วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

  • อ่าน (6,688)
  • ByWebmaster
  • 10:26:13 | 29 ต.ค. 2563

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

Phra That Hari Phun Chai, Lamphun Province, Thailand

             วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร (Phra That Hari Phun Chai) เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยเป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่มีความงดงาม สมบูรณ์ และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีระกาด้วย


ประวัติ

             วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร หรือที่เรียกดันโดยทั่วไปว่าวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่ใหญ่แห่งหนึ่งในอาณาจักรล้านนาไทย สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอาทิตยราช แห่งราชวงศ์รามัญผู้ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา วัดพระธาตุหริภุญชัยสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 โดยในตอนแรกได้สร้างเป็นมณฑปขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมธาตุสูง 3 วา มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน ครอบโกศทองคำสูง 3 ศอก บรรจุพระธาตุไว้ภายใน ต่อมาในสมัยพระเจ้าติโลกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่ได้โปรดให้เสริมพระบรมธาตุสูงขึ้นอีกเป็น 23 วา โดยใช้ทองจังโกฏก์ หรือ ทองแดงปนนาคทำเป็นแผ่นหุ้มตลอดทั่วทั้งองค์ตั้งแต่ฐานถึงยอด ใช้ทองจังโกฏก์ไปทั้งหมด 15,000 แผ่น

             ภายในวัดเต็มไปด้วยโบราณสถานล้ำค่ามากมาย ตั้งแต่ซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร อันเป็นฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัย มีซุ้มยอดเป็นชั้นๆ ด้านหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่าบนแท่นสูงประมาณ 1 เมตร

วิหารหลวง เป็นวิหารหลังใหญ่ที่จะพบเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาแล้ว วิหารหลังนี้มีพระระเบียงรอบด้าน มีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง วิหารหลวงหลังปัจจุบันเป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่าที่ถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อปีพ.ศ. 2458 วิหารนี้ใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลและประกอบศาสนกิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธปฏิมาใหญ่ 3 องค์ ลงรักปิดทองบนแท่นแก้ว และมีพระพุทธปฏิมาโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้นและชั้นกลางอีกหลายองค์

             พระบรมธาตุหริภุญชัย ตั้งอยู่หลังวิหารหลวง เป็นที่ประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุในโกศทองคำ เจดีย์ประกอบด้วยฐานปัทม์แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสัตถบัญชร (ระเบียงหอกซึ่งเป็นรั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์และฉัตรประจำสี่มุม หอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีปและแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

             สุวรรณเจดีย์หรือปทุมวดีเจดีย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะการก่อสร้างแบบเดียว กับเจดีย์สี่เหลี่ยมหรือเจดีย์กู่กุดที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน องค์เจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ เป็นเจดีย์ทรงปราสาทมีฐานสี่เหลี่ยมซ้อนชึ้นไปห้าชั้น โดยแต่ละชั้นประดับซุ้มจระนำทั้งสี่ด้าน ด้านละสามซุ้ม ภายในซุ้มจะประดิษฐานพระพุทธรูปดินเผาประทับยืนประทับอยู่ ซึ่งมีร่องรอยของการลงรักปิดทอง ปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงไม่กี่องค์ ส่วนบนสุดของเจดีย์เป็นกลีบบัวปูนปั้นหุ้มด้วยโลหะแผ่น ส่วนยอดปลายสุดทำเป็น กรวยแหลมเรียวยาวขึ้นไปสุวรรณเจดีย์องค์นี้มีพระพิมพ์ที่สำคัญและ มีชื่อเสียงของเมืองลำพูนบรรจุอยู่ภายใน คือ พระเปิม

             หอระฆัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นหอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ (ครูบาคำฟู) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ ด้านบนแขวนระฆังขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยเจ้าหลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ ๗ และชั้นล่างห้อยกังสดาลขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ ฝีมือครูบาสูงเม่นโดยกัญจนมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดป่าเมืองแพร่ และเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ เป็นศรัทธาสร้างหล่อกังสดาลนี้ ในวัดพระสิงห์เมืองเชียงใหม่เพื่อไว้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย

             นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง อาทิ วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพระเจ้าองค์แดง รอยพระพุทธบาทสี่ดวง วิหารพระนอน เป็นต้น รวมถึงอาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงวัตถุโบราณและสิ่งของต่าง ๆ มากมาย นอกจากวัดพระธาตุหริภุญชัยจะเป็นศาสนสถานที่มีความงดงาม ทรงคุณค่า ทำให้จิตใจสงบสุข ร่มเย็นแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งให้ความรู้ไปในขณะเดียวกัน


ความงดงามของพระธาตุหริภุญชัย


ซ้ายมือคือวิหารหลวง เป็นวิหารหลังใหญ่ที่จะพบเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาแล้ว


เจดีย์สีทองคือพระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นที่ประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุในโกศทองคำ


พระพุทธรูปองค์ต่างๆที่ประดิษฐานอยู่บริเวณระเบียงคด


การเดินทางไปจังหวัดลำพูน

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดลำพูน มีระยะทาง 658 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 15 นาที   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดลำพูน ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 11ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ

             จังหวัดลำพูนไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดเชียงใหม่แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดลำพูน


การเดินทางไปพระธาตุหริภุญชัย

             วัดพระธาตุหริภุญชัยอยู่ถนนรอบเมือง ในตัวเมืองจังหวัดลำพูน สามารถเดินทางไปได้สะดวกโดยมีรถสามล้อถีบให้เรียกใช้บริการได้ทั่วไป อัตราค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 20 บาท


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 6.00-18.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 20 บาท


ด้านขวาของอุโบสถคือสุวรรณเจดีย์หรือปทุมวดีเจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวพระธาตุหริภุญชัย

             ภายในวัดพระธาตุหริภุญชัยเต็มไปด้วยสิ่งที่สำคัญมากมายที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการสักการระองค์พระธาตุ ชมซุ้มประตู วิหารหลวง หอระฆัง กราบขอพรพระเจ้าทันใจ และชมอาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี


ศิลปะอันวิจิตรงดงามภายในพระอุโบสถ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในวันวิสาขบูชา หรือวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี จะมีการจัดงานนมัสการและสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย


วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ถือเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่ใหญ่แห่งหนึ่งในอาณาจักรล้านนาไทย


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             ตำนานวัดพระธาตุหริภุญชัย ได้กล่าวถึงการสร้างพระบรมธาตุแห่งนี้ว่า เมื่อครั้งพุทธกาลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกได้เสด็จมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ พระองค์ได้เสด็จมายัง ณ หมู่บ้านปาทรคาม ลุ่มแม่น้ำพิงค์ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวลัวะ (บางตำนานก็ระบุว่าเป็นชาวเม็ง) ครั้นเมื่อชาวบ้านทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดจึงพากันนำผลสมอ (บะนะ) มาถวาย เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จฉันท์ผลสมอแล้วจึงนำผลสมอฝังไว้ ณ ดินแดนผืนนี้พร้อมกับให้คำทำนายว่า ในอนาคตกาลภายหน้าจะมีมหาราชองค์หนึ่งมาก่อพระเจดีย์สีทองขึ้น ลัวะได้ฟังดังนั้นจึงทูลขอพระเกศาธาตุจากพระพุทธองค์แล้วนำใส่กระบอกไม้รวกฝังไว้ลงดิน มีพญากาเผือกคอยบินวนเวียนอารักขาอยู่ กาลเวลาผ่านไปนานถึง 16 ศตวรรษ ชาวลัวะผู้นั้นเกิดเป็นพญาอาทิตยราช


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระธาตุหริภุญไชย สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

                         (Phra That Hari Phun Chai, Lamphun Province, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 20 บาท  

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00-18.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ถนนรอบเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

                         โทรศัพท์ : (+66) 0 5331 1104     

                         เว็บไซต์ : www.hariphunchaitemple.org

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน https://lamphun.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดลำพูน https://www.lamphun.go.th/th/tourist-map

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

วัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

จุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา

อ่านต่อ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา

ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

อ่านต่อ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ