อาคารอะโตเมียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

  • อ่าน (5,338)
  • By Webmaster
  • 09:58:51 | 18 ธ.ค. 2562

อาคารอะโตเมียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

Atomium Building, Brussels, Belgium


ลานด้านหน้าอาคารอะโตเมียม

             อาคารอะโตเมียม (Atomium Building) แลนด์มาร์กสำคัญประจำเมืองบรัสเซลส์ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของเมืองได้เป็นอย่างดี นับเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับงานเวิลด์เอ็กโป (World Expo) ที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังหนึ่งของโลก ปัจจุบันอาคารแห่งนี้เป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนเมืองบรัสเซลส์


อาคารอะโตเมียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม


ประวัติ


สถาปัตยกรรมของอาคารอะโตเมียมเมื่อมองขึ้นไปจากข้างใต้

             อาคารอะโตเมียม (Atomium Building) หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายประเทศดูเหมือนจะตื่นรู้ว่าปัจจัยที่จะทำให้ประเทศของตนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกได้อย่างแท้จริงไม่ได้มีเพียงความรุนแรง หรือคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย แต่ยังมีเรื่องของนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่จะกลายมาเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันอยู่ในระดับแนวหน้าของเวทีโลก และจะมีโอกาสไหนดีงามไปกว่างานเวิลด์เอ็กซ์โป (World Expo) งานนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนทางด้านประวัติศาสตร์ นวัตกรรม วัฒนธรรม ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นมหกรรมของมวลมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากโอลิมปิก (Olympic Games) และฟุตบอลโลก (FIFA World Cup) โดยงานเวิลด์เอ็กซ์โปจะจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ผ่านประเทศเจ้าภาพที่เปลี่ยนไปทุกครั้ง จนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศตัวเองในระดับสากล และเป็นเหตุให้หลายประเทศแย่งกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงานแต่ละครั้ง ซึ่งงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งที่ 17 ในปี ค.ศ. 1958 ถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญที่สุดของเวิลด์เอ็กซ์โป เพราะเป็นการจัดงานครั้งแรกหลังความร้อนระอุของไฟสงครามจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ลุกลามไปทั่วโลกเริ่มจะดับลง และเป็นการจัดงานที่เกิดจากการจดทะเบียนภายใต้องค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau of International Expositions) องค์การระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นจากการทำอนุสัญญาว่าด้วยการจัดแสดงนิทรรศการนานาชาติซึ่งมีประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกถึง 170 ประเทศ ทำให้งานครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณว่ามนุษยชาติพร้อมจะกลับมาหันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธีอีกครั้ง และประเทศผู้โชคดีที่ได้รับบทเป็นเจ้าภาพก็คือเบลเยียมนั่นเอง


โมเดลจำลองอาคารอะโตเมียมขนาดย่อส่วน

           แน่นอนว่างานถูกจัดขึ้นที่เมืองหลวงของประเทศอย่างบรัสเซลส์ โดยเป็นเหมือนธรรมเนียมที่ทุกครั้งที่มีการจัดงานระดับสากล ประเทศเจ้าภาพจะต้องสร้างสรรค์ผลงานอะไรบางอย่างที่ใช้เป็นหน้าตาสำคัญสำหรับการแสดงถึงศักยภาพของประเทศตัวเอง ให้แขกจากหลากประเทศที่มาร่วมงานได้ประจักษ์ และเป็นเหตุผลให้เกิดการสร้าง อาคารอะโตเมียม ขึ้นมา เพราะหลังจากได้รับการยืนยันว่าจะได้เป็นเจ้าภาพงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งที่ 17 ทางการก็ได้เริ่มโปรเจกต์การสร้างแลนด์มาร์กที่จะใช้ในงาน โดยตอนนั้นแวดวงวิทยาศาสตร์โลกกำลังเริ่มต้นเข้าสู่ยุคเฟื่องฟูสุดขีด มีการค้นพบทฤษฎีใหม่ๆ ที่จะช่วยพลิกโฉมนวัตกรรมด้านต่างๆ ของโลกกันแทบทุกวัน และหนึ่งในแขนงที่มาแรงสุดๆ คือการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างการเรียงตัวของอะตอมที่อยู่ในสรรพสิ่งต่างๆ จึงทำให้มีการนำการเรียงตัวของอะตอมแบบเก้าอะตอมที่เกิดจากการตกผลึกของโมเลกุลที่อยู่ในธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นโครงสร้างการเรียงตัวของอะตอมที่มีความสมมาตร และงดงามราวกับงานศิลป์ชั้นเลิศของโลกวิทยาศาสตร์ มาเป็นต้นแบบในการก่อสร้างอาคารอะโตเมียม โดยเป็นการขยายจากสัดส่วนจริงของโครงสร้างอะตอมถึง 165 พันล้านเท่า ซึ่งแปลนของอาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกสองคนพี่น้อง อันเดร (Andre) กับ จีนส์ โพเลก (Jean Polak) โดยพวกเขาได้สร้างแบบแปลนสถาปัตยกรรมที่ดูล้ำสมัย และแปลกตาสุดๆ ในยุคนั้น มาให้วิศวกรนาม อันเดร วอเตอร์กยน (Andre Waterkeyn) ได้รังสรรค์ผลงานในฝันของชาวเบลเยียมชิ้นนี้ให้เป็นความจริง โดยใช้เวลาไปทั้งหมด 18 เดือน อาคารอะโตเมียม ก็พร้อมสำหรับงานเอ็กซ์โปครั้งที่ 17 หรือที่รู้จักกันในชื่องาน บรัสเซลส์ เวิลด์ แฟร์ (Brussels World Fair)


ภาพการก่อสร้างอาคาร


บันไดที่ใช้เชื่อมไปยังจุดต่างๆ ของอาคาร

           โดยโครงสร้างแรกเริ่มของอาคารประกอบด้วยวัตถุทรงกลมทำจากอลูมิเนียมจำนวน 9 ลูก แต่ละลูกจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 เมตร และเชื่อมต่อกันด้วยหลอดทรงกระบอกทำจากเหล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ที่ติดตั้งลิฟต์กับบันไดเลื่อนเพื่อใช้สัญจรไปยังจุดต่างๆ ของอาคาร โดยความยาวสูงสุดของบันไดเลื่อนในหลอดทรงกระบอกคือ 35 เมตร หลอดกลางสุดของอาคารจะมีการติดตั้งลิฟต์ที่มีความเร็วถึง 5เมตร ต่อ วินาที บรรจุคนได้ 22 คนในหนึ่งรอบการใช้งาน น้ำหนักรวมทั้งหมดของอาคารอยู่ที่ 2,400 ตัน จุดที่สูงที่สุดของอาคารคือ 102 เมตร พื้นที่จัดงานหลักจะอยู่ในลูกกลมด้านบนสุด แม้ตอนแรกจะมีลูกกลมถึง 3 ลูกที่ไม่สามารถใช้งานอะไรได้ มีหน้าที่เพียงช่วยลดแรงลม และรักษาสมดุลของตัวอาคารไม่ให้มีการพลิกคว่ำ แต่ก็ยังถือว่าเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่ประสบความสำเร็จที่สุดครั้งหนึ่งของงานเวิลด์เอ็กโป (World Expo) และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย


บรรยากาศยามเย็นที่มีการเปิดไฟประดับอาคารในส่วนของลูกกลมทั้ง 9 ลูก

           ทำให้จากอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแลนด์มาร์กชั่วคราว ก็ได้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความพร้อมอย่างก้าวกระโดดในโลกที่กำลังจะแข่งขันกันด้วยความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยการบูรณะครั้งใหญ่ของอาคารเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2004 ซึ่งมีการเปลี่ยนวัสดุของลูกกลมจากอลูมิเนียมเป็นสแตนเลสสตีลชั้นดี มีการติดตั้งไฟ LED 2,970 ดวง ทั่ววงกลมทั้ง 9 ลูก เกิดเป็นลูกเล่นของแสงสียามกลางคืนที่สวยงาม และสร้างเอกลักษณ์ให้อาคารมีความโดดเด่นมากขึ้นไปอีก โดยวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2006 อาคารอะโตเมียมก็ได้ทำการเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยมีทั้งนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับงานเวิลด์เอ็กโป (World Expo) ที่ประเทศได้เป็นเจ้าภาพ, ส่วนนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร, สถานที่จัดแสดงนิทรรศการชั่วคราว ที่จะมีงานน่าสนใจหมุดเวียนมาจัดแสดงตลอดปี, สถานที่จัดงานอีเว้นท์ต่างๆ, จุดชมวิวทัศนียภาพของเมืองบรัสเซลส์แบบพาโนราม่า, ร้านอาหารประจำอาคาร, สถานที่จัดเวิร์กช็อปน่าสนใจให้เยาวชนอายุ 6-12 ปีได้เข้ามาร่วมทำ, ห้องทำการที่ใช้ดูแลความเรียบร้อยของระบบการทำงานต่างๆ ภายในอาคาร ฯลฯ ผ่านการจัดสรรพื้นที่ของลูกกลมทั้ง 9 ลูกของอาคารอย่างลงตัว และทั้งหมดนี้เอง เป็นเหตุผลให้แม้จะผ่านมานานกว่า 60 ปี นับตั้งแต่อาคารถูกสร้างขึ้นมา แต่มันก็ยังคงเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และสถาปัตยกรรมที่มีความล้ำสมัยมาโดยตลอด


ทัศนียภาพของเมืองจำลองมินิ ยุโรปเมื่อมองจากจุดชมวิวบนอาคารอะโตเมียม


แสงสีดูล้ำสมัยของบันไดเลื่อนที่ใช้สัญจรไปยังจุดต่างๆ ของอาคาร


รูปภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของอาคารอะโตเมียม


บอร์ดนิทรรศการน่าสนใจภายในอาคาร


บอร์ดนิทรรศการน่าสนใจภายในอาคาร


ภาพบรรยากาศที่เกิดขึ้นในงานเวิลด์เอ็กโป


ลานน้ำพุที่อยู่บริเวณรอบนอกของอาคารอะโตเมียม

 
ทัศนียภาพของเมืองบรัสเซลส์เมื่อมองจากจุดชมวิวบนอาคาร

 
ภาพโคลสอัพของตัวอาคาร


สถาปัตยกรรมของอาคารเมื่อมองมาจากระยะไกล


การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์

             รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที

             - รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html

             - รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en


การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังอาคารอะโตเมียม

             - รถยนต์ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังอาคารอะโตเมียม ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที

             - รถไฟ จาก Brussels Station ให้ขึ้นรถไฟสาย1 หรือ สาย5 เพื่อไปลงที่สถานี Beekkant Station แล้วต่อรถไฟสาย 6 ไปลงที่สถานี Heizel Station และเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง อาคารอะโตเมียม รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 33 นาที


เวลาเปิด-ปิดทำการ

           เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00 น. – 18:00 น.


ทิวทัศน์ของพื้นที่โดยรอบอาคารเมื่อมองมาจากจุดชมวิวบนอาคาร


อัตราค่าเข้าชม

           ผู้ใหญ่ (18-65 ปี) ราคา 15 ยูโร / ผู้สูงอายุ (66+ปี) ราคา 13 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 8 ยูโร


เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรเข้าชมและจุดขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบนของอาคาร


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


โครงสร้างของอาคารเมื่อมองมาจากบริเวณลานจอดรถ


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว อาคารอะโตเมียม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       อาคารอะโตเมียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

                       (Atomium Building, Brussels , Belgium)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (18-65 ปี) ราคา 15 ยูโร / ผู้สูงอายุ (66+ปี) ราคา 13 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 8 ยูโร

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00 น. – 18:00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม

                       โทรศัพท์ : (+32) 2-475-47-75

                       เว็บไซต์ : https://www.atomium.be/Home/Index

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/

                                        เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/

                                        เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles

                                        เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ