้านเพื่อกลับมาเตรียมตัวบวชอีกครั้งตอนอายุ 22 ปี โดยได้เข้าศึกษาธรรมในสำนักพระอาจารย์เสาร์ (หลวงปู่เสาร์) กันตสีโล ที่วัดเลียบในเมืองอุบลราชธานี
จากนั้นในปีพ.ศ. 2436 ท่านได้เดินทางมาอุปสมบทที่วัดศรีทอง โดยมีพระอริยกวีเป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูสีทาชยเสโนเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระครูประจักษ์อุบลคุณเป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยพระอุปัชฌายะได้ขนานนามมคธให้ว่า "ภูริทัตโต" แปลว่า "ผู้ให้ปัญญา ผู้แจกจ่ายความฉลาด”
เมื่ออุปสมบทเสร็จแล้วท่านได้เดินทางกลับมาศึกษาวิปัสสนาธุระกับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ที่วัดเลียบต่อไป และบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่างๆ รวมทั้งศึกษากับนักปราชญ์และพระอาจารย์ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอื่นๆ จนได้รับความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมวินัย และกลับมายังภาคอีสาน เพื่อทำการอบรมสั่งสอนสมถวิปัสสนาแก่สหธรรมิกและอุบาสกอุบาสิกาต่อไปจนมีผู้เลื่อมใสปฏิบัติตามมากขึ้นเป็นลำดับ และมีศิษยานุศิษย์แพร่หลายกระจายไปทั่วภาคอีสาน
ในวัยชรานับแต่ปี พ.ศ.2484 เป็นต้นมา หลวงปู่มั่นมาพำนักอยู่ที่จังหวัดสกลนคร และได้อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ทางสมถวิปัสสนามากมายจนกระทั่งท่านละสังขารเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 ณ วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมืองสกลนคร
สามารถอ่านชีวประวัติโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต http://www.luangpumun.org
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต มีลักษณะเป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าชั้นเดียว และมีหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์
ภายในพิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต
รูปปั้นพระอาจารย์มั่นในอิริยาบทนั่งสมาธิ
ข้าวของเครื่องใช้ของพระอาจารย์มั่นที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์
เครื่องใช้ประจำวันต่างๆ
เครื่องใช้เมื่อออกธุดงค์
จีวร ย่าม บาตร และเครื่องใช้ต่างๆ
เครื่องอัฐบริขารและผ้าอื่นๆ ของสงฆ์
บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงประวัติของพระอาจารย์มั่น
ความงดงามของพระอุโบสถภายในวัดป่าสุทธาวาส
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนคร
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนครโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 651 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินสกลนคร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
- ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดสกลนคร แต่สามารถไปลงที่สถานีอุดรธานี แล้วต่อรถประจำทางหรือเหมารถมายังจังหวัดสกลนครได้
- หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งสกลนคร โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองสกลนคร ไปยัง พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดสกลนครได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บรรยากาศที่สงบและพระอุโบสถที่งดงามภายในวัดป่าสุทธาวาส
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
(Ajarn Man Phurithatto Museum, Sakon Nakhon, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 042-811-895
เว็บไซต์ : https://bit.ly/3JlFlkW
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต http://www.luangpumun.org
พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร https://sakonnakhon.mots.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701922558_33574_37-7900.png)
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701921664_66937_37-9155.jpg)
วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701918154_78010_37-6480.png)
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916880_78028_37-7297.jpg)
ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916268_93127_37-8809.jpg)
น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701915080_71739_37-2018.jpg)
เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677827064_74966_37-9214.jpg)
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677826237_89093_37-6298.jpg)
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677825478_63890_37-6904.jpg)
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202317011673975462_57311.jpg)
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ