วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (6,906)
  • ByWebmaster
  • 10:40:41 | 25 พ.ย. 2563

วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Khao Kradong Forest Park, Buriram, Thailand

             วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง (Khao Kradong Forest Park) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและศึกษาประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยาและชีววิทยาที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องปะทุให้เห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะดับสนิทแล้วก็ตาม


ประวัติ

             วนอุทยานเขากระโดง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทโดยมีอายุ 3 แสนถึง 9 แสนปีมาแล้ว เช่นเดียวกับปากปล่องภูเขาไฟที่อื่นๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ อาทิ ปากปล่องภูเขาไฟที่เขาพนมรุ้ง ปากปล่องภูเขาไฟที่เขาอังคาร เดิมชาวบ้านเรียกเขากระโดงว่า “พนมกระดอง” เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดอง (เต่า) เพราะมีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนเป็นกระโดง

             วนอุทยานเขากระโดงเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโบราณซึ่งยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจนโดยมีลักษณะเป็นแอ่งลึก ยอดเขาสูงสุดประมาณ 265 เมตรจากระดับน้ำทะเล รอบๆ บริเวณเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กโดยเฉพาะนกนานาชนิด และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าเต็งรังครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,450 ไร่ด้วย

             ที่วนอุทยานเขากระโดงยังมีพันธุ์ไม้พื้นเมืองน่าศึกษาหลายชนิด รวมถึงผลของต้นโยนีปีศาจ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ บนเขากระโดงยังมีปรางค์กู่โบราณศิลปะแบบขอม รอยพระพุทธบาทจำลอง และมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่คือพระสุภัทรบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนซึ่งสามารถชมทัศนียภาพบริเวณปากปล่องภูเขาไฟได้

             นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์ของตัวเมืองบุรีรัมย์และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลบนเขากระโดง การขึ้นไปยังเขากระโดงสามารถทำได้สองวิธี คือ เดินขึ้นบันได 297 ขั้น หรือ ขับรถขึ้นไปถึงยอดเขา โดยระหว่างทางมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานเรียงรายอยู่เป็นระยะ บรรยากาศโดยรอบนั้นทั้งร่มรื่นและสงบผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนจิตใจอย่างยิ่ง


ปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยชัดเจนโดยมีลักษณะเป็นแอ่งลึก


วนอุทยานภูเขาไฟกระโดงเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด


สะพานแขวนที่สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามรอบๆ ปากปล่องภูเขาไฟได้


พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาคือพระสุภัทรบพิตร


บรรยากาศภายในวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง 


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ   


การเดินทางไปวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง

             วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 15 นาที มีรถสองแถวที่วิ่งผ่านคือรถสองแถวสีชมพูสาย 1 ค่าบริการ 10 บาทตลอดสาย http://www.buriramguru.com/pink-transport-line-1


เวลาทำการเปิด
– ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.


จุดถ่ายภาพที่ระลึก และร้านจำหน่ายสินค้า


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววนอุทยานภูเขาไฟกระโดง

             ชมปากปล่องภูเขาไฟ ลักษณะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีกที่มีอายุประมาณ 3 แสนถึง 9 แสนปี และชมต้นโยนีปีศาจซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ ชมปรางค์กู่โบราณศิลปะแบบขอม สักการะพระสุภัทรบพิตรและรอยพระพุทธบาทจำลองบนเขากระโดง


ต้นโยนีปีศาจเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


จุดถ่ายภาพที่ระลึก


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี จะมีประเพณีขึ้นเขากระโดง โดยพุทธศาสนิกชนจะร่วมกันเชิญผ้าอังสะ ขึ้นไปเปลี่ยนให้องค์พระสุภัทรบพิตรที่ประดิษฐานอยู่บนเขา


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                        (Khao Kradong Forest Park, Buriram,  Thailand)

                        ระดับความนิยม : 

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม  

                        เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.

                        ตั้งอยู่ที่ : บ้านน้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

                        โทรศัพท์ : (+66) 044 637 349    

                        เว็บไซต์ : -   

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                        ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ