- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
- อ่าน (7,136)
- ByWebmaster
- 11:18:25 | 18 เม.ย. 2562
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
Pa Mok Worawihan Temple, Ang Thong, Thailand
วัดป่าโมกวรวิหาร
วัดป่าโมกวรวิหาร (Pa Mok Worawihan Temple) เป็นวัดหลวงชั้นวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองไป 18 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของพระพุทธไสยาสน์ที่มีความงดงามองค์หนึ่งของไทย และเป็นพระที่มีความเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
แผนที่วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
ประวัติ
วัดป่าโมกวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่สมัยสุโขทัย เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดใต้ท้ายตลาด จากจารึก โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ ที่ฝ่าพระบาททั้ง 2 ข้างของพระพุทธไสยาสน์ ระบุว่า พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดเกล้าฯ ให้นำองค์พระจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาไว้ยังที่ตั้งปัจจุบัน รวมทั้งโปรดให้สร้างวิหารหลวงเป็นที่ประดิษฐานองค์พระ แต่พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อนที่วิหารหลวงจะสร้างเสร็จ การฉลองวิหารหลวงที่ประดิษฐานองค์พระพุทธไสยาสน์จึงจัดขึ้นในสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา
มุมมองด้านบนของวัดป่าโมกวรวิหาร
รูปการชะลอพระพุทธไสยาสน์
พระพุทธไสยาสน์จำลอง
คำสวดบูชาพระพุทธไสยาสน์
การเดินทางไปจากกรุงเทพมหานครไปจังหวัดอ่างทอง
- รถยนต์ จากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดอ่างทอง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางสายพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 32 จากกรุงเทพฯ แยกเข้าเส้นทางสายเอเชีย ผ่านอำเภอบางปะอิน - พระนครศรีอยุธยา - อำเภอบางปะหัน - อ่างทอง รวมระยะทาง 105 กิโลเมตร
เส้นทางที 2 ใช้เส้นทางตัดใหม่ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า - ตลิ่งชัน เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ผ่านจังหวัดนนทบุรี - ปทุมธานี - พระนครศรีอยุธยา - สุพรรณบุรี - อ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - ปทุมธานี ผ่านปากเกร็ด เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3111 ผ่านอำเภอบางไทร - อำเภอเสนา - พระนครศรีอยุธยา จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 3263 และต่อเข้าทางหลวงหมายเลข 309 เข้าอำเภอป่าโมก - อ่างทอง รวมระยะทาง 140 กิโลเมตร หรือใช้ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1543
- รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางระหว่างกรุงเทพฯ - อ่างทอง ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศทุกวัน สามารถขึ้นรถได้ที่ขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 ไปยังสถานีขนส่ง จังหวัดอ่างทอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://home.transport.co.th/index.php/th/
การเดินทางไปวัดป่าโมกวรวิหาร
- รถยนต์ จากสถานีขนส่ง จังหวัดอ่างทอง ไปยังวัดป่าโมกวรวิหารระยะทางประมาณ 16.7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 22 นาที
- รถโดยสารสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถสองแถวท่องเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ โดยคิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง นอกจากนี้ ยังมีบริการรถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งตามระยะทางและแบบเหมาจ่าย
เวลาทำการเปิด – ปิด
ทุกวันเวลา 06.00 - 18.00 น.
การซื้อบัตรเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
จุดท่องเที่ยวที่สำคัญของวัดป่าโมกวรวิหาร
วัดป่าโมกวรวิหาร มีสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมอยุธยาตอนปลาย มีรูปทรงหลังคาเป็นฐานวิหารอ่อนโค้งรูปสำเภา ไม่สูงมากนักเป็นหลังคาลด 2 ชั้น ต่อด้วยปีกนกด้านละ 2 แถบ มี 9 ห้อง เจาะช่องหน้าต่างด้านละ 7 บาน ทางเข้าประตูเขียนลายรดน้ำลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์ก้านแย่งยอด
การตกแต่งภายในพระวิหารพระพุทธไสยาสน์
พระพุทธไสยาสน์ เป็นปูนปั้นลงรักปิดทองทั้งองค์ ตะแคงขวาแบบสีหไสยา มีความยาวจากพระเมาลีถึงพระบาท 22 เมตร
พระพุทธไสยาสน์
พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) รูปทรงกระบอก 3 ใบ ลดหลั่นกันจากใหญ่ขึ้นไปหาเล็กแล้วคลุมด้วยผ้าทิพย์
พระเขนย
ผ้าทิพย์คลุมพระเขนย
พระอุโบสถ มีขนาด 5 ห้อง หลังคาลดหลั่น 2 ชั้น หน้าพระอุโบสถใต้หน้าบันมีหลังคาคลุมแบบ “จั่นหับ” มีประตูทางเข้า 2 ประตู หน้าต่างด้านละ 3 บาน เขียนลายรดน้ำ ส่วนรอบนอกพระอุโบสถมีใบเสมาเป็นของเก่าในสมัยอยุธยาตอนต้นเป็นหินชนวนตั้งอยู่บนฐานดอกบัว และฐานสิงห์ ในสมัยอยุธยาตอนปลายเรียกว่า “เสมานั่งแท่ง”
พระอุโบสถ
วิหารเขียน เป็นสถาปัตยกรรมทรงไทย มีขนาด 7 ห้อง หลังคาลด 2 ชั้น ใต้หน้าบันด้านหน้าปิดผนังทึบมีเสาแบนหรือเสาอิง 2 ตัน มีหลังคาคลุมลดลงมารองรับด้วยเสา 4 ต้น ที่เรียกว่า “จั่นหับ” ผนังรอบวิหารมีเสาอิงประดับระหว่างประตูหน้าต่าง บัวหัวเสาเป็นบัวจงกลปูนปั้น สันนิษฐานว่าเดิมเป็นตำหนักที่ประทับของพระเจ้าท้ายสระในคราวเสด็จชะลอพระพุทธไสยาสน์
สถาปัตยกรรมทรงไทยประดับด้วยรูปปั้น
มณฑป ก่อด้วยอิฐฉาบปูน หน้าบันมีลวดลายปูนปั้นรอบมณฑป ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยสลักด้วยหิน
พระบาทพระพุทธไสยาสน์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ตามตำนานของวัดป่าโมกวรวิหาร พระพุทธไสยาสน์เป็นองค์พระที่ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัดราษฎรบวงสรวงและได้มีการชักลากขึ้นมาไว้ริมฝั่งแม่น้ำ ต่อมา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จมาชุมนุมพลและได้ถวายสักการะ เมื่อปี พ.ศ. 2269 ก่อนจะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราชได้สำเร็จ
รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถในบริเวณวัด
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดป่าโมกวรวิหาร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
(Pa Mok Worawihan Temple, Ang Thong, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันเวลา 06.00 - 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
โทรศัพท์ : (+66)035-661286
เว็บไซต์ : https://bit.ly/2Ufly0A
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง http://www.angthong.go.th/atg-tour/travel.html
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
เว็บไซต์บริการรถโดยสารสาธารณะ http://home.transport.co.th/index.php/th/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อสวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย
อ่านต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ
อ่านต่อน้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย
อ่านต่อตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้
อ่านต่อวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967
อ่านต่อวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย
อ่านต่อ10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อหอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ