วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

  • อ่าน (8,559)
  • ByWebmaster
  • 17:41:37 | 14 ธ.ค. 2563

วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

Wat Wang Kham, Kalasin, Thailand

             วัดวังคำ (Wat Wang Kham) เป็นวัดที่งดงามวิจิตร โดยสถาปัตยกรรมนั้นจำลองแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว วัดแห่งนี้ถูกยกให้เป็นอันซีนแห่งใหม่ในกาฬสินธุ์ ที่แม้แต่คนกาฬสินธุ์จำนวนไม่น้อยก็ยังไม่เคยมาก่อนทราบว่ามีวัดที่สวยงามแห่งนี้อยู่ด้วย


ประวัติ

             วัดวังคำ ตั้งอยู่ที่ บ.นาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ตามประวัติวัดวังคำระบุไว้ว่าเริ่มก่อสร้างวัดแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 โดยคณะชาวบ้านนาวีและหมู่บ้านใกล้เคียง แรกเริ่มที่สร้างวัดแห่งนี้ได้เริ่มจากการสร้างกุฏิเล็ก และศาลาเล็กๆ หลังคามุงหญ้าคาเท่านั้น แต่ด้วยแรงศรัทธาจากญาติโยมทำให้ทางวัดได้ขยับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างสำคัญต่างๆ ของทางวัดเพิ่มเติม โดยเฉพาะอาคารโบสถ์หลังงดงามที่จำลองแบบมาจากโบสถ์หรือสิมวัดเชียงทอง ประเทศลาว และด้วยความที่ชาวภูไท จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้มีเฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น ทว่ายังมีที่ประเทศลาว

             พระครูสังวรสมาธิวัตร (จรัญ ขันติปาโล) เจ้าอาวาสวัดและเป็นผู้ก่อตั้งวัดวังคำจึงคิดได้เกิดแนวความคิดที่จะนำศิลปะล้านช้างของลาวที่มีอิทธิพลอย่างมากในภาคอีสานมาผูกโยงกับเรื่องราววิถีชาวภูไทและความเชื่อโบราณของทางชุมชน จนผสมผสานเกิดเป็นโบสถ์ที่โบสถ์ที่งดงามแห่งนี้ ซึ่งเหตุผลที่เลือกวัดเชียงทองมาเป็นต้นแบบนั้น ก็เนื่องจากวัดเชียงทองได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้างที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว วัดวังคำได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดวังคำ” สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตนิกายเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเขตวิสุงคามสีมาแก่วัดวังคำเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2545

             สถาปัตยกรรมของวัดวังคำนั้นสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าภูไทได้เป็นอย่างดี และจำลองแบบของวัดเชียงทอง ในหลวงพระบางมาได้อย่างใกล้เคียงที่สุด โดยมีลักษณะเป็นอาคารโบสถ์ หลังคามุข 3 ชั้น และมีฉัตรตรงกลาง 9 ยอด ส่วนหลังคาที่โค้งยาวลงมาก็มีความวิจิตรงดงาม จนทำให้วัดแห่งนี้ได้รับการยกให้เป็น “อันซีนแห่งกาฬสินธุ์”

             เมื่อเดินเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระอุโบสถที่โดดเด่น ล้อมรอบด้วยระเบียงทั้งสี่ด้าน ด้านในตัวโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร ส่วนรอบโบสถ์นั้นประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยหลายองค์ วัดวังคำยังมีงานพุทธศิลป์อิทธิพลศิลปะล้านช้างปรากฏให้เห็นในหลายจุดด้วยกัน อาทิ องค์พระธาตุสีทองอร่ามที่ได้รับอิทธิพลมาจากธาตุหลวง เมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว และศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่ภายในประดิษฐาน “หลวงปู่วังคำ” พระประธานศิลปะล้านช้างอันงดงามซึ่งมีพระพักตร์อมยิ้มเล็กน้อย นอกจากความสวยงามของศิลปะแบบล้านช้างที่มีให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเก็บภาพประทับใจแล้ว ภายในวัดวังคำยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง รวมถึงมีการจัดนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวภูไทด้วย 


ความงดงามขององค์เจดีย์สีทองภายในวัดวังคำ


บรรยากาศสวยงามรอบๆ วังวังคำ


หลังคาโบสถ์อ่อนช้อยโค้งงามทรงปีกนกปกคลุมต่ำซ้อน ลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น หรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบม้าต่างไหม


ลวดลายลงรักปิดทองอันงดงามของประตูและรูปปั้น


เรือนแบบชาวภูไท


สถาปัตยกรรมภายในวัดวังคำสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าภูไทได้เป็นอย่างดี และจำลองแบบของวัดเชียงทอง ในหลวงพระบางมาได้อย่างใกล้เคียงที่สุด


การเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดกาฬสินธุ์ มีระยะทาง 520กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาที    

             จังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน และยังไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือ จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์


การเดินทางไปวัดวังคำ

             วัดวังคำ ตั้งอยู่ที่ บ.นาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัวนักท่องเที่ยวต้องเหมารถให้ไปส่ง


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดวังคำ

             ชมความสวยงามในพระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระปางสะดุ้งมาร พระปางสะดุ้งกลับ และพระธาตุเจ้ากู สักการะพระพุทธรูปองค์ต่างๆ ภายในวัดวังคำเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวภูไท


ผู้คนเดินทางมาเยี่ยมชมและกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดวังคำ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้

             การเข้าชมวัดวังคำมีข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งกายดังนี้

             สุภาพสตรี ใส่ผ้าถุงเท่านั้น ส่วนเสื้อเป็นเสื้อสุภาพ และห่มผ้าสไบ บ่าซ่าย

             สุภาพบุรุษ ใส่กางเกงขายาว โสร่ง (สำหรับกางเกงขาสั้นให้ใส่ผ้าโสร่ง) ส่วนเสื้อเป็นเสื้อสุภาพ และเฉียงผ้าสไบบ่าขวา

             สำหรับผู้ที่จะไปใช้วังวังคำเป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อนุญาตให้เข้าเฉพาะชุดผู้ไทเท่านั้น


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดวังคำ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

                         (Wat Wang Kham, Kalasin, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : บ้านนาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์

                         โทรศัพท์ : (+66) 08 1871 6638

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ https://kalasin.mots.go.th/

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ