วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (12,106)
  • ByWebmaster
  • 17:40:56 | 20 เม.ย. 2564

วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao), Ubon Ratchathani, Thailand 


ความสวยงามตระการตาของจิตรกรรมเรืองแสงบริเวณอุโบสถของวัดสิรินธรวรารามในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน 

             วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao)) เป็นวัดป่าที่รู้จักกันในนามวัดเรืองแสงจากผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวในยามค่ำคืน ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตา อีกทั้งยังมีการสลักลวดลายเรืองแสงลงบนลานหินด้านนอกของอุโบสถซึ่งยิ่งส่งเสริมให้งานพุทธศิลป์นี้มีความอลังการสร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้ที่มาเยือน วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนเมืองอุบลไม่ควรพลาด


แผนที่ตั้ง วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao)) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย


ประวัติ
 

             วัดสิรินธรวรารามแต่เดิมชื่อว่าวัดภูพร้าว เป็นวัดป่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงในอำเภอสิรินธร ตัวอุโบสถจำลองมาจากวัดเชียงทองของประเทศลาวแต่มีขนาดใหญ่กว่าของจริงประมาณหนึ่งเท่า ด้านในอุโบสถจะมีเสาเรียงรายทอดยาวไปยังพระประธานปางสมาธิที่ประดิษฐานอยู่ภายใน โดยเสาเหล่านี้มีการลงลวดลายดอกบัวเอาไว้เพื่อแฝงคติธรรมเรื่องบัวสี่เหล่า  

             ด้านหลังอุโบสถเป็นจิตรกรรมฝาผนังภาพต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง ออกแบบโดยช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร และยังเป็นต้นคิดในการนำเอา “สารฟอสเฟอร์” ซึ่งเป็นสารเรืองแสงมาใช้ในงานศิลปะที่งดงามแห่งนี้อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณลานยังมีการฝังลวดลายนูนต่ำซึ่งจะเรืองแสงในช่วงพระอาทิตย์ตกดินด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามซึ่งสามารถมองเห็นลำน้ำโขงและอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจน

             วัดแห่งนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่าวัดสิรินธรวรารามในปีพ.ศ. 2547 และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุบลราชธานี


อุโบสถและลานหินที่สลักลวดลวยซึ่งอาจดูธรรมดาในเวลากลางวัน


ความสวยงามของอุโบสถสีทองและลานเรืองแสงสีเขียวในตอนพลบค่ำ


พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ และเสาลายดอกบัว


บรรยากาศช่วงมีงานปิดทองลูกนิมิตร


อุโบสถมีการตกแต่งโดยรอบด้วยรูปสลักพญานาค


ผลจิตรกรรมภาพต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังอุโบสถในตอนกลางวัน


ผลงานจิตรกรรมเรืองแสงในตอนกลางคืนอย่างสวยงาม


การเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพ ไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี โดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 606 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

             - รถไฟ (Train) จากกรุงเทพ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home

             - อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง ลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/  


การเดินทางไปวัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว)

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังวัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) มีระยะทางประมาณ 88.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

             เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะให้บริการในเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวจึงอาจจะต้องเช่ารถขับ หรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังวัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว)


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. – 21:00 น.


บรรยากาศความสวยงามที่เงียบสงบ


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินและลำน้ำโขงจากจุดชมวิวบริเวณวัดได้อย่างเต็มตา


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ถ้าต้องการชมวัดเรืองแสง ควรมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนา


วัดเรืองแสงแห่งเมืองอุบล


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

                         (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao), Ubon Ratchathani, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. – 21:00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ถ้าต้องการชมวัดเรืองแสง ควรมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

                                                                                สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนา

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

                         โทรศัพท์ : (+66) 089-865-8225

                         เว็บไซต์ : https://i-san.tourismthailand.org/1782/  

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                          เพจเฟซบุ๊กวัดสิรินธรวราราม https://www.facebook.com/watphuprao/

                                          เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี http://ubonratchathani.go.th/home/

                                          เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ