- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน ประเทศไทย
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน ประเทศไทย

- อ่าน (5,363)
- ByWebmaster
- 02:09:52 | 23 ธ.ค. 2564
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน ประเทศไทย
Khunsathan Watershed Research Station, Nan, Thailand
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานในช่วงดอกนางพญาเสือโคร่งบาน
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน (Khunsathan Watershed Research Station) เป็นจุดชมวิวขุนเขาและทะเลหมอกภายในอุทยานแห่งชาติขุนสถานที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยภายในบริเวณมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสอากาศหนาวในช่วงฤดูหนาว โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือการชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยที่จะผลิบานเป็นสีชมพูไปทั่วทั้งบริเวณในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี
แผนที่ตั้ง สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน (Khunsathan Watershed Research Station) จังหวัดน่าน ประเทศไทย
ประวัติ
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนสถานในตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย บริเวณสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานนี้อยู่บนภูเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,330 เมตร เป็นจุดกางเต็นท์และจุดชมวิวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่สามารถชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยมีต้นนางพญาเสือโคร่งในบริเวณสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานอยู่จำนวนหลายร้อยต้นซึ่งจะออกดอกเป็นสีชมพูเต็มไปทั่วทั้งบริเวณในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี
ในส่วนของอุทยานแห่งชาติขุนสถานนั้นอยู่บริเวณป่าฝั่งขวาของแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่อำเภอนาน้อยและอำเภอนาหมื่นของจังหวัดน่าน มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีเนื้อที่ประมาณ 285,826 ไร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง เช่น ดอยแม่จอก ดอยกู่สถาน น้ำตกขุนลี น้ำตกตาดลี และน้ำตกน้ำสีหลวง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวคือช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ดอกนางพญาเสือโคร่งบริเวณสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน
บริเวณลานกางเต็นท์
จุดชมวิวขุนเขาและทะเลหมอก
ทะเลหมอกยามเช้าบริเวณอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
จุดชมวิวภูเขาในมุมกว้าง
จุดชมวิวภายในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่าน
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่านโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 676 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินน่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดน่าน แต่สามารถไปลงที่สถานีเด่นชัยในจังหวัดแพร่ แล้วต่อรถตู้หรือเหมารถมายังจังหวัดน่านได้
- หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งน่าน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองน่าน ไปยัง สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีระยะทางประมาณ 91 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดน่านได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
- ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
- รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ในช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน ประเทศไทย
(Khunsathan Watershed Research Station, Nan, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ในช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ์
สถานที่ตั้ง : จังหวัดน่าน ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 087-173-9549
เว็บไซต์ : http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9123
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน http://www.nantourism.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
อ่านต่อ
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
อ่านต่อ
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
อ่านต่อ
น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา
อ่านต่อ
วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดศรีโคมคำ (Wat Si Khom Kham) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยามาอย่างช้านาน ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระพุทธรูปที่มีนามว่าพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวงนอกจากจะเป็นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยาแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาอีกด้วย โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระเจ้าตนหลวงเดือนแปดเป็งขึ้นที่วัดศรีโคมคำแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระธาตุจอมทอง (Wat Phra That Chom Thong) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยาที่ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทองซึ่งเป็นเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยศิลปะล้านนาอย่างงดงาม ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่นี่จึงเป็นปูชนียสถานที่ชาวพะเยาเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ จากบริเวณด้านบนดอยยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นป่าไม้และกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดนันตาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดนันตาราม (Wat Nantaram) เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่เมื่อในอดีต มีเอกลักษณ์จากวิหารไม้สักทั้งหลังที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าแท้อย่างวิจิตรงดงาม ภายในบริเวณมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงธนบัตรเก่าและข้าวของเครื่องใช้โบราณ นอกจากนี้ในช่วงวันสำคัญทางศาสนายังมีการแสดงทางวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่บริเวณหน้าวิหารให้ได้ชมอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดติโลกอาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดติโลกอาราม (Wat Tilok Aram) เป็นวัดเก่าแก่ที่จมอยู่ใต้กว๊านพระเยา มีเพียงยอดเจดีย์เท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือไปชมวัดแห่งนี้ พร้อมสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อศิลาที่ได้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้บนพื้นที่ด้านบน โดยไฮไลท์จะอยู่ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ที่จะมีการเวียนเทียนกลางน้ำรอบพระธาตุเจดีย์วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวในโลกที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
กว๊านพะเยา (Phayao Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่รองรับน้ำจากลำห้วยต่างๆ ไว้กว่า 18 สาย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพะเยา ภายในบริเวณมีความสวยงามจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติของบึงน้ำขนาดใหญ่และทิวเขาที่โอบล้อม บริเวณริมฝั่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยรูปปั้นองค์พญานาคคู่สีขาวสององค์ เป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งกว๊านพะเยา ผู้คนนิยมมาชมวิว ถ่ายภาพ และชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ