การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า

  • อ่าน (4,815)
  • By Webmaster
  • 16:09:40 | 26 มิ.ย. 2562

การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า

Traveling by Vehicle through Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge (HZMB)

           สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (The Hong Kong–Zhuhai–Macau Bridge / HZMB) เป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 55 กิโลเมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยใช้งบประมาณการสร้างกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.5 แสนล้านบาท สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ประกอบด้วยสะพานสามสาย ระบบอุโมงค์ใต้ทะเล และเกาะเทียมสี่เกาะ สะพานแห่งนี้ทำหน้าที่เชื่อมแผ่นดินใหญ่ของจีนเข้ากับเขตปกครองพิเศษ ฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า รวมถึงเมืองสำคัญอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 11 เมือง ยกระดับการคมนาคมเพื่อส่งเสริมโครงการพัฒนาและสร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจภายในพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า (Greater Bay Area) ให้มีความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยช่วยร่นระยะเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมงให้เหลือเพียง 45 นาที


สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (HZMB)


โครงสร้างสะพานอันเป็นเอกลักษณ์


การเดินทางบางช่วงต้องลอดอุโมงค์ใต้ทะเล

           ทั้งนี้ ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจราจรบนสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า อยู่หลายประการ อาทิ ในขณะที่ฮ่องกงและมาเก๊ามีระบบการจราจรที่ชิดทางด้านซ้ายมือ (Left-Hand Traffic – LHT) สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าจะใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ (Right-Hand Traffic – RHT) ตามระบบของเมืองจู่ไห่และเมืองอื่นๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ และยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้งด้วยสะพานแห่งนี้จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าก็จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกง มาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากส่วนของสะพานหลักนั้นถือว่าตั้งอยู่บนน่านน้ำของจีนแผ่นดินใหญ่ จึงต้องทำตามระเบียบของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย


สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ

           และเนื่องจากการจราจรของเมืองทั้งสามเมือง คือ ฮ่องกง จูไห่ และมาเก๊า นั้นมีความแออัดมาก แต่ละเมืองไม่ต้องการให้มีจำนวนยานพาหนะเพิ่มขึ้น สะพานแห่งนี้จึงมีข้อจำกัดให้ยานพาหนะที่มีทะเบียนข้ามเขตแดนที่กำหนดเท่านั้นที่จะสามารถผ่านขึ้นสะพานได้ โดยในบางเส้นทางไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัววิ่ง ผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงนักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางข้ามสะพานแห่งนี้ด้วยรถโดยสารประจำทาง (Shuttle Bus), รถโค้ชข้ามเขตแดน (Cross-Boundary Coach) หรือ รถรับจ้างข้ามแดน (Cross-Boundary Hire Car) เท่านั้น ซึ่งรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากที่สุดคือ Shuttle Bus และ Cross-Boundary Coach


อาคาร HZMB Hong Kong Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งฮ่องกง ตั้งอยู่ที่ HZMB Passenger Clearance Building ใกล้ๆ กับสนามบินนานาชาติฮ่องกง


อาคาร Macau Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Outer Harbour Ferry Terminal


รถประจำทาง (Shuttle Bus) และรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach)


Shuttle Bus หรือ Golden Bus จะมีสีทองเท่านั้น

             รถประจำทาง (Shuttle Bus หรือ Golden Bus) คือรถที่ให้บริการเฉพาะเดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บริการรับส่งต่อไปยังจุดต่างๆ ของตัวเมือง (ดังนั้นผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป และ เดินทางออกจาก Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ เอง) บริการของ Shuttle Bus แบ่งเป็น 2 เส้นทางด้วยกันคือ

                     1. Hong Kong Port ไปกลับ Zhuhai Port

                     2. Hong Kong Port ไปกลับ Macao Port

           การเดินรถแต่ละเส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง เที่ยวรถออกทุก ๆ 10 - 15 นาทีในเวลาปกติ และทุก ๆ 5 - 10 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และทุก ๆ 15 - 30 นาทีในช่วงกลางคืน

           ราคาตั๋วโดยสาร กลางวันเที่ยวละ 65 HKD กลางคืน 70 HKD ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port หลังจากที่ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ผ่านบัญชี Wechat สาธารณะชื่อ “hzmbus” และผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นภาษาจีนของบริษัทรถ Shuttle Bus ได้ที่ http://www.hzmbus.com/


Cross-Boundary Coach หรือรถโค้ชข้ามแดน มีหลายบริษัทให้บริการและมีสีสันที่แตกต่างกัน

             รถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) มีลักษณะคล้ายกับรถทัวร์ในไทย ให้บริการรับผู้โดยสารจากเขตเมืองของฮ่องกง จูไห่ หรือมาเก๊า เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าไปยังอีกตัวเมืองหนึ่ง โดยมีจุดจอดที่แน่นอน เส้นทางและตารางเวลาคงที่ จุดจอดหลักๆ ในเขตเมืองของฮ่องกง ได้แก่ Causeway Bay, Tsim Sha Tsui, Kowloon, Mon Kok, Prince Edward, Kwun Tong, Tseung Kwan O จุดจอดหลักในแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ Zhongshan Zhuhai, Jiangmen, Xinhui, Kaiping, Toishan, Yangjiang และจุดจอดหลักในมาเก๊าจะเป็นโรงแรมต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต Taipa

           ลักษณะของการใช้บริการของรถประเภทนี้คือ รถจะขับไปรับผู้โดยสารตามจุดจอดต่างๆ ข้างต้น โดยเมื่อเดินทางมาถึง Port ต้นทาง และ Port ปลายทาง รถก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เมื่อผู้โดยสายกลับขึ้นมาบนรถแล้วจึงเดินทางไปส่งตามจุดหมายปลายทางต่างๆ ในตัวเมือง ค่าโดยสารอยู่ระหว่าง 160 - 190 HKD 


ขั้นตอนการเดินทางข้ามสะพาน

           1. ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองที่ Port ต้นทาง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)

           2. ซื้อบัตร Shuttle Bus โดยสารข้ามสะพาน (สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางโดย Cross-Boundary Coach) วิธีที่สะดวกที่สุดคือซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรอัตโนมัติ หรือสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรก็ได้เช่นกัน

           3. เดินไปยังจุดขึ้นรถบัสที่กำหนด รถบัสจะไม่ได้ระบุที่นั่ง โดยจะออกทุกๆ 15-30 นาที หรือรอให้เต็มจึงออก

           4. รถเดินทางข้ามสะพานประมาณ 45 นาที

           5. เมื่อถึง Port ปลายทางผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)

           6. ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ออกมาใช้บริการรถประจำทาง, รถ Cross-Boundary Coach คันเดิม, รถ Taxi หรือ รถรับส่งฟรีของโรงแรมไปยังจุดหมายที่ต้องการ

           **หากเดินทางโดยใช้บริการรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) รถจะให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ คือ รับผู้โดยสารจากจุดต่างๆ ในตัวเมืองต้นทาง เมื่อมาถึง Port ต้นทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาออก และรอผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางข้ามสะพาน และเมื่อถึง Port ปลายทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าอีกครั้ง รอจนผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางไปส่งยังจุดหมายต่างๆ ในตัวเมืองปลายทาง


ข้อควรรู้เกี่ยวกับการ
ตรวจคนเข้าเมือง

           ผู้ที่เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าจะต้องผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาออก (Departure) ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ที่ต้นทางก่อนข้ามสะพาน และผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า (Arrival) ในอาคารผู้โดยสารที่ Port ปลายทางอีกครั้งหลังจากข้ามสะพานมาแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่และขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงนั้นค่อนข้างเข้มงวดกว่าที่มาเก๊า และนักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปที่เข้าแถวรอตรวจคนเข้าเมืองนั้นมีเป็นจำนวนมาก สิ่งแรกเลยที่ควรทำเมื่อเดินทางไปถึง Hong Kong Port คือ ให้เดินไปหยิบฟอร์มคนเข้าเมืองแผ่นเล็กๆ ตรงจุดที่มีป้ายสีส้มๆ เขียนว่า Departure Card (สำหรับขาออก) หรือ Arrival Card (สำหรับขาเข้า) มากรอก จากนั้นค่อยไปต่อแถวรอตรวจกับตม.หรือจะนำไปกรอกระว่างที่เข้าคิวแถวอยู่ก็ได้ เพราะหากลืมไม่ได้เดินไปหยิบแผ่นนี้มาก่อนที่จะไปเข้าแถวจะต้องเสียเวลาเดินออกจากแถวมาหยิบและเริ่มต่อคิวใหม่ ซึ่งการรีบออกจากแถวมาหยิบเอกสารแผ่นนี้ก็อาจทำให้โดนเจ้าหน้าที่เพ่งเล็งจนนำไปสู่การไม่ผ่าน ตม.ได้

 
หยิบฟอร์มตม. Departure Card (ขาออก) หรือ Arrival Card (ขาเข้า) ได้จากบริเวณที่มีลักษณะเช่นนี้

           หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถ Cross-Boundary Coach ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ติดด่านตม. ซึ่งต้องถูกกักตัวและเข้าไปสัมภาษณ์ในห้องพิเศษจนเกิดความล่าช้าก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เมื่อผ่านตม. ออกมาแล้วไม่พบรถของบริษัทที่นั่งมาก็ยังสามารถขึ้นรถคันถัดไปของบริษัทเดียวกันได้ โดยแต่ละบริษัทจะมีสติ๊กเกอร์แปะที่แขนเสื้อให้เราก่อนขึ้นรถมาที่ Port ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถโค้ชสื่อสารมาเป็นภาษาจีนและชี้มาที่สติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ที่เสื้อของนักท่องเที่ยว นั่นหมายถึงให้แกะสติ๊กเกอร์นั้นส่งให้เขาก็จะสามารถขึ้นรถได้

 
เจ้าหน้าที่ของบริษัทต่างๆ บริเวณจุดจอดรอผู้โดยสารรถ Cross-Boundary Coach 


บริเวณทางเดินไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองที่ Hong Kong Port และหมายเลขของรถสายต่างๆ กำกับไว้ชัดเจน


บริเวณจุดจอดรถแท็กซี่สำหรับเดินทางเข้าเมืองที่ Hong Kong Port

           ทั้งนี้ แม้ระยะเวลาในการเดินทางจากข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จะใช้เวลาเพียงประมาณ 45 นาที แต่เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมด ทั้งการรอผู้โดยสารแต่ละคนผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองให้กลับมาขึ้นรถจนเต็มคันแล้วค่อยออกนั้น โดยรวมแล้วใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งนับว่านานกว่าการเดินทางข้ามฝั่งด้วยเรือเฟอรี่ที่มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่รวดเร็วและไม่ต้องรอผู้โดยสารเต็มจึงค่อยออก

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ