7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,570)
  • By Webmaster
  • 17:25:31 | 29 ม.ค. 2567

7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น

Top 7 Travel Destinations in Nagoya, Aichi, Japan

           อดีตเมืองที่เคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นสำคัญของบรรดาโชกุนที่เคยปกครองประเทศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ และเป็นจุดบัญชาการการรบสำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชูบุ มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของประเทศ ปัจจุบันเมืองนาโกย่าเป็นฐานการผลิต และส่งออกอุตสาหกรรมด้านรถยนต์, เครื่องจักร, ยาวอวกาศ, ฯลฯ ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และมีท่าเรือสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดของประเทศ

           ทำให้นาโกย่าเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ แหล่งช้อปปิ้ง ที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยระบบคมนาคมสาธารณะที่มีคุณภาพ และสะดวกสบาย เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวที่สุด


แผนที่ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า

 


แผนที่สถานีรถไฟในเมืองนาโกย่า

 


1. อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล (JR Central Building)

           อาคารที่สะท้อนถึงคุณภาพของระบบขนส่งสาธารณะหลักของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี เพราะภายในมีสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ต่อชั้นมากที่สุดในโลก แต่ละวันมีผู้มาใช้บริการที่สถานีเฉลี่ยมากถึงวันละ 1,140,000 คนต่อวัน ถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของเมือง และภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง ศูนย์การค้า โรงแรม จุดชมวิว ฯลฯ ส่วนตัวสถาปัตยกรรมของอาคารจะเป็นทรงแฝดที่เชื่อมต่อถึงกันได้สะดวก และนับเป็นอาคารที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของเมืองนาโกย่า และสูงที่สุดอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่ภายในอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ทาวเวอร์ จะมีเวลาเปิด-ปิดทำการที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยัง อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

             - รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า เลือกคันที่ไป Nagoya Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที ตัวสถานีจะอยู่ในพื้นที่ของอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล

             - รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ตัวสถานีจะอยู่ในพื้นที่ของอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล

พิกัด GPS : 35°10'15.1"N 136°52'58.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=744


2. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

           ปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นนี้ คือสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า และสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี ถึงแม้สิ่งก่อสร้างแทบทุกหลังภายในปราสาทจะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังเสียหายจากกาลเวลายาวนานนับตั้งแต่สมัยอดีต และภัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจของคนในพื้นที่ ทำให้การบูรณะปราสาทนั้น ก็ยังคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ (Edo-Jidai,1610) ได้แบบไม่ผิดเพี้ยน ทั้งตัวปราสาทหลัก ป้อมปราการปราสาทที่กระจายตัวอยู่ตามทิศต่างๆ ของพื้นที่ พระราชวังฮอมมารุ ฯลฯ ท่ามกลางพื้นที่ธรรมชาติสบายตาของต้นไม้ สายน้ำ สวนหิน ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินักท่องเที่ยวจะสามารถเห็นต้นซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งตัดกับสถาปัตยกรรมอัดงดงามของตัวปราสาท เหมาะแก่การมาเยือนเวลามาที่เมืองนาโกย่าเป็นที่สุด

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุ 15 ปีลงไป เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 น. – 16:30 น. (ปิดทำการวันที่ 29ธ.ค. – 1ม.ค.ของทุกปี)

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังปราสาทนาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที

             - รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 14 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่ป้าย Shiyakusho Bus Stop แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Sakuradori Line ไปลงที่สถานี Hisayaodori Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Meijo Line เพื่อไปลงที่สถานี Shiyakusho Station แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า

พิกัด GPS : 35°11'08.4"N 136°54'05.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทนาโกย่า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=735


3. อาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21 Building)

           อาคารที่เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะซึ่งให้โอกาสเยาวชนได้มาแสดงศักยภาพของตัวเองผ่านลานกิจกรรมที่เตรียมไว้ให้ มีสวนสาธารณะให้มานั่งพักผ่อนกันตามสะดวก และเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า ตลอดจนสถานีขนส่งสาธารณะที่มีเส้นทางรถให้เลือกหลายสาย โดยด้านบนของอาคารจะมีสถาปัตยกรรมร่วมสมัยรูปทรงวงรี ที่ใช้วัสดุหลักเป็นกระจกใส และเสริมความแข็งแรงด้วยโครงเหล็กคุณภาพดีด้านใต้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ยาวอวกาศน้ำ (Spaceship-Aqua) เพราะโครงสร้างที่คล้ายยาวอวกาศกำลังลอยอยู่เหนืออาคาร ในส่วนของพื้นที่ใช้งานนั้นก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีลานกระจกสูงจากพื้นดิน 14 เมตร ที่เปิดให้ขึ้นไปเดินเล่นได้ฟรี ส่วนตรงกลางของลานจะมีสระน้ำเรียบใส ที่ช่วยปรับลดอุณหภูมิของพื้นที่โดยรอบอาคารโอเอซิส 21 ทำให้ลดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ด้วย โดยอาคารแห่งนี้ ถือเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งที่มีผู้มาใช้บริการตลอดทั้งวัน

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ยาวอวกาศน้ำ (Spaceship-Aqua) เปิดให้ขึ้นไปบนลานกระจกของยานได้เวลา 10:00 น. – 21:00 น. ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของอาคารจะมีช่วงเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ตรวจสอบเวลาทำการในส่วนต่างๆ ของอาคารโอเอซิส 21 อย่างละเอียดได้ที่ https://www.sakaepark.co.jp/en/

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปศูนย์การค้าโอเอซิส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Sakae Station ตัวสถานีจะอยู่บริเวณเดียวกับศูนย์การค้าโอเอซิส 21

พิกัด GPS : 35°10'15.3"N 136°54'34.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาคารโอเอซิส 21 ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=739


4. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya Science Museum)

           พิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมลูกโลกสีเงินขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปด้วยแห่งนี้ คือแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นแบบครอบคลุมทั้งเนื้อหาสาระ และความสนุกสนาน โดยตัวพิพิธภัณฑ์มีความโดดเด่นทั้งด้าน สถาปัตยกรรม สิ่งของที่จัดแสดงอยู่ภายใน สื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในแขนงต่างๆ มีนิทรรศการที่ออกแบบมาให้ผู้ชมต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการเรียนรู้ ช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ให้ความรู้สึกต่างจากพิพิธภัณฑ์ปกติไปอีกแบบ และเป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง บราเธอร์ เอิร์ธ (Brother Earth) ที่มีโปรแกรมการฉายปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์แบบเต็มตา ตลอดจนการปรับสื่อการเรียนรู้ที่ฉายอยู่บนจอสกรีนให้มีความเข้ากับเทศกาลสำคัญของโลกที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมรู้สึกอยากเรียนรู้ และสร้างความประทับใจ จนสมราคากับที่ถูกยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของเมืองนาโกย่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 400 เยน (เพิ่ม 400 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนชั้นมัธยมปลายและนักศึกษา ราคา 200 เยน (เพิ่ม 300 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนมัธยมต้นลงไปเข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้เข้าชมเวลา 09:30 น. – 17:00 น.

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที

             - รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 16 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่สถานี Hirokoji Fushimi Bus Stop แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า

พิกัด GPS : 35°09'53.6"N 136°53'57.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=743


5. วัดโอสึ คันนง (Osu Kannon Temple)

           วัดทางศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการสร้างปราสาทนาโกย่า ตามความต้องการของผู้ปกครองเมืองที่อยากให้มีพื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาประจำเมืองนาโกย่า โดยความน่าสนใจของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมสีแดงสดแซมด้วยสีทองของอาคารต่างๆ ที่อยู่ภายในวัด มีประติมากรรมองค์เทพเก่าแก่ และเป็นที่นับถือของชาวเมืองหลายองค์ และใต้ห้องโถงของวัดจะมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือโบราณเขียนด้วยลายมือทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีนเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น หรือคัมภีร์คำสอนของศาสนาพุทธ ฯลฯ และหากเดินไปด้านหลังของวัดก็จะพบย่านการค้าโอสุ แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ที่รวมสารพัดสินค้าน่าสนใจ มีร้านค้าท้องถิ่นอันมีเสน่ห์ ทำให้การมาที่วัดแห่งนี้ นอกจากจะได้มาสักการะขอพรแล้ว ยังได้เดินช้อปปิ้ง และหาของอร่อยกินกันได้อีกด้วย

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังวัดโอสึ คันนอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tsurumai Line เพื่อไปลงที่สถานี Osukan-Non Station ตัวสถานีจะอยู่บริเวณเดียวกับวัดโอสึ คันนง

พิกัด GPS : 35°09'35.3"N 136°53'58.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโอสึ คังนง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=737


6. ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine)

           ศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาชินโตนี้ ตั้งอยู่ในเขตที่มีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้มากที่สุดจุดหนึ่งของเมืองน่าโกย่า ทำให้มีความสงบ ร่มรื่น และช่วยขับเน้นความเรียบง่ายของตัวศาลเจ้าหลักที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบชินเม ซึ่งเป็นต้นตำหรับของสถาปัตยกรรมที่พบเห็นได้ตามศาลเจ้าทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น มีโบราณวัตถุสำคัญอย่างเสาโทริอิ รั้วโนบุนากะ ต้นการบูรอายุกว่า 1,000 ปี ฯลฯ และเป็นที่เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ คือสถานที่จัดเก็บดาบคุซานางิ (Kusanagi Sward) หนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ระดับตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะไม่มีการนำออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม แต่ก็ทดแทนกันด้วยพิพิธภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ที่จัดแสดงวัตถุโบราณเกี่ยวกับศาสนาชินโตและประวัติศาสตร์ของชาติกว่า 4,000 ชิ้น เรียกว่าเป็นโบราณสถานที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมจริงๆ

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่ส่วนพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน

เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Line เพื่อไปลงที่สถานี Atsuta Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู

พิกัด GPS : 35°07'32.0"N 136°54'32.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกูได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=738


7. สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Japan)


ขอบคุณภาพจาก www.legoland.jp

           จากของเล่นยอดฮิตตลอดกาลในท้องตลาด เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีสวนสนุกที่ออกแบบให้อยู่ในธีมปาร์คจากผลิตภัณฑ์ของตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็น กับตัวต่อพลาสติกหลากสีสันที่สร้างให้เป็นได้ทุกสิ่ง ตามความคิดสร้างสรรค์ผู้เล่น โดยทุกคนรู้จักกันในชื่อเลโก้นั่นเอง ซึ่งสวนสนุกเลโก้แลนด์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่านี้ ถือเป็นสวนสนุกแห่งที่ 8 ในบรรดาสวนสนุกที่บริษัทสร้างขึ้นมาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งสวนสนุกเลโก้แลนด์ ประจำประเทศญี่ปุ่นนี้ มีพื้นที่กว่า 93,000 ตารางเมตร ภายในประกอบไปด้วยโรงแรม เครื่องเล่น, สวนน้ำ, ประติมากรรมที่จำลองแลนด์มาร์กต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น เช่น โตเกียว ทาวเวอร์, ปราสาทนาโกย่า ฯลฯ ซึ่งใช้เลโก้เป็นวัสดุในการประกอบทั้งหมด มีร้านขายเลโก้ที่มีสินค้าลิมิเต็ดให้เลือกหลายชิ้น ทั้งตัวเลโก้ที่สร้างตามตัวละครในภาพยนตร์ชื่อดัง ตัวเลโก้ที่ไม่มีการผลิตออกมาแล้ว ฯลฯ ทำให้ที่นี่เป็นสวนสนุกที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้ม และความสุขของบรรดาผู้เข้าชมที่หนาแน่นไม่แพ้สวนสนุกแห่งอื่นของประเทศเลยทีเดียว

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (13+) ราคา 6,900 เยน / เด็กอายุ 13 ปี ลงไป 5,300 เยน

เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ข้อมูลการเดินทาง :

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง สวนสนุกเลโก้แลนด์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 33 นาที

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Aonami Line เพื่อไปลงที่สถานี Kinjofuto Station แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง สวนสนุกเลโก้แลนด์

พิกัด GPS : 35°03'02.2"N 136°50'37.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสนุกเลโก้แลนด์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=740
 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
  
 https://www.accuweather.com/

- เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า 
   https://www.nagoya-info.jp/th/information/

- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)     


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น

- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้

อ่านต่อ

หาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด

อ่านต่อ

ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้

อ่านต่อ

เกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา

อ่านต่อ

เกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล

อ่านต่อ

เกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้

เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"

อ่านต่อ

ภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย

อ่านต่อ

แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ