- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
![](https://www.palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (11,113)
- ByWebmaster
- 17:30:42 | 6 พ.ค. 2564
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
Phaya Khan Khak Museum, Yasothon, Thailand
พิพิธภัณฑ์พญาคันคากเป็นอาคารรูปร่างคางคกสีส้ม
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก (Phaya Khan Khak Museum) เป็นแลนด์มาร์กในรูปแบบอาคารรูปร่างคางคกสีส้มที่ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่ริมแม่น้ำทวน ภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติของอำเภอเมืองยโสธร ภายในเป็นอาคารศูนย์การเรียนรู้ด้านชีววิทยาและระบบนิเวศน์ของสัตว์สะเทินสะเทินบก และนิทรรศการความเชื่อกับประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดยโสธร ด้านบนบริเวณปากคางคกเป็นจุดชมวิวเมืองยโสธรที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก (Phaya Khan Khak Museum) จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
ประวัติ
พิพิธภัณพ์พญาคันคากเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่สื่อถึงวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อของชาวยโสธรได้อย่างชัดเจน เปิดอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2562 โดยภายในตัวอาคารพญาคันคากมีการจัดนิทรรศการทั้งหมด 5 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติของพญาคันคาก และที่มาของพิพิธภัณฑ์
ชั้นที่ 2 จัดแสดงวงจรชีวิตของคางคก และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำนวน 6 ชนิด
ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์บั้งไฟจำลอง และเรื่องราวของประเพณีบุญบั้งไฟ
ชั้นที่ 4 แผนที่แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยโสธรทั้ง 9 อำเภอ
ชั้นที่ 5 เป็นจุดชมวิว บริเวณปากคันคาก
นอกจากนี้ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกัน จะมีแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค ที่เรียกกันว่า วิมานพญาแถน โดยสองแลนด์มาร์กนี้มีที่มาที่ไปจากตำนานเรื่องราวระหว่างพญาแถนและพญาคันคาก ในครั้งที่พระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นพญาคางคกนามว่าพญาคันคากอยู่ใต้ต้นโพธิ์ในป่า โดยเป็นช่วงที่พญาแถนซึ่งเป็นเทวดาที่ดูแลโลกเบื้องล่างเกิดโกรธเคืองโลกมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงบันดาลไม่ให้ฝนตกถึง 7 เดือน ก่อให้เกิดความลำบากอย่างแสนสาหัส พญาคันคากจึงรวบรวมกองทัพสัตว์ขึ้นไปรบกับพญาแถน ในที่สุดพญาแถนจึงยอมตกลงทำสัญญาสงบศึกกับพญาคันคากโดยตกลงกันว่า หากมนุษย์ส่งสัญญาณให้รู้ด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อไหร่ ให้พญาแถนบันดาลให้ฝนตกลงมา และหากเมื่อได้ยินเสียงกบหรือเขียดร้อง ให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้ว จากตำนานดังกล่าวจึงเป็นที่มาของประเพณีงานบุญบั้งไฟซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดยโสธรที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆ ปีในช่วงเดือนพฤษภาคม และเป็นที่มาของอาคารรูปทรงคางคกแห่งนี้นั่นเอง
พิพิธภัณฑ์พญาคันคากตั้งอยู่ริมแม่น้ำทวน
บริเวณพื้นที่จัดแสดงวงจรชีวิตของคางคก
โมเดลจำลองภายในท้องคางคก
บริเวณจัดแสดงชนิดของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
บริเวณนิทรรศการบั้งไฟจำลองภายในพิพิธภัณฑ์
หุ่นจำลองประเพณีงานบุญบั้งไฟ ประเพณีประจำจังหวัดยโสธร
หุ่นจำลองขวบนแห่บั้งไฟ
การเดินทางจากกรุงเทพ ไปยัง จังหวัดยโสธร
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดยโสธรโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 547 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาที
หมายเหตุ - ไม่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปยังจังหวัดยโยสร แต่สามารถลงเครื่องที่สนามบินในจังหวัดใกล้เคียงอย่างสนามบินอุบลราชธานี แล้วต่อรถรับจ้างท้องถิ่นหรือเหมารถมายังจังหวัดยโสธรได้
- ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดยโสธร แต่สามารถลงสถานีอุบลราชธานีแล้วต่อรถรับจ้างท้องถิ่นหรือเหมารถมายังจังหวัดยโสธรได้
- หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://www.busonlineticket.co.th/th/bus-terminal_th/mo-chit-bus-terminal-chatuchak
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองยโสธรไปยังพิพิธภัณฑ์พญาคันคากมีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที
นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังพิพิธภัณฑ์พญาคันคากได้
เวลาทำการเปิด-ปิด
วันจันทร์-ศุกร์ เปิดทำการเวลา 10.00-16.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดทำการเวลา 9.00-17.00 น.
หยุดวันอังคาร
บริเวณสวนรอบๆ อาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ทัศนียภาพริมแม่น้ำทวน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บริเวณมุมถ่ายภาพยอดนิยม
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
(Phaya Khan Khak Museum, Yasothon, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดทำการเวลา 10.00-16.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดทำการเวลา 9.00-17.00 น.
หยุดวันอังคาร
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66)096 897 7970
เว็บไซต์ : http://i-san.tourismthailand.org/4410/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์จังหวัดยโสธร https://yasothon.mots.go.th/index.php
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701922558_33574_37-7900.png)
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701921664_66937_37-9155.jpg)
วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701918154_78010_37-6480.png)
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916880_78028_37-7297.jpg)
ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916268_93127_37-8809.jpg)
น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701915080_71739_37-2018.jpg)
เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677827064_74966_37-9214.jpg)
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677826237_89093_37-6298.jpg)
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677825478_63890_37-6904.jpg)
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ![](https://www.palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202317011673975462_57311.jpg)
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ