เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์

  • อ่าน (4,336)
  • By Webmaster
  • 14:30:06 | 17 ต.ค. 2562

เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์

8 Day Caribbean-Western Symphony of the Seas

             เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) ดาวเด่นแห่งท้องทะเลลำล่าสุดของโลก เพราะเป็นเรือสำราญที่ถูกยกให้เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ถือเป็นโครงการใหญ่ของบริษัทรอยัล แคริบเบียน อินเตอร์เนชั่นแนล (Royal Carribban International) บริษัทเดินเรือสำราญขนาดใหญ่สัญชาติอเมริกันที่ถือครองส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจเดินเรือทั่วโลกถึง 17 เปอร์เซ็น มีภาพจำสำคัญคือเรือสำราญทุกลำภายในเครือของบริษัทจะมีฉายาต่อท้ายชื่อเรือว่า “ออฟ เดอะ ซีส์” (of the Seas) เสมอ โดยผลงานชิ้นเอกลำล่าสุดของบริษัทอย่าง เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ได้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2018 พร้อมเส้นทางเดินเรือแบบจัดเต็ม ครอบคลุมไปทั่วแถบทวีปยุโรป และอเมริกาทั้งหมด


ความน่าสนใจของเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas)


โครงสร้างภายนอกของเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์

             เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) เป็นอภิมหาโปรเจ็กต์การสร้างเรือสำราญในชั้น Oasis-Class ใช้งบประมาณการก่อสร้างไปถึงประมาณ 1.35 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ เริ่มลงมือสร้างเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2015 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2018 โครงสร้างของเรือมีความยาว 362 เมตร ความสูง 18 ชั้น น้ำหนักโดยรวม 230,000 ตัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6,870 คน สร้างขึ้นโดยบริษัทอู่ต่อเรือ STX อู่ต่อเรือรายใหญ่ที่รับสัมปทานการก่อสร้างเรือสำราญจากบริษัทเดินเรือสำราญทั่วโลก


สไลเดอร์ที่มีความสูงตั้งแต่สระน้ำไปยังชั้นบนสุดของตัวเรือ

           โดยเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ถูกจัดให้เป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันทีที่เปิดตัว แต่ไฮไลท์ไม่ได้อยู่เพียงความอลังการจากโครงสร้างของตัวเรือเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่ถูกยกให้เป็นที่สุดของโลกอีกหลายอย่างทีเดียว

 
พื้นที่ชั้นบนสุดของเรือสำราญจะมีสวนน้ำ สนามเด็กเล่น เตียงอาบแดด ฯลฯ ไว้บริการผู้โดยสารบนเรือ


สระน้ำบนเรือสำราญมีให้เลือกทั้งสระสำหรับเด็ก สระน้ำอุ่นแช่ตัว ฯลฯ

           เริ่มจาก Entertainment Complex บนเรือสำราญที่ใหญ่ระดับศูนย์การค้าอับดับต้นๆ ของโลก เพราะมีทั้งสวนน้ำขนาดยักษ์ซึ่งประกอบด้วยสระน้ำขนาดใหญ่หลายโซน สไลเดอร์น้ำที่ความสูงกว่า 10 ชั้นทอดไปยังสระน้ำ บ่อน้ำร้อนในร่มสไตล์อ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่


ร้านอาหารบริเวณสวนสาธารณะใจกลางลำเรือ

           ส่วนใจกลางเรือจะเป็นสวนสาธารณะร่มรื่นขนาดใหญ่ แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวดูสบายตาสำหรับผู้โดยสารที่เบื่อวิวทะเล และพื้นที่ใกล้เคียงยังมีลานแสดงกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ขนโชว์ระดับโลกมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชมกันแบบไม่มีซ้ำ รวมไปถึงคาสิโน โรงละคร โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ที่แต่ละแห่งมีคุณภาพทั้งในเรื่องขนาด เทคโนโลยี การบริการ ระดับ 5 ดาวทั้งหมด

 
ห้องอาหารและภัตตาคารหลากสไตล์ภายในเรือสำราญ

           และหนึ่งในเรื่องที่ผู้โดยสารบนเรือให้ความใส่ใจกันมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน ซึ่งเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะภายในเรือสำราญมีห้องอาหารหลักไว้รองรับถึง 4 แห่ง คือ The Grand, American Icon Grille, Chic, Silk ให้ผู้โดยสารได้เลือกกินกันแบบไม่มีเบื่อ และยังมีบริการรูมเซอร์วิส สำหรับคนที่ต้องการรับประทานภายในห้องด้วย


เครื่องรีฟิลน้ำดื่มอัตโนมัติของเรือสำราญ

           โดยเรื่องของอาหารจะมีออฟชั่นเสริมอีกสองสามอย่าง เช่นจ่ายเพิ่ม 99 ดอลล่าร์ เพื่อเลือกร้านอาหารที่สามารถเข้าไปในกินภายในเรือสำราญได้อีกสามร้าน หรือเหมาจ่ายเพื่อรับแก้วที่สามารถรีฟิลน้ำอัดลมได้ไม่อั้นทั้งทริป นอกจากนี้ยังมีส่วนของภัตตาคารหรูที่ขนบรรดาเชฟระดับโลกมารังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้กินสำหรับผู้โดยสารสายชิมด้วย ตลอดจนคาเฟ่น่ารักๆ อีกหลายร้านที่กระจายตัวอยู่รอบเรือ ให้ไปหาเครื่องดื่มอร่อยๆ หรือมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้ตามสบาย


เส้นทางล่องเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์
(Symphony of the Seas) แถบตะวันตกของมหาสมุทรแคริบเบียน


บริเวณจุดจอดหลักของเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ที่พอร์ท ไมอามี่


บรรยากาศยามเช้าขณะเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์เข้าเทียบท่าที่พอร์ท ไมอามี่

           นับตั้งแต่เปิดให้บริการ เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) ได้ล่องไปตามเส้นทางแถบคาบสมุทรของหลายทวีป ทั้งยุโรป และอเมริกา ซึ่งเส้นทางที่ Palanla ได้เอามาฝากกันวันนี้คือ 8 Day Caribbean-Western Symphony of the Seas โซนแถบตะวันตกของทะเลแคริบเบียนที่กินพื้นที่ตลอดฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเม็กซิโก ไปจนถึงด้านทิศใต้ของทวีปอเมริกาใต้ และเอเมริกากลาง


ตารางแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการล่องเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์


เส้นทางตลอด 8 วันของการล่องเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ในแถบตะวันตกของทะเลแคริบเบียน


Day 1 : ขึ้นเรือที่พอร์ท ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา (Port Miami, Florida, USA)

           เส้นทางการเดินเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) ในแถบทะเลแคริบเบียนส่วนใหญ่ (Royal Caribbean Int.) จะเริ่นต้นขึ้นเรือจากพอร์ท ไมอามี่ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นหนึ่งในท่าเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน พอร์ท ไมอามี่ แห่งนี้ถือเป็นจุดจอดเรือประจำของเรือสำราญระดับโลก และแน่นอนว่าเป็นจุดพักหลักของเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ด้วย ซึ่งขั้นตอนการขึ้นเรือสำราญ ก็คล้ายการเข้าพักในโรงแรม หรือเช็กอินตามสนามบิน

           แต่ที่สะดวกสบายคือนักท่องเที่ยวสามารถทำการเช็กอินออนไลน์ได้เลยผ่านแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการของเรือ ที่ช่วยประหยัดเวลา ตอนไปถึงจุดขึ้นเรือได้เยอะทีเดียว แต่ก็ควรไปก่อนเวลาอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมง เผื่อเกิดเหตุขัดข้องบางอย่าง เนื่องจากในทริปจะมีผู้โดยสารหลายพันคน โดยทริปการล่องเรือสำราญในครั้งนี้นั้น เรือจะออกจากท่าเวลา 16:30 น. และขั้นตอนในการเช็กอินคร่าวๆ ก็มีดังนี้

           1. เตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) กับ ใบยืนยันการจอง (SetSail Pass) เพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่บริเวณ Cruise Terminal และจะมีการสแกนกระเป๋าทุกใบของผู้โดยสาร แล้วเข้าไปเช็กอินกับพนักงานต้อนรับที่รออยู่ในเคาน์เตอร์

           2. หลังจากทำการเช็กอินจากเจ้าหน้าที่เรียบร้อย ผู้โดยสารจะได้รับบัตรเก็บข้อมูลการใช้บริการต่างๆ ภายในเรือ (SeaPass Card) คนละ 1 ใบ

           3. เข้าสู่พื้นที่ด้านในตัวเรือ และมีการตรวจทางเอกสารต่างๆ จากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

           4. นำสิ่งของต่างๆ ที่พกมาผ่านเครื่องสแกนอีกครั้ง ก่อนเข้าไปยังพื้นที่ภายในเรือสำราญ แล้วเดินเข้าห้องพักได้ตามอัธยาศัย


Day 2 : บนเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติก (Caribbean Sea, Atlantic Ocean)


สไลเดอร์ อ่างจากุชชี่ เซิฟบอร์ด ห้องปิงปอง ที่อยู่บริเวณดาดฟ้าของเรือ

           เนื่องจากเส้นทางการล่องเรือไปยังจุดแวะพักที่เกาะโรเทน (Roten) มีระยะทางค่อนข้างยาวไกล การเดินทางวันที่สองกลางทะเลแคริบเบียนจึงกินระยะเวลาไปทั้งวัน และไม่มีการแวะพัก แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีในการปรับตัวให้คุ้นชินกับเรือสำราญ ซึ่งมีพื้นที่น่าสนใจรอให้ผู้โดยสารไปตระเวนทำกันมากมาย


โรงภาพยนตร์ เก้าอี้อาบแดดของเรือสำราญ

           ทั้งกิจกรรมสันทนาการ โชว์การแสดงต่างๆ ที่ทางเรือสำราญเตรียมมา สวนน้ำขนาดใหญ่ที่มีอยู่บนดาดฟ้าของเรือ โรงภาพยนตร์ คาสิโน ฯลฯ ทำให้เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้เป็นวันที่หมดไปกับการตระเวนท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ทั่วเรือ


Day 3 : เกาะโรเทน เมืองโรเทน สาธารณรัฐฮอนดูรัส (Roatan, Roatan City, Honduras Republic)

           จุดจอดแรกของทริปล่องเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ เริ่มขึ้นเวลา 08:00 น. ที่เกาะเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวฮอนดูรัส ประเทศฮอนดูรัส เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และเป็นจุดแวะพักสำคัญของบรรดาเรือสำราญต่างๆ ที่ล่องอยู่ในแถบทะเลแคริบเบียน จุดเด่นของเกาะแห่งนี้คือมีแนวปะการังที่สวยงาม และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

           รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำกันหลายประเภท ทั้งการดำน้ำลึกดูปะการัง เดินชมสวนสวยๆ ตามแถบพื้นที่ของเกาะ หรือจะเที่ยวชมร้านค้าท้องถิ่นของคนในพื้นที่ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ของเกาะก็ได้ โดยการแวะจอดครั้งนี้มีเวลาให้ผู้โดยสารเที่ยวบนเกาะได้จนถึงเวลานัดหมายให้กลับขึ้นเรือตอน 18:00 น. 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะโรเทน ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=687


Day 4 : เกาะคอสตา มายา รัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก (Costa Maya, Yucatan, Mexico)

           เวลา 08:00 น. เช้าของวันที่ 4 เริ่มต้นทริปล่องกันที่จุดแวะพักอีกแห่งของเรืออย่าง เกาะคอสตา มายาสถานที่ท่องเที่ยวหลักของชายฝั่งทะเลแคริบเบียนที่ตั้งอยู่ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งนอกจากทะเลสีครามใสสะอาดแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมน่าสนใจให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารท้องถิ่นรสชาติต้นตำรับ เสียงเพลงของชาวเม็กซิโกที่ร้องรำทำเพลงกันตลอดทั้งวัน ร้านอาหาร El Faro ที่มีกุ้งมังกรวัตถุดิบชั้นดีของเกาะคอสตา มายา ที่พร้อมเอามาปรุงให้นักท่องเที่ยวได้ทานกันแบบสดๆ

           และพื้นที่ใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของซากอารยธรรมชาวเผ่ามายา (Chacchoben Maya Ruin) ที่จากตัวเกาะคอสตามายา แค่ขับรถเข้าเมืองมาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงแล้ว ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเต็มไปด้วยโบราณสถานสำคัญที่สะท้อนถึงอารยธรรมของชนเผ่ามายาอันเก่าแก่ และควรค่าแก่การศึกษาที่สุด โดยผู้โดยสารสามารถซื้อทัวร์เสริมพิเศษไปเที่ยวที่ซากอารยธรรมชาวเผ่ามายา (Chacchoben Maya Ruin) กับทางเรือสำราญได้ แล้วกลับมาขึ้นเรือตามนัดหมายเวลา 18:00 น.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ซากอารยธรรมชาวเผ่ามายา ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=689


Day 5 : เกาะโคซูเมล รัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก (Cozumel, Yucatan, Mexico)

           เริ่มต้นวันที่ 5 ตั้งแต่เวลา 07:00 น. เช้าซึ่งเป็นช่วงที่เรือจอดเทียบท่าที่เกาะโคซูเมล โดยเกาะแห่งนี้มีเสน่ห์ตรงที่พื้นที่ทางทะเลส่วนใหญ่ยังมีความเงียบสงบ และระบบนิเวศโดยรอบยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ดูงดงามแบบเรียบง่าย ไม่รกตาไปด้วยขยะพลาสติก และมีร้าน Bubba Cump Shrimp Co. ไอคอนสำคัญที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ (Forrest Gump) โดยเป็นร้านขายกุ้งกระป๋อง ซึ่งฟอร์เรสท์ ตัวละครหลักในเรื่องตั้งขึ้นมาตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักที่ตายไปในสงคราม โดยร้านจริงที่ตั้งอยู่ที่นี่นั้น นอกจากจะขายกุ้งกระป๋องแบบในภาพยนตร์แล้ว ยังมีของที่ระลึกต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้ได้เลือกซื้อกันด้วย

           และสถานที่ซึ่งพลาดไม่ได้อีกแห่งเวลามาที่รัฐยูกาตังคือ ชิเชนอิตซา (Chichen Itza) เขตโบราณสถานมรดกโลก ที่มีเอลกาสตีโย (El Castillo) วิหารพีระมิดที่เป็น 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วย โดยผู้โดยสารสามารถซื้อทัวร์เสริมพิเศษไปเที่ยวที่เขตโบราณสถานชิเชนอิตซา (Chichen Itza) ในราคา 145 ดอลล่าร์ กับทางเรือสำราญได้ โดยมีเวลานัดหมายกลับขึ้นเรืออยู่ที่ 18:00 น. เหมือนเช่นเคย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชิเชนอิตซา ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=688


Day 6 : บนเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติก (Caribbean Sea, Atlantic Ocean)


บรรยากาศบนดาดฟ้าของเรือสำราญที่มีทั้งสวนน้ำ พื้นที่ชมวิว เก้าอี้อาบแดด ฯลฯ

           หลังจากล่องไปทั่วทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเม็กซิโก เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) ก็ได้หันหัวเรือกลับมายังโซนอเมริกากลาง เพื่อไปยังจุดแวะพักสุดท้ายอย่างเกาะแนสซอ ซึ่งมีระยะทางค่อนข้างไกล เรือจึงใช้ระยะเวลาในการเดินทางกลางทะเลแคริบเบียนทั้งวัน


คาสิโน ห้องฟิตเนส นิทรรศการศิลปะ ร้านขายของที่ระลึกภายในเรือสำราญ

           ทำให้เป็นอีกหนึ่งวันที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาตามสถานที่น่าสนใจต่างๆ ของเรือ และพักผ่อนหลังจากตะลอนเที่ยวตามจุดแวะพักต่างๆ ของเรือมาหลายวัน และยังถือเป็นการเก็บแรงก่อนจะไปเที่ยวจุดแวะพักสุดท้ายของการล่องเรือสำราญอย่างเกาะแนสซอด้วย


Day 7 : เกาะแนสซอ เมืองแนสซอ ประเทศบาฮามาส (Nassau, Nassau City, Bahamas)

           จุดแวะพักสุดท้ายของเรือสำราญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 07:00 น. บาฮามาส ประเทศเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของทะเลแคริบเบียน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่จะอยู่ติดกับทะเล และเต็มไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยหลายแห่ง รวมถึงเกาะแนสซอที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงชื่อเดียวกันอย่างเมืองแนสซอนั่นเอง โดยเมืองนี้ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศบาฮามาส เพราะภายในเมืองมีย่านดาวน์ทาวน์ (Downtown) ที่มีร้านอาหาร ร้านค้า สถานบันเทิง สถาปัตยกรรมน่าสนใจหลายแห่ง

           ไม่ว่าจะเป็น อาคารรัฐสภา (Bahamian Parliament) สีพาสเทลน่ารัก เคเบิ้ล บีช (Cable Beach) ย่านที่เต็มไปด้วยหาดทรายสีทองสะดุดตา แอตแลนติส พาราไดซ์ รีสอร์ท (Atlantis Paradise Island) ที่ตั้งอยู่บนเกาะพาราไดซ์ ซึ่งตัวรีสอร์ทมีสถาปัตยกรรม และสีสันโทนพาสเทลที่ดูมีเอกลักษณ์ และเป็นแลนด์มาร์กหลักของแนสซอเลยทีเดียว โดยเมืองนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดประกวด Miss Universe 2009 อีกด้วย แต่ด้วยเวลานัดหมายขึ้นเรือที่ปรับเร็วขึ้นเป็นตอน 16:00 น. ทำให้หากอยากเที่ยวให้ครบทั้งเมืองออาจจะต้องทำเวลากันหน่อย เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้ตามเก็บกันหลายแห่งเลยทีเดียว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะแนสซอ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=686


Day 8 : สิ้นสุดทริปล่องเรือสำราญที่พอร์ท ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา (Port Miami, Florida, USA)

           สิ้นสุดทริปล่องเรือด้วยการกลับมาจอดเทียบท่าที่พอร์ทไมอามี่ตั้งแต่เวลา 06:00 น. เพื่อให้ผู้โดยสารได้มีเวลาทำกิจธุระต่างๆ ก่อนจะเช็คเอาท์ออกจากเรือโดยสวัสดิภาพ โดยวันนี้ผู้โดยสารจะผ่านขั้นตอนการเช็คเอาท์ ชำระค่าบริการส่วนต่างนอกจากที่รวมอยู่ในแพ็คเกจที่จองเอาไว้ให้เรียบร้อย และหากเป็นห้องพักระดับ Royal Suit ขึ้นไป สามารถนำกระเป๋าเดินทางลงไปในส่วนทางออกพิเศษซึ่งช่วยประหยัดเวลา และไม่ต้องรอต่อคิวกับผู้โดยสารคนอื่นภายในเรือด้วย


ราคาห้องพักภายในเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์
(Symphony of the Seas)

           ห้องพักภายในเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) มีทั้งหมด 2,747 ห้อง แบ่งออกไปหลายประเภท โดยราคาของห้องพักจะแตกต่างกันไปตามเส้นทางการเดินทางของเรือ และฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในห้องพักที่เราเลือกจอง ซึ่งห้องพักหลักๆ จะมีอยู่ 4 ประเภท


พื้นที่บริเวณด้านหลังสุดของเรือสำราญ

           1. ห้องพักแบบไม่มีหน้าต่าง (Interior) มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 13.8 - 18.02 ตารางเมตร

           2. ห้องพักแบบมีหน้าต่าง (Ocean View) ตัวห้องมีแค่ขนาด 16.6 ตารางเมตร แต่สามารถเห็นวิวสวยๆ ของทะเลแคริบเบียนจากตัวห้องพักได้ด้วย


ระเบียงจากห้องพักแบบ Ocean View ที่สามารถชมทัศนียภาพสวยๆ ที่เรือสำราญแล่นผ่านได้

           3. ห้องพักแบบมีระเบียง ห้องมีขนาด 16.9 ตารางเมตร ตัวระเบียงมีขนาด 5 - 7 ตารางเมตร มีทัศนียภาพจากระเบียงที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลือกได้ตามความชอบ


สิ่งอำนวยความสะดวกครบคันของห้องพักระดับรอยัลสวีท


เลานจ์พิเศษสำหรับผู้โดยสารที่พักห้องระดับรอยัลสวีท


ลิฟต์พิเศษสำหรับผู้โดยสารที่พักอยู่ในห้องระดับรอยัลสูท

           4. ห้องสวีท (Suites) เป็นห้องพักระดับหรูที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน มีไวไฟให้ใช้ฟรี เป็นห้องที่ตั้งอยู่ในมุมที่สามารถเห็นทัศนียภาพต่างๆ ทั้งภายในตัวเรือและนอกตัวเรือ อีกทั้งยังได้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษต่างๆ เพิ่มจากปกติไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเข้าห้องอาหารเพิ่มได้อีกสามห้อง การได้สิทธิเป็นคิวแรกเวลาต้องเข้าคิวทำธุระต่างๆ เกี่ยวกับเอกสาร หรือจองร้านอาหารเป็นต้น


สิ่งควรมีติดตัวเวลาอยู่บนเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์
(Symphony of the Seas)

             SeaPass Card : บัตรที่ใช้สำหรับผ่านเข้าไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเรือสำราญ และใช้ในการเปิด-ปิดประตูห้องพักของเราด้วย ทั้งตัวบัตรยังมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับสินค้า และบริการต่างๆ ที่ผู้โดยสารใช้ไประหว่างการล่องเรือตลอดทริป เพื่อความสะดวกต่อการเคลียร์ค่าใช้จ่ายหลังจากสิ้นสุดการล่องเรือ

             Muster Drill : กิจกรรมซ้อมเตรียมการในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นกิจกรรมที่กฎการเดินเรือสากลกำหนดเอาไว้ว่าผู้โดยสารทุกคนต้องเข้าร่วม

             Cruise Compass : หนังสือพิมพ์รายวันที่เอาไว้แจ้งข่าวสาร กิจกรรม ต่างๆ ตลอดจนจุดแวะพักของเรือในแต่ละวันอย่างละเอียด โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำมาวางเตรียมไว้ให้ล่วงหน้าหนึ่งวัน ที่ห้องพักของผู้โดยสารเสมอ

             Royal iQ : แอพพลิเคชั่นที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับทริปการล่องเรือของผู้โดยสาร และสามารถใช้จองบริการต่างๆ ภายในเรือ อย่างการจองรอบหนัง หรือจองที่นั่งในภัตตาคาร เป็นต้น


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           สกุลเงินหลักที่ใช้ชำระค่าบริการต่างๆ บนเรือ : ดอลล่าร์ (USD) 

           Royal IQ : แอปพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการของเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ที่สามารถดาวโหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android  

           คู่มือการเตรียมตัวล่องเรือสำราญอย่างละเอียด : https://www.2morrowexplorer.com/blogs/detail/symphony-of-the-seas-2

           เส้นทาง และราคาล่องเรือสำราญประจำปี 2019 : https://bit.ly/33GTu6H

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

นั่ง Hop-on Hop-off เที่ยวไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ไมอามี่เป็นเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา แบ่งออกเป็นไมอามี่แผ่นดินใหญ่และหาดไมอามี่ ไมอามี่เป็นเมืองชั้นนำทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเฉพาะหาดไมอามี่ที่อยู่ระหว่างอ่าวบิสเคย์นและมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งมีภูมิประเทศเป็นหาดทรายขาวเรียบชายฝั่ง มีอากาศร้อนชื้นเหมาะแก่การพักผ่อนตากอากาศอย่างมาก และตัวเมืองไมอามี่ยังเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมอ่าวบิสเคย์น เที่ยวหาดไมอามี่ ช้อปปิ้งที่เบย์ไซด์มาร์เก็ตเพลส หรือจะเดินชมสถาปัตยกรรมอาร์ตเดคโคที่ขนาบไปกับทะเลแคริบเบียน หรือจะแวะเที่ยวสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ที่สนใจ และไม่พลาดที่จะชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเซาท์บีชที่โด่งดัง

อ่านต่อ

ศูนย์การค้าเบย์ไซด์มาร์เก็ตเพลส เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

เบย์ไซด์มาร์เก็ตเพลส (Bayside Marketplace) ศูนย์การค้าชื่อดังริมอ่าวบิสเคย์น รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Greater Convention & Visitor Greater Miami หรือสถานที่สามารถดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมได้เป็นอันดับหนึ่ง ที่นี่มีการแสดงดนตรีสดทุกวัน ให้บริการร้านอาหารและบาร์แบบเปิดโล่ง และยังมีบล็อกร้านค้ากว่า 140 บล็อก ร้านค้ารอบนอกอีกกว่า 50 ร้าน และจุดเด่นของศูนย์การค้าแห่งนี้คือเป็นท่าเทียบเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้บริการล่องเรือชมทิวทัศน์ริมอ่าวบิสเคย์น และมีกิจกรรมบนเรืออีกมากมาย

อ่านต่อ

วินวูดวอลส์ เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

วินวูดวอลส์ (Wynwood Walls) พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง บนถนนคนเดินที่จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมาไว้บนกำแพงกลางแจ้ง ซึ่งอยู่ภายในคลังสินค้าขนาดใหญ่ของวินวูด เมืองไมอามี่ที่ทุกคนสามารถเข้าชมงานศิลปะได้อย่างอิสระและไม่มีค่าใช้จ่าย และที่นี่ยังมีตลาด Wynwood Marketplace ที่รวมสินค้าทางศิลปะ แฟชั่น อาหาร และดนตรีอีกมากมาย

อ่านต่อ

ล่องเรือชมอ่าวบิสเคย์น เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

อ่าวบิสเคย์น (Biscayne Bay) เป็นอ่าวที่อยู่ระหว่างหาดไมอามี่ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นหาดทรายสวยงาม อีกฝั่งของอ่าวคือไมอามี่แผ่นดินใหญ่ที่มีกิจการท่าเรือเป็นหลักจนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางธุรกิจเรือสำราญของโลก ให้บริการล่องเรือชมอ่าวบิสเคย์นในหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว สำหรับการล่องเรือชมอ่าวนั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้าของเมืองไมอามี่และทิวทัศน์รอบอ่าวบิสเคย์นที่เต็มไปด้วยคฤหาสน์สุดหรูและเรือยอชต์มากมายสมกับความเป็นเมืองชั้นนำในการท่องเที่ยวของโลก

อ่านต่อ

ฟรีดอมทาวเวอร์ มหาวิทยาลัยไมอามี-แดด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ฟรีดอมทาวเวอร์ (Freedom Tower at Miami Dade College) หอคอยสูงทรงแปดเหลี่ยมสีเหลืองอิฐกลางเมืองไมอามี่ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงและการตกแต่งที่หรูหราคล้ายกับหอคอย Giralda Cathedral ในเซบียา ประเทศสเปน มีความงามทั้งในยามกลางวันและสว่างไสวในยามกลางคืน หอคอยแห่งนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอเมริกาในยุคของสงครามเย็น นอกจากนี้ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะของมหาวิทยาลัยไมอามี่-แดด (MOAD) ที่จะพาผู้เข้าชมให้เข้าถึงประวัติศาสตร์แห่งหอคอยอย่างแท้จริง

อ่านต่อ

หาดไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

หาดไมอามี่ (Miami Beach) เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่ถูกขนาบด้วยทะเลสองฟากฝั่งเกิดเป็นหาดทรายขาวโค้งเว้าเป็นแนวยาวกว่า 7 ไมล์ มีอากาศแบบร้อนชื้นที่ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนตากอากาศและอาบแดดกันมาก ใกล้กับหาดมีที่พักและโรงแรมที่ออกแบบสไตล์ Art Deco หลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีทางเดินเลียบชายหาด Miami Beach Boardwalk ที่ทอดยาวไปจนถึงท้ายเกาะอีกด้วย

อ่านต่อ

เซาท์บีช หาดไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

เซาท์บีช (South Beach) เป็นหาดทางตอนใต้ของ Miami Beach ที่มีชื่อเสียงถึงความงามของหาดทรายขาวและความนิยมของนักท่องเที่ยวในการมาพักตากอากาศและพักผ่อนตามโรงแรมที่ให้บริการมากมาย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องของบาร์ คาเฟ่และไนต์คลับที่ทันสมัย ครึกครื้น และเต็มไปด้วยแสงสีในยามค่ำคืน บางร้านยังเปิดโล่งให้นักท่องเที่ยวได้ชมสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดคโคได้ด้วย หรือนักท่องเที่ยวอาจช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นอินดี้บนถนนลินคอล์นก็ได้เช่นกัน เซาท์บีชจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครันสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกอย่างแท้จริง

อ่านต่อ

ซากอารยธรรมชาวเผ่ามายา รัฐกินตานาโร ประเทศเม็กซิโก

ซากอารยธรรมชาวเผ่ามายา (Chacchoben Maya Ruin) เป็นพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงอารยธรรมของชนเผ่ามายาในประเทศเม็กซิโกหลายชิ้น โดยพื้นที่ตรงนี้ได้รับการบูรณะขึ้นมาเพื่อใช้ในการศึกษาเกี่ยวกับด้านมานุษยวิทยา และเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมได้ด้วย

อ่านต่อ

ชิเชนอิตซา รัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก

ชิเชนอิตซา (Chichen Itza) เขตโบราณสถานสำคัญที่แสดงถึงอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาวมายาในประเทศเม็กซิโก ภายในพื้นที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ และทรงคุณค่าหลายชิ้น อย่าง เอลกาสตีโย (El Castillo) พีระมิดขนาดใหญ่ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นต้น โดยปัจจุบันชิเชนอิตซาถูกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

อ่านต่อ

เกาะโรเทน เมืองโรเทน สาธารณรัฐฮอนดูรัส

เกาะโรเทน (Roatan) จุดแวะยอดนิยมของบรรดาเรือสำราญที่ล่องอยู่ตามแถบทะเลแคริบเบียน มีเสน่ห์คือความใสสะอาดของท้องทะเล และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีกิจกรรมทางทะเลให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำมากมาย ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสีสันสดใสทั่วทั้งเกาะ

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ