พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (3,329)
  • By Webmaster
  • 17:02:48 | 12 ธ.ค. 2562

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany


บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ

           พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Schokoladenmuseum Köln) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองโคโลญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) บริเวณท่าเรือไรโน (Rheinau harbour) ไม่ไกลจากมหาวิหารโคโลญ พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของช็อกโกแลตตั้งแต่แรกเริ่มจากการปลูกเมล็ดโกโก้ไปจนถึงกระบวนการผลิตช็อกโกแลตในโรงงาน รวมถึงวัฒนธรรมและของสะสมของแต่ละท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ น้ำพุช็อคโกแลตความสูงราวสามเมตรนอกจากนี้ยังมีส่วนของคาเฟ่และร้านขายช็อกโกแลต ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติของช็อคโกแลตและขนมที่ทำจากช็อคโกแลตอันแสนอร่อยอีกด้วย


แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum) เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

ประวัติ

           แฮนส์ อิมฮอฟฟ์ (Hans Imhoff) ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต เขามีความหลงใหลในการผลิตช็อกโกแลต และมีความฝันว่าอยากจะสร้างพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่มีน้ำพุช็อกโกแลตไหลริน และแล้วฝันของเขาก็เป็นจริง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1993 หลังจากการก่อสร้างมาเป็นระยะเวลา 13 เดือน นับเป็นเกียรติแห่งประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์เยอรมนีที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้

           ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมล็ดโกโก้และช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตราวห้าพันปีก่อนจนถึงการผลิตและแปรรูปช็อกโกแลตในปัจจุบันบนเนื้อที่ราว 4,000 ตารางเมตร โดยในส่วนจัดแสดงประกอบไปด้วย สวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้นซึ่งเป็นต้นกำเนิดของต้นโกโก้ ส่วนจัดแสดงวัฒนธรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของโคลัมเบียในอเมริกากลาง ชุดเครื่องลายคราม เครื่องเงิน และเครื่องจักรจากยุคอุตสาหกรรม ขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตที่นักท่องเที่ยวจะได้รู้วิธีการขึ้นรูปช็อกโกแลตทั้งแบบใช้เครื่องจักรและฝีมือคน

           จุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์คือน้ำพุช็อกโกแลตความสูงสามเมตรที่มีช็อกโกแลตยี่ห้อลินด์ (Lindt) อันโด่งดังไหลรินลงมาดั่งความฝันที่เป็นจริงของแฮนส์ อิมฮอฟฟ์ ปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ราวหกแสนคนต่อปี นับเป็นสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเมืองโคโลญ


น้ำพุช็อกโกแลตเป็นแลนด์มาร์กของพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต


บริเวณสวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้น


ต้นไม้ในเขตป่าร้อนชื้นที่ปลูกอยู่ในบริเวณสวนจำลอง


บริเวณส่วนจัดแสดงการแปรรูปจากเมล็ดโกโก้เป็นช็อกโกแลต


เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตช็อกโกแลต 


กระบวนการทำงานของเครื่องจักรและแม่พิมพ์ช็อกโกแลต


ส่วนจัดแสดงร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19


ด้านในร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19


บริเวณส่วนจัดแสดงประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลตยี่ห้อดัง


ด้านข้างโถงทางเดินจัดแสดงภาพเขียนและโปสเตอร์ในอดีต


ช็อกโกแลตที่ผลิตออกมาเป็นสินค้ายี่ห้อดัง
 

การเดินทางจากสนามบินโคโลญบอนน์ (Cologne Bonn Airport) ไปยังสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)

             - รถยนต์ (Car) จาก Cologne Bonn Airport ไปยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 161 ที่สถานีรถประจำทางบริเวณสนามบิน ไปลงยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถไฟสายสีเขียวที่สถานี Köln/Bonn Flughafen ภายในสนามบิน จากนั้นลงที่สถานี Cologne Central Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

             หมายเหตุ ชื่อสถานีรถไฟกลางโคโลญนั้นมีชื่อเรียกหลากหลาย โดยชื่อที่เป็นทางการและนิยมเรียกกัน ได้แก่

                    1. Köln Hauptbahnhof เป็นชื่อทางการในภาษาเยอรมัน

                    2. Cologne Central Station / Cologne Main Railway Station เป็นชื่อทางการในภาษาอังกฤษ

                    3. Dom Hauptbahnhof หมายถึง สถานีโบสถ์ เพราะสถานีติดกับมหาวิหารโคโลญ

การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)ไปยัง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum)

             - รถยนต์ (Car) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 133 ไปลงยังป้าย Köln Schokoladenmuseum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Cologne Central Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีม่วง ลงสถานี Heumarkt และเดินต่อไปยัง ไปยัง Cologne Chocolate Museum ประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

             - เดิน (Footpath) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           ตามปกติจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00 น. – 18:00 น.

           แต่ในช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม และเดือนพฤศจิกายน จะปิดทุกวันจันทร์

           ในช่วงคริสต์มาสจะมีเวลาเปิด - ปิด ดังนี้

                24 - 25 ธันวาคม พิพิธภัณฑ์ปิด

                26 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 18:00 น.

                31 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 17:00 น.

 

อัตราค่าเข้าชม

           ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro

           เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro

           เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม

           นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro

           ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro

           นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro

           ตั๋วครอบครัว : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี)


น้ำพุช็อกโกแลตตั้งอยู่บริเวณกำแพงกระจกที่มองเห็นแม่น้ำไรน์

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ต้องเดินข้ามสะพาน Drehbridge ไป


           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Cologne Chocolate Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

                       (Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro

                                               เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro

                                               เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม

                                               นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro

                                               ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro

                                               นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro

                                               ตั๋วครอบครัว (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี) : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro

                        วลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์

                        ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                        สถานที่ตั้ง : เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

                        โทรศัพท์ : (+49) 221 931888 - 0

                        ว็บไซต์ : https://www.schokoladenmuseum.de/en/      

                        ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather

                                         เว็บไซต์ทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne.de

                                         เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne-tourism.com/ 

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

โบสถ์ และมหาวิหาร อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ล้วนสร้างขึ้นจากความเชื่อ และความศรัทธา บางสถานที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางสถานที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดผลงานทางสถาปัตยกรรม และประติมากรรมออกมาได้อย่างงดงาม 10 โบสถ์และมหาวิหารที่ PALANLA จะพาไปชมในวันนี้ ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีชื่อเสียงที่สุด

อ่านต่อ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อ่านต่อ

หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน

อ่านต่อ

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ

อ่านต่อ

ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า

อ่านต่อ

จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส

อ่านต่อ

โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน

อ่านต่อ

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย

อ่านต่อ

ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์

ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ