สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

  • อ่าน (2,939)
  • By Webmaster
  • 16:19:24 | 17 ธ.ค. 2562

สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

Jubilee Park, Brussels, Belgium


ลานกว้างด้านหน้าประตูชัย

             สวนสาธารณะจูบิลี่ (Jubilee Park) พื้นที่สีเขียวขนาด 74 เอเคอร์แห่งนี้ คือสวนสาธารณะที่แวดล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ อนุสรณ์สถาน สถาปัตยกรรม อันโดดเด่นในเมืองบรัสเซลส์ มีลานกิจกรรมที่ใช้สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญของเมือง นับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว ที่เหมาะต่อการมาเดินเล่นชมสถานที่น่าสนใจ ท่ามกลางบรรยากาศชวนสบายใจของสวนสาธารณะ


สวนจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม


ประวัติ


สถาปัตยกรรมของประตูชัยเมืองมองจากระยะไกล

             สวนสวนสาธารณะจูบิลี่ (Jubilee Park) ประวัติศาสตร์ของสวนจูบิลี่เริ่มขึ้นในปี 1852 จากความต้องการสร้างพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับกองทหารรักษาการณ์ ทางการเมืองบรัสเซลส์จึงได้เลือกพื้นที่ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นที่ตั้งของสวนจูบิลี่ เป็นจุดหลักในการสร้าง โดยช่วงปี 1852 – 1856 ได้มีการปรับระดับพื้นดิน ติดตั้งท่อระบายน้ำทิ้ง การปลูกพันธุ์กล้าไม้หลายชนิดตลอดทั่วพื้นที่ โดยหลังจากเบลเยียมได้รับอิสระในการปกครองเมืองของตัวเองจากเหตุการณ์ปฎิวัติเบลเยียมในปี 1830 พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2 (King Leopold 2) ก็ได้สั่งให้สร้างสวนสาธารณะจูบิลี่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การประกาศอิสรภาพของประเทศเบลเยียม และใช้เป็นสถานที่จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปปี 1888 กับ ปี 1897


ซุ้มประตูทั้ง 3 ช่องของประตูชัย

           โดยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของสวนคงหนีไม่พ้น ประตูชัย (Parc du Cinquantenaire) ที่ดูแลการสร้างโดยสถาปนิกโจเซฟ บอร์โดซ์ (Joseph Bordian) ซึ่งตอนแรกนั้นประตูชัยมีเพียงอาคารสองหลังที่เป็นเหมือนปีกสมมาตรซึ่งคั่นด้วยเสากลมคู่ที่มีซุ้มประตูเดี่ยวอยู่ตรงกลาง ก่อนที่จะต้องใช้เวลาอีกกว่า 25 ปี ประตูชัยฉบับสมบูรณ์แบบที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันจะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งประตูชัยแห่งนี้คือตัวแทนของการคะคานอำนาจระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล โดยหลังจากเสร็จไม่ทันวันครบรอบ 50 ปี ที่ประเทศได้อิสรภาพ พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2 ก็ต้องการให้เสร็จภายในวาระครบรอบ 75 ปี แต่รัฐบาลรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องใช้เงินทุนของประเทศจำนวนมหาศาลหมดไปกับการสร้างประตูชัย และกว่าปัญหาคาราคาซังนี้จะได้รับการแก้ไข ด้วยการที่พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2ได้ออกเงินส่วนพระองค์ รวมกับเงินคงคลังในทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นทุนเพื่อให้โครงการนี้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ สถาปนิกโจเซฟ บอร์โดซ์ ก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว งานนี้จึงไปตกอยู่ที่ สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชาร์ลส์หลุยส์ (Charles Girault) ที่เปลี่ยนการออกแบบจากซุ้มประตูเดี่ยว มาเป็นประตูชัยที่แบ่งออกเป็นสามส่วนที่มีสัดส่วนเท่ากันทั้งหมด โดยใช้เวลาในการสร้าง 8 เดือน กับคนงานทั้งหมด 450 คนที่ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ประตูชัยเวอร์ชั่นล่าสุดก็ได้รับการเปิดใช้งานในวันที่ 24 กันยายน 1905 ปีวาระครบรอบ 75 ปีการได้รับอิสรภาพของประเทศเบลเยียมพอดี เป็นประตูชัยทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่ล้อมด้วยปีกอาคารทรงสี่เหลี่ยมสำริด ความยาวรวม 30 เมตร สูง 45 เมตร ด้านบนของซุ้มประตูตรงกลางจะติดตั้งประติมากรรมรถม้าลากที่มีคนยืนถือธงประจำชาติ ทำจากทองสำริดอย่างดี และประติมากรรมที่เป็นตัวแทนของจังหวัดต่างๆ บริเวณเชิงโค้งของประตูชัย ส่วนปีกอาคารสองข้างจะแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง


ประติมากรรมรถม้าลากพร้อมผู้โบกธงประจำชาติที่ติดตั้งอยู่ด้านบนสุดของประตูชัย

 
ประติมากรรมที่ใช้เป็นตัวแทนจังหวัดต่างๆ ในประเทศเบลเยียม

           โดยห้องโถงฝั่งเหนือสุดจะเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร (Royal Museum of the Armed Forces and Military History) พิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากงานแสดงประวัติศาสตร์ทางทหารในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ปี 1910 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างสูง จึงมีการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวรที่วัดคาทอลิกซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากสวนมากนัก ก่อนที่จะถูกย้ายมาไว้ตรงห้องโถงของประตูชัยในปี 1923 ไฮไลท์ของที่นี่คือส่วนจัดแสดงวัตถุทางการทหารกว่า 900 ชิ้น ทั้งชุดเครื่องแบบทางทหาร ยานพาหนะ อุปกรณ์ที่เคยถูกนำไปใช้ในการทำสงครามจริง มีหอการบิน (Aviation Hall) ซึ่งมีคอลเลกชั่นเครื่องบินทางการทหาร และพลเรือนย้อนหลังไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 20

           มาที่ทิศใต้ของประตูชัยจะเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ (Royal Museum of Art and History) ที่มีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์จากยุคดึกดำบรรพ์, โบราณวัตถุจากทวีปเอเชีย, คอลเลกชั่นศิลปะการตกแต่งในยุโรปตั้งแต่ยุคกลางถึงศตวรรษที่ 20 และบริเวณใกล้เคียงยังมีพิพิธภัณฑ์รถโบราณ (Autoworld) ซึ่งมีรถยนต์แบรนด์ยุโรปและอเมริกากว่า 250 คันที่ผลิตขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงปี 1990 มาที่ด้านหัวมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะจะมีมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงบรัสเซลส์ซึ่งนอกจากเป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของผู้นับถืออิสลามในเมืองบรัสเซลส์แล้ว ยังใช้เป็นที่ทำการของศูนย์วัฒนธรรมแห่งเบลเยียมและศูนย์วิจัยอิสลามที่คอยให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิมที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองบรัสเซลส์อีกด้วย และด้านหน้าของประตูชัยจะมีน้ำพุที่มีรูปแบบการปล่อยสายน้ำอย่างสวยงาม ทั้งลานกว้างของที่นี่ยังถูกใช้เป็นพื้นที่จัดงานอีเว้นท์สำคัญของเมืองหลายงาน


ทางเดินในสวนสาธารณะที่ขนาบด้วยต้นไม้สูงใหญ่


ม้านั่งในสวนสาธารณะ

           โดยส่วนพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะก็ดีงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายในสวน เพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ หลากสายพันธุ์ ผ่านการออกแบบภูมิสถาปัตย์สไตล์ฝรั่งเศส (French Formal Garden) ซึ่งเป็นการออกแบบพื้นที่สีเขียวโดยตั้งอยู่บนฐานของความสมมาตร มีพื้นที่นั่งพักผ่อน หย่อนใจ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวในทุกช่วงของระยะเดินพอเหนื่อย ท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมด 74 เอเคอร์ ที่ชวนสบายใจจากทัศนียภาพสบายตา บรรยากาศที่ร่มรื่น และเปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เยี่ยมชมกันตลอดทั้งวัน


รอแบร์ ชูมานรัฐบุรุษผู้มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสหภาพยุโรป


ประติมากรรมน่าสนใจในสวนสาธารณะ

 
ประติมากรรมน่าสนใจในสวนสาธารณะ


ทางรถวิ่งใต้สวนสาธารณะ


สนามหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะ


การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์

             รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที

             - รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html

             - รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en


การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังสวนจูบิลี่

             - รถยนต์ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังสวนจูบิลี่ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที

             - รถไฟ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ ให้ขึ้นรถไฟสาย 1 หรือ สาย 5 ไปลงที่สถานี Schuman Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 250 เมตร ก็จะถึงสวนจูบิลี่ รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที


เวลาเปิด-ปิดทำการ


บรรยากาศอันร่มรื่นในสวนสาธารณะ

             สวนสาธารณะจูบิลี่ เปิดตลอดเวลา

             พิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09:00 น. – 17:00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.klm-mra.be/D7t/

             พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ วันอังคาร-วันศุกร์ เปิดเวลา 09:30 น. 17:00 น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10:00 น. – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.artandhistory.museum/

             พิพิธภัณฑ์รถโบราณ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 10:00 น. – 18:00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.autoworld.be/onthaal


อัตราค่าเข้าชม


โซนนั่งพักผ่อนหย่อนใจบริเวณประตูชัย

             สวนสาธารณะจูบิลี่ เข้าชมฟรี

             พิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร ผู้ใหญ่ 10 ยูโร (19 ปีขึ้นไป) / นักเรียน-นักศึกษา-ข้าราชการ 8 ยูโร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.klm-mra.be/D7t/

             พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ ค่าเข้าชมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ยูโร – 20 ยูโร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการเข้าชม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.artandhistory.museum/

             พิพิธภัณฑ์รถโบราณ ผู้ใหญ่ 12 ยูโร / ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 10 ยูโร / นักเรียน นักศึกษา และผู้พิการ 9 ยูโร / เด็ก (6-11ปีเข้าชมฟรี) / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.autoworld.be/onthaal


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


ทางเดินที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะ


ต้นไม้เก่าแก่ในสวนสาธารณะ


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว สวนสาธารณะจูบิลี่ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

                       (Jubilee Park, Brussels , Belgium)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : สวนสาธารณะจูบิลี่ เข้าชมฟรี ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวภายในสวนจะมีค่าเข้าชมที่แตกต่างกันไป

                       เวลาเปิด-ปิด : สวนสาธารณะจูบิลี่ เปิดให้เข้าชมตลอดเวลา ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวภายในสวนจะมีช่วงเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกันไป

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : -

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/

                                        เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/

                                        เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles

                                        เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อ่านต่อ

หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน

อ่านต่อ

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ

อ่านต่อ

ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า

อ่านต่อ

จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส

อ่านต่อ

โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน

อ่านต่อ

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย

อ่านต่อ

ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์

ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ