ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

  • อ่าน (5,431)
  • ByWebmaster
  • 17:18:35 | 28 ต.ค. 2563

ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

Ayutthaya City Pillar Shrine, Ayutthaya Province, Thailand

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya City Pillar Shrine) ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเก่า เมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศแห่งนี้


ประวัติ

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บริเวณใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง ถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองที่ส่งเสริมความร่มเย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคล มิ่งขวัญ รวมทั้งเพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีมาอย่างยาวนาน  สันนิษฐานว่าได้มีการสถาปนาหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นในคราวเดียวกันเมื่อครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ( พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ. 1893 ตามข้อมูลในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาที่ตรงกันหลายฉบับ ทว่าหลักเมืองเดิมนั้นได้ปรักพังสูญไปราวพ.ศ. 2310 และไม่ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี

             ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันเป็นศาลหลักเมืองสร้างขึ้นมาใหม่เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาโดยมีกรมศิลปากรเป็นผู้กำหนดภูมิสถาน ออกแบบและก่อสร้าง รูปแบบของสถาปัตยกรรมนั้นเป็นอาคารมณฑปจตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออกทั้ง 4 ด้าน อาคารศาลหลักเมืองมีบันไดขึ้นลง 3 ด้าน หลังคาเป็นยอดปรางค์ ยอดบนสุดประดับนพศูล หรือนภศูล มีลักษณะซ้อนกัน 3 ชั้นงดงาม

             องค์เสาหลักเมืองทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์ โดยยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวแก้วซ้อนกัน 7 ชั้น ส่วนฐานเสาสูงจากอาคารชั้นล่างขึ้นมาอาคารชั้นบนนั้นมีกระจกแก้วครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะไหว้สามารถมองเห็นองค์เสาหลักเมืองจากภายนอกผ่านกระจกใสได้ชัดเจน  

             พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมองค์หลักเมืองพระนครศรีอยุธยาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 07.00 นาฬิกา ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยได้ประกอบพิธีเปิดอาคารศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนี้เมื่อวันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2527  

อาคารศาลหลักเมืองอยุธยา


การเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจากกรุงเทพมหานคร

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที    

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที    


การเดินทางไปศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บริเวณวงเวียนใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง รถสาธารณะที่ผ่านได้แก่ รถสาย ปอ.5 และสาย 6  


เวลาทำการเปิด – ปิด

             กราบสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาหลังปัจจุบันเป็นศาลหลักเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

            สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือสักการะองค์ศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ศาลหลักเมืองจังหวัดอยุธยา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

                         (Ayutthaya City Pillar Shrine, Ayutthaya Province, Thailand) 

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม   

                         เวลาเปิด – ปิด : กราบสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                         โทรศัพท์ : -

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                         เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา http://ww2.ayutthaya.go.th/frontpage

                                         เฟซบุ๊คการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา https://www.facebook.com/TatAyutthaya/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

แจกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย

อุทยานแห่งชาติ (National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ใจดีคอยให้ข้อมูล มีที่พัก และอาหารไว้บริการในราคาย่อมเยา และยังมีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวสายแคมปิ้งได้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลิน ในวันนี้ palanla เลยจะมาบอกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติตามไปเช็คอินกัน

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ และถ้ำวังบาดาล อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549

อ่านต่อ

7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง

หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ

อ่านต่อ

วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย

วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน

อ่านต่อ

วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) Wat Nong Pho (Wat Luang Por Derm) วัดดังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นที่รู้จักในฐานะวัดของพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) พระเกจิชื่อดังกับมงคลของท่านคือมีดหมอ

อ่านต่อ

บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

บึงบอระเพ็ด (Bueng Borraped Swamp) บึงชื่อคุ้นหูในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บึงอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีไฮไลต์คือทุ่งดอกบัวสีสันสวยงาม และบรรดานกน้ำหลากสายพันธุ์ที่มีให้ได้ชมกันอยู่โดยตลอด ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีนอพยพจากทางตอนเหนือของโลกมาอาศัยอยู่รอบบึงแห่งนี้

อ่านต่อ

ตลาดร้อยปีชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

ตลาดร้อยปีชุมแสง (Chum Saeng 100 Years Market) ชุมชนตลาดใกล้สถานีรถไฟชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี กับบรรยากาศที่ยังคงอบอวลไปด้วยความสวยงามคลาสสิก และของกินอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง

อ่านต่อ

พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

เมื่อมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) (King Ramathibodi 1 Monument) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดมาสักการะปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกรุงเก่า

อ่านต่อ

11 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย

จังหวัดพิษณุโลกตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ภูเขาและป่าไม้ขนาดใหญ่จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะหน้าผา น้ำตก และทุ่งดอกไม้ภายในอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้จังหวัดพิษณุโลกยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีว่าพื้นที่บริเวณนี้มีการตั้งรกรากมาตั้งแต่ก่อนกรุงสุโขทัย ด้วยเหตุนี้จังหวัดพิษณุโลกจึงมีโบราณสถานและวัดวาอารามเก่าแก่ให้เที่ยวชมอีกด้วย ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลกมาฝากทุกท่านกันวันนี้เพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวในวันหยุดครั้งหน้ากัน

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (Thung Salaeng Luang National Park) อุทยานฯ เก่าแก่อันดับ 3 ของประเทศ ฉายา “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” กับพื้นที่กว้างขวางครอบคลุม 2 จังหวัด อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ