พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

  • อ่าน (4,295)
  • By Webmaster
  • 17:03:42 | 8 ต.ค. 2562

พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

The Hagia Sophia Museum and Church, Istanbul, Turkey

 

             ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) เป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเท่านั้น ทว่าโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2007 อีกด้วย

 


ประวัติ

           ฮาเกียโซเฟีย มีชื่อตรงกับความหมายภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์” ฮากาโซเฟียเป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น “มหาโบสถ์” (The Great Church)  เนื่องจากมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับโบสถ์คริสต์ทั่วโลกในยุคนั้น

โบสถ์ฮาเกียโซเฟียแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ทั้งศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ (Orthodox) และกรีกคาทอลิก (Greek Catholic)มากไปกว่านั้นโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนที่จะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 

           โบสถ์หลังแรกแต่เดิมนั้นสร้างในปี ค.ศ. 360  โดยจักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) แห่งโรมันตะวันออก แต่เนื่องจากเกิดการจลาจลในปี ค.ศ. 404 หลังจากนั้นในปี ค.ศ.415 โบสถ์แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะอีกครั้งโดยจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 (Theodosius II) หรือจักรพรรดิเฟลเวียส ธีโอโดเซียส (Flavius Theodosius) จากนั้นอีกร้อยปีต่อมา ใน ค.ศ. 532 ก็เกิดการการจลาจลและโบสถ์ได้พังเสียหายอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน เมื่อมีศึกสงครามและพังเสียหายก็บูรณะให้กลับมาใหม่ ซึ่งโบสถ์ที่คงสภาพมาถึงปัจจุบันคือโบสถ์ที่ระดมแรงงานกว่า 10,000 ชีวิตในการก่อสร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน (Justinian) ระหว่างปี ค.ศ. 532 - 537 ซึ่งเป็นช่วงที่อาณาจักรไบแซนไทน์เรืองอำนาจและมีอิทธิพลสูงสุด

           กล่าวคือ ฮาเกียโซเฟียถูกใช้งานในฐานะของโบสถ์คริสต์เป็นเวลานาน 916 ปี ก่อนที่จะกลายมาเป็นมัสยิดนาน 482 ปีนับตั้งแต่สมัยที่ Fatih Sultan Mehmed ขึ้นปกครองนครอิสตันบูล ท้ายที่สุดต่อมาในปี ค.ศ. 1935 ฮาเกียโซเฟียก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์เช่นที่เป็นในปัจจุบัน

           ความน่าอัศจรรย์ของโบสถ์ฮาเกียโซเฟียซึ่งสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้า คือการใช้เสากลมและกำแพงเป็นสิ่งที่ช่วยค้ำยันหลังคาและโดมขนาดใหญ่เอาไว้ โดมของโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้รองรับเสาค้ำยันจำนวน 4 ต้นที่มีรอบฐานวัดได้ประมาณ 100 ตารางเมตร ส่วนตัวโบสถ์วัดความกว้างยาวได้ 77 x 79 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงยอดโดม 62 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางของโดมยาวประมาณ 33 เมตร

           นอกจากโบสถ์ฮาเกียโซเฟียจะเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์แล้ว รูปแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้ยังขยายอิทธิพลไปถึงดินแดนตะวันออก ซึ่งรับเอารูปแบบสถาปัตยกรรมไปดัดแปลงตามความสวยงามและเหมาะสม รวมถึงรัสเซียก็ได้รับอิทธิพลดังกล่าวด้วย จะเห็นได้จากโบสถ์หลายแห่งทั่วรัสเซียที่ได้มีการดัดแปลงโดมเป็นรูปทรงปลายแคบจนกลายเป็นลักษณะเฉพาะที่มีความโดดเด่นและสวยงาม ปัจจุบันโบสถ์ฮาเกียโซเฟียยังคงความสำคัญในฐานะอนุสรณ์สถานที่สะท้อนถึงแรงศรัทธาที่มีต่อศาสนาของชาวคริสต์และอิสลาม และโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของตุรกีด้วยเช่นกัน  

 

  
โบสถ์ฮาเกียโซเฟียเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) (ภาพซ้าย) และ ฮาเกียโซเฟียถูกใช้งานในฐานะของโบสถ์คริสต์เป็นเวลานาน 916 ปี ก่อนที่จะกลายเป็นมัสยิดนาน 482 ปี (ภาพขวา)

 
ความน่าอัศจรรย์ของโบสถ์ฮาเกียโซเฟียซึ่งสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้า คือการใช้เสากลมและกำแพงเป็นสิ่งที่ช่วยค้ำยันหลังคาและโดมขนาดใหญ่เอาไว้

 
ประตูหินอ่อน มีชื่อเรียกว่า “ประตูแห่งสวรรค์และนรก” ตั้งอยู่ใกล้กับ Empress Lodgeเป็นประตูที่ใช้แยกแกลเลอรี่ฝั่งตะวันตกและใต้ออกจากกัน

 
บางส่วนภายในโบสถ์ฮาเกียโซเฟียอยู่ในระหว่างทำการซ่อมแซม

 
ฮากาโซเฟียเป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น มหาโบสถ์” (The Great Church)

 
โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี


การเดินทางจากสนามบิน Istanbul Airport สู่ตัวเมืองบริเวณสถานี Taksim

 

           เนื่องจากปัจจุบันสถานีรถไฟเชื่อมต่อสถานีสนามบิน Istanbul Airport อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้าง จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถชัตเทิลบัส (Havaist Airport Shuttle) การเดินทางเข้าเมืองโดยรถชัตเทิลบัสเป็นวิธีที่สะดวกในราคาที่ประหยัด จากสนามบิน Istanbul Airport นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยัง Taksim โดยใช้บริการ Havaist สาย IST 19 ที่ให้บริการระหว่างสนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) – เบซิคทา (Besiktas) – ทักซิม (Taksim) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชม.

           นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถได้ที่บริเวณหน้าทางออกผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งรถจะจอดส่งผู้โดยสารที่ Zincirlikuyu และ 4. Levent Metro ให้นักท่องเที่ยวลงที่ป้ายสุดท้ายหน้าโรงแรม Point ใกล้กับจัตุรัสทักซิม ซึ่งจากบริเวณนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taksim Station เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือที่พักได้อย่างสะดวก ค่าโดยสาร Havabus อยู่ที่ประมาณ 18 ลีราตุรกีหรือประมาณ 95 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://hava.ist/en/

             - รถโดยสารประจำทาง (IETT Public Bus) แม้จากสนามบิน Istanbul Airport จะมีบริการรถโดยสารสาธารณะประจำทางโดย IETT ระหว่างสนามบินกับตัวเมืองและราคาอาจถูกกว่าการเดินทางประเภทอื่นๆ แต่เป็นการเดินทางที่ไม่แนะนำโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระใบใหญ่ ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาเดินทางนานและต้องเปลี่ยนรถหลายสายแล้ว คนใช้บริการก็ค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

             - แท็กซี่ (Taxi) แท็กซี่จากสนามบิน Istanbul Airport ไปยัง Taksim ค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 140 ลีราตุรกี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 745 บาท แม้ว่าการเดินทางเข้าเมืองโดยรถแท็กซี่จะเป็นวิธีที่ราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่ก็เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกที่สุดเช่นกันโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระ ทั้งนี้ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วถือว่าแท็กซี่ที่ประเทศตุรกีนั้นมียังราคาที่ถูกอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบค่าบริการแท็กซี่จากสนามบินอิสตันบูลไปยังจุดอื่นๆ ในตัวเมืองได้ที่ https://isturkeysafe.com/New-Istanbul-Airport-Taxi-Fare-Calculator

             - บริษัทรถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีให้บริการรถเช่าให้เลือกหลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ชั้นผู้โดยสารขาเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/airport/tr/IST/

 

           แผนที่ขนส่งสาธารณะในอิสตันบูล ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีเส้นทางเชื่อมต่อถึงสนามบิน Istanbul Airport จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น หากต้องการใช้บริการรถไฟไปยังสถานที่ต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางออกจากสนามบินโดยวิธีต่างๆ ข้างต้นก่อนแล้วค่อยมาต่อรถไฟในตัวเมือง ขอบคุณภาพจาก https://www.tooistanbul.com/en/public-transportation-istanbul/


การเดินทางไป The Hagia Sophia Museum and Church

 

           จากสถานี Taksim นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง The Hagia Sophia Museum and Church ได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที

             - รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Taksim ไปยัง The Hagia Sophia Museum and Church โดยใช้เส้น Meclis-i Mebusan Cd. มีระยะทาง 5.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

           เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 น. – 17.00 น.

 

 
ด้านนอกตัวโบสถ์ ยังคงประดับตกแต่งด้วยของสวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

 
บรรยากาศของนักท่องเที่ยวด้านนอกตัวโบสถ์ 


อัตราค่าเข้าชม

           บัตรเข้าชมแบบ Single Ticket ราคา 72 ลีราตุรกี

 
นอกจากโบสถ์ฮาเกียโซเฟียจะเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์แล้ว รูปแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้ยังขยายอิทธิพลไปถึงดินแดนตะวันออกด้วยเช่นกัน


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว The Hagia Sophia Museum and Church

           สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากชื่นชมความน่าอัศจรรย์ในการก่อสร้างโบสถ์ฮาเกียโซเฟีย ซึ่งโบสถ์ใหญ่ที่สุดในโลกและสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้าแล้ว ยังมีข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เนื่องจากหากเอ่ยถึงฮาเกียโซเฟียในฐานะของพิพิธภัณฑ์ (Hagia Sophia Museum) แล้ว ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศิลปะและประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว


สมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ภายในฮาเกียโซเฟีย

 
ฮาเกียโซเฟียได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว The Hagia Sophia Museum and Church ได้ตลอดปี

 
ประตูเข้าออกแสดงให้เห็นถึงความโอ่โถงและยิ่งใหญ่

  
ฮาเกียโซเฟีย มีชื่อตรงกับความหมายภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์” (ภาพซ้าย) และ ความกว้างและยาวของโบสถ์วัดได้ 77 x 79 เมตร และมีความสูงจากพื้นดินถึงยอดโดม 62 เมตร” (ภาพขวา)

 
จิตรกรรมบนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสตศาสนา

 
บรรยากาศความสวยงามบางส่วนภายในฮาเกียโซเฟีย

 
อุโมงค์ทางเดินที่ชั้นล่างของฮาเกียโซเฟีย เป็นทางเดินที่จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปสู่ชั้นบนซึ่งเป็นตัวโบสถ์

 
ทางเดินทั้งหมดเป็นทางเดินลาดปูด้วยหิน ไม่มีขั้นบันได 


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           มีตำนานเล่ากันว่า เมื่อเริ่มแรกการก่อสร้าง วิศวกรควบคุมงาน แก้ปัญหาข้อจำกัดเรขาคณิตไม่ตกว่าจะสร้างโดมทรงกลมเหนือฐานรูปสี่เหลี่ยมอย่างไร จึงคิดค้นทฤษฎีใหม่ โดยการสร้างเสาหลัก 4 ต้น ที่มุมแต่ละด้านของฐานสี่เหลี่ยมเหนือยอดเสาขึ้นไปเป็นซุ้มประตู เติมเต็มช่องว่างระหว่างซุ้มโค้งด้วยผนังปูนรูปสามเหลี่ยมผนึกกันเป็นฐานที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักของหลังคาโดม

 
ฮาเกียโซเฟียในยามเย็นกับแสงไฟประดับที่ส่องสว่างสวยงาม

 


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม The Hagia Sophia Museum and Church สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย  เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

                       (The Hagia Sophia Museum and Church, Istanbul, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : เริ่มต้นที่ราคา 72 ลีราตุรกี

                       เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 น. – 17.00 น.

                       ตั้งอยู่ที่ : Hagia Sophia Museum, Sultan Ahmet, Ayasofya Meydanı, Fatih/İstanbul

                       โทรศัพท์ : (+90) 212 522 17 50 

                       เว็บไซต์ : https://ayasofyamuzesi.gov.tr/en

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองอิสตันบูล https://visit.istanbul/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/

                                       เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองอิสตันบูล https://www.iett.istanbul/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ