ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (8,203)
  • ByWebmaster
  • 10:29:26 | 8 พ.ค. 2564

ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand

 

             ศาลเจ้าปู่ย่า (Chao Pu-Ya Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนให้ความเคารพนับถือมายาวนาน เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สวยงามควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

 


ประวัติ

             ศาลเจ้าปู่ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนเคารพนับถือมายาวนาน สันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2488 โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนที่ได้อัญเชิญผงธูปมาประทับที่ศาลไม้เล็กๆ ริมฝั่งหนองบัว ซึ่งก็คือที่ตั้งของศาลเจ้าปู่ย่าในปัจจุบัน ภายหลังได้ขยับขยายพื้นที่จนกลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ด้วยการรวบรวมกำลังทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อซื้อที่ดินบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นโรงน้ำแข็งเก่า การสร้างศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีนมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี  ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและสวยงาม มีสวนหย่อมริมหนองบัว บริเวณโดยรอบศาลาชมวิวกลางน้ำ 2 หลังมีบรรยากาศร่มรื่น และภายในศาลเจ้าปู่-ย่าแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรักษามังกรทองยาวถึง 99 เมตร ซึ่งใช้แสดงในงานทุ่งศรีเมืองในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย

             การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก โดยเมื่อกราบไหว้ครบทั้ง 6 จุด ได้แก่ 1.ทีกง 2. ปึงเถ่ากงม่า 3.ศาลเจ้าพ่อหนองบัว 4.ตี่จู๋เอี๊ย 5.พระสังกัจจายน์ 6.ฉั่งง่วนส่วย แล้วให้เดินไปที่สะพานเก้าเลี้ยวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสวรรค์และเป็นจุดที่องค์เทพเจ้าจะรับรู้ว่าขอพรสิ่งใดไป เสร็จแล้วให้มากราบลาศาลปู่-ย่า พร้อมนำส้มกลับมาด้วย 2 ลูก

             บริเวณใกล้ๆ กันกับศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ภายนอกจัดพื้นที่เป็น “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู” ท่ามกลางแมกไม้มงคล อาทิ ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ ประทัดจีน หงส์ฟู่ ฯลฯ รวมทั้งบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ รอบสระบัวตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนสูงที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยายภาษาไทยและจีน ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์คุณธรรม จัดแสดงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในจังหวัดอุดรธานีเมื่อ 120 ปีก่อน ผ่านภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องราวความเป็นมาของพลังศรัทธาต่อองค์เทพเจ้าปู่-ย่า เรื่องราวของธุรกิจการค้าในอดีต การรวมตัวของ 9 องค์กร 11 ตระกูลแซ่ ฯลฯ ที่น่าสนใจแวะควรแก่การเข้าไปเยี่ยมชมหากมีเวลา

 
บรรยากาศศาลาชมวิวริมหนองบัวบริเวณติดกับศาลเจ้าปู่ – ย่า

 
ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและมีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก

 
มองจากตัวอาคารออกไปด้านนอก

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 1 "ทีตีแป่บ้อ" เรียกสั้นๆ ว่า "ทีกง" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "ศาลเทพยดาฟ้าดิน”

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่  2 คือ "ปึงเถ่ากงม่า" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "เจ้าปู่เจ้าย่า ลูกหลานชาวอุดรส่วนใหญ่มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้สมปรารถนาอยู่เสมอ

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 3 – จุดที่ 6

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 3 คือ ศาลเจ้าพ่อหนองบัว เนื่องจากที่ตั้งของศาลเจ้าปู่-ย่านั้นตั้งอยู่ริมหนองบัว จึงได้มีการอัญเชิญเจ้าพ่อหนองบัวมาสถิตอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่า

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 4 คือ "ตี่จู๋เอี๊ย" หรือ ภาษาไทยเรียก “เจ้าที่เจ้าทาง” ซึ่งก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาดูแลสถานที่นั้นๆ    

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 5 คือ พระสังกัจจายน์ ขุดพบใต้ต้นไทรในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่าเมื่อพ.ศ.2530

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 6 คือ "ฉั่งง่วนส่วย" เป็นองค์เทพแห่งปัญญาและเชี่ยวชาญในการปราชญ์ เป็นที่นิยมสักการะของนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่จะไปสอบแข่งขัน


การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี

 

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง  

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ


การเดินทางไปศาลเจ้าปู่ย่า

             ศาลเจ้าปู่-ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย อยู่ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 15 นาที  


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น.

 
บรรยากาศสวยงามรอบๆ ศาลเจ้าปู่ – ย่ายามพลบค่ำ 


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลเจ้าปู่ย่า

             กราบสักการะศาลเจ้าปู่ย่าเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมเรื่องราวน่าสนใจภายในศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน

 
การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดปี

 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ศาลเจ้าปู่-ย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

                         (Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม :  ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

                         โทรศัพท์ : (+66) 042 242 444, 082 707 0666

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com 

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ