ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย

  • อ่าน (6,286)
  • ByWebmaster
  • 16:48:12 | 9 เม.ย. 2564

ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย

Sikhoraphum Stone Castle, Surin Province, Thailand 

             ปราสาทศรีขรภูมิ (Sikhoraphum Stone Castle) เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์และงดงามที่สุดในจังหวัดสุรินทร์ มีลักษณะเด่นคือทับหลังสลักเป็นรูปการร่ายรำของพระศิวะที่มีความงดงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงทับหลังสลักรูปนางอัปสราถือดอกบัวที่มีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ปรากฏที่ปราสาทขอมโบราณแห่งอื่นๆ ในประเทศไทย


ประวัติ

             ปราสาทศรีขรภูมิ หรือ ปราสาทระแงง เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ศิลปะขอมแบบปาปวนและแบบนครวัด สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือต้นสมัยนครวัด และสันนิษฐานว่าต่อมาถูกดัดแปลงให้เป็นวัดในพุทธศาสนาตามที่มีหลักฐานการบูรณะปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่ 22 ช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย

             ปราสาทศรีขรภูมิเป็นปราสาทขนาดเล็กที่มีปรางค์หมู่ 5 องค์ ก่ออิฐไม่ถือปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน โดยมีคูน้ำล้อมรอบสามด้าน รูปแบบผังจำลองลักษณะเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล สร้างขึ้นตามรูปแบบศิลปกรรมเขมรโบราณ ตรงกับศิลปะสมัยบาปวน (พ.ศ.1550-1650) ต่อเนื่องถึงสมัยนครวัด (พ.ศ.1650-1700)   ช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 -17 เพื่อเป็นศาสนสถานของศาสนา ฮินดูลัทธิไศวนิกายที่นับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพเจ้าสูงสุด จนถึงราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 ปราสาทศรีขรภูมิได้ถูกดัดแปลงให้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายหินยาน

             แผนผังหลักของปราสาท คือ ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ประกอบด้วย ปราสาทอิฐ 5 หลัง ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน โดยมีปราสาทประธานอยู่ตรงกลาง และมีปราสาทบริวารอยู่โดยรอบทั้งสี่มุม

             ปราสาทประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฎราช (การร่ายรำของพระศิวะ) เป็นไฮไลต์ของปราสาทแห่งนี้ที่มีความงดงามและสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูนั้นเชื่อกันว่าพระศิวะจะร่ายรำตามจังหวะต่างๆ ซึ่งการร่ายรำนี้จะมีทั้งการสร้างและทำลายสิ่งต่างๆ แล้วแต่ช่วงเวลา บนแท่นมีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระพิฆเนศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง เสาประตูสลักเป็นลวดลายนางอัปสราถือดอกบัวที่มีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา 

             ส่วนปราสาทบริวารพบทับหลัง 2 ชิ้น ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย เป็นภาพกฤษณะอวตารทั้งสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็นภาพพระกฤษณะฆ่าช้างและคชสีห์ ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นภาพพระกฤษณะฆ่าคชสีห์ลวดลายทับหลังซึ่งสมบูรณ์มาก

             ปราสาทแต่ละหลังมีลักษณะเหมือนกัน คือ ตัวปราสาทก่อสร้างด้วยอิฐ หินทราย และศิลาแลง มีบันไดทางขึ้นและประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว นอกจากนี้ยังพบบัวยอดปราสาทสลักด้วยหินทราย มีลักษณะเป็นรูปดอกบัวบานขนาดใหญ่สำหรับประดับยอดบนสุดของปราสาท ปัจจุบันจัดแสดงอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ด้านหน้าปราสาทศีขรภูมิ


ปราสาทศรีขรภูมิ หรือ ปราสาทระแงง สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือต้นสมัยนครวัด


ปราสาทศรีขรภูมิเป็นปราสาทขนาดเล็กที่มีปรางค์หมู่ 5 องค์ ก่ออิฐไม่ถือปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน โดยมีคูน้ำล้อมรอบสามด้าน


ปราสาทประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฎราช (การร่ายรำของพระศิวะ) เสาประตูทั้งสองข้างสลักเป็นลวดลายนางอัปสราถือดอกบัวที่มีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา 


บัวประดับยอดปราสาทสลักด้วยหินทรายขนาดใหญ่ที่จัดแสดงอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ทางเข้าปราสาท


การเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดสุรินทร์ มีระยะทาง  440 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดสุรินทร์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ

             จังหวัดสุรินทร์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมายังจังหวัดสุรินทร์


การเดินทางไปปราสาทศรีขรภูมิ

             ปราสาทศรีขรภูมิ ตั้งอยู่ทีตำบลระแงง อำเภอศรีขรภูมิ ห่างจากตัวจังหวัดสุรินทร์ 36 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.30-18.00 น.


นักเรียนมาทัศนศึกษาที่ปราสาทศรีขรภูมิ


อัตราค่าเข้าชม

             ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวปราสาทศรีขรภูมิ

             ชมความงามศิลปะขอมแบบปาปวนและแบบนครวัดของปราสาททั้ง 5 องค์ และชมทับหลังสลักเป็นรูปการร่ายรำของพระศิวะที่มีความงดงามและสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย และทับหลังสลักรูปนางอัปสราซึ่งมีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา


พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในปราสาท


บรรยากาศโดยรอบปราสาทศรีขรภูมิ


ป้ายปราสาทหิน ศรีขรภูมิ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ปราสาทศีขรภูมิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย

                         (Sikhoraphum Stone Castle, Surin Province, Thailand)

                         ระดับความนิยม :

                         อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.30-18.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ตำบลระแงง อำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

                         โทรศัพท์ : -

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                          ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ https://surin.mots.go.th

                                          ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดสุรินทร์ https://www.dlt.go.th/site/surin

                                          ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ