- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- หาดชมดาว แก่งหินงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
หาดชมดาว แก่งหินงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

- อ่าน (4,026)
- ByWebmaster
- 09:50:06 | 21 เม.ย. 2564
หาดชมดาว แก่งหินงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
Chomdao Beach at Kaenghinngam, Ubon Ratchathani, Thailand
ชั้นหินเป็นริ้วไปตามกระแสน้ำที่พัดผ่านมาหลายล้านปี
หาดชมดาว แก่งหินงาม (Chomdao Beach at Kaenghinngam) เป็นแนวหาดทรายและแก่งหินอันกว้างใหญ่ริมแม่น้ำโขงทอดยาวหลายร้อยเมตรซึ่งจะโผล่พ้นแม่น้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง โดยแก่งหินจะมีรูปร่างแปลกตาเนื่องจากถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำในขณะที่จมอยู่ใต้น้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงทำให้แก่งมีลักษณะเป็นเส้นริ้วซ้อนกัน บ้างก็มีรูพรุนและเป็นโพรง ซึ่งก่อให้เกิดความสวยงามของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่แปลกตา อีกยังทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและจุดชมจันทร์และดวงดาวในยามค่ำคืนอีกด้วย เพราะแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์จะตกกระทบลงบนผิวน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม
แผนที่ตั้ง หาดชมดาว แก่งหินงาม (Chomdao Beach at Kaenghinngam) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ประวัติ
หาดชมดาว แก่งหินงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งหินและหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวริมแม่น้ำโขง โดยแก่งหินจะมีรูปร่างแปลกตาซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำมากว่าร้อยล้านปีจึงทำให้หินมีลักษณะเป็นริ้ว เป็นโพรง และเป็นแอ่ง ในส่วนของหาดทรายริมโขงจะมีความแห้ง และแตกระแหงในฤดูแล้ง บริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมดาวยอดนิยมอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวชมความสวยงามของหาดชมดาว ควรมาในช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ๆ เนื่องจากในตอนกลางวันจะมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด และมีแดดจ้า และควรมาในช่วงที่แม่น้ำโขงลดระดับลงจนแก่งหินงามโผล่ขึ้นมาซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี
หน้าผาหินที่มีลักษณะเป็นเส้นริ้วและก้อนหินที่มีรูและแอ่ง
ลักษณะของหินที่มีรูปร่างแปลกตา
ลักษณะเฉพาะของชั้นหินที่พบได้ในบริเวณแถบนี้เท่านั้น
ทัศนียภาพของหาดชมดาวบริเวณแก่งหินงาม
เมื่อแม่น้ำลดระดับลงจะยิ่งเห็นพื้นที่หาดได้ชัดเจนขึ้น
การเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพ ไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี โดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 606 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง ลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปหาดชมดาว แก่งหินงาม
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังหาดชมดาว แก่งหินงามมีระยะทางประมาณ 112 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะให้บริการในเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวจึงอาจจะต้องเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังหาดชมดาว แก่งหินงาม
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดตลอดเวลา
เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
มีก้อนหินรูปร่างแปลกตามากมาย
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองอุบล
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว หาดชมดาว แก่งหินงาม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หาดชมดาว แก่งหินงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
(Chomdao Beach at Kaenghinngam, Ubon Ratchathani, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
สถานที่ตั้ง : จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
โทรศัพท์ : 045-243-770 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี)
เว็บไซต์ : https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/22090
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี http://ubonratchathani.go.th/home/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ
สวนหินผางาม จังหวัดเลย ประเทศไทย
สวนหินผางาม (Hin Pha Ngam Park) เป็นแนวภูเขาหินปูนอันสลับซับซ้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตาจนได้รับสมญานามว่าเป็นคุนหมิงเมืองเลย สามารถเดินชมสถานที่ไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะนั่งรถอีแต๊กเข้าชมก็ได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวชมและบรรยายสถานที่เพื่อให้ความรู้ โดยนอกจากจะได้ชมหน้าผาหินปูนรูปร่างแปลกตากับโพรงถ้ำต่างๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมต้นไม้หายาก และซากดึกดำบรรพ์ของปะการัง เปลือกหอย ซากพืขที่ฝังตัวอยู่ในหิน เนื่องจากในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน สวนหินผางามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
ลานคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย ประเทศไทย
ลานคริสต์มาสภูเรือ (Poinsettia Garden Phu Ruea) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินในช่วงเทศกาลฤดูหนาวปลายปีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังอำเภอภูเรือ ด้วยบรรยากาศของเทศกาลสวนดอกไม้เมืองหนาวที่จะจัดขึ้นในฤดูหนาวของทุกปี ทำให้ลานแห่งนี้เต็มไปด้วยพอยน์เซตเทียสีแดงซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย สามารถเดินชมสวนและถ่ายภาพสวยๆ เก็บความประทับใจได้ตามอัธยาศัยโดยไม่เสียค่าเข้าชม
อ่านต่อ
น้ำตกเพียงดิน จังหวัดเลย ประเทศไทย
น้ำตกเพียงดิน (Peang Din Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความร่มรื่นจากป่าไม้โดยรอบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้ที่ชอบเล่นน้ำและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นน้ำตกที่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งการเดินทางไปก็ค่อนข้างสะดวกเพราะไม่ต้องปีนป่ายหรือเดินเท้าในระยะไกลนัก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลยอีกด้วย
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูลังกา (Phu Langka National Park) เป็นพื้นที่ป่าและภูเขาที่ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นหน้าผา ถ้ำ และน้ำตก โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ในปัจจุบันคือ ถ้ำนาคา ที่เป็นถ้ำที่มีลักษณะของหินที่คล้ายกับงูใหญ่หรือพญานาค ซึ่งตรงตามความเชื่อเกี่ยวกับเจ้าปู่อือลือที่ถูกสาปให้เป็นพญานาคและถูกจองจำ นอกจากนี้ยังมีจุดชมทัศนียภาพของป่าเขาอีกหลายแห่งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum) เป็นอนุสรณ์สถานที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยเข้ามาพำนักในประเทศไทยในช่วงสงครามเวียดนามเพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ภายในอนุสรณ์สถานมีซุ้มประตูและอาคารพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างไทยกับเวียดนามไว้อย่างงดงาม โดยภายในได้จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ครั้งนั้นและหุ่นท่านโฮจิมินห์เอาไว้ และยังมีอาคารจำลองบ้านพักของท่านโฮจิมินห์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
บ้านลุงโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
บ้านลุงโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s House) หรือบ้านลุงโฮ เป็นบ้านที่เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ในช่วงกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญในครั้งนั้น รวมทั้งประวัติและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของท่านโฮจิมินห์ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านโบราณที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมเวียดนามอย่างมีเอกลักษณ์ และโดยรอบยังมีความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ