พระราชวังเว้ จังหวัดเถื่อเทียน เว้ ประเทศเวียดนาม

  • อ่าน (9,285)
  • By Webmaster
  • 10:38:26 | 21 ธ.ค. 2561

พระราชวังเว้ จังหวัดเถื่อเทียน เว้ ประเทศเวียดนาม

Imperial Citadel Hue, Thua Tien Hue, Vietnam

 

             พระราชวังเว้ (Imperial Citadel Hue) พระราชวังของเวียดนามที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระราชวังต้องห้าม ที่ปักกิ่ง ทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรม สี สัญลักษณ์ และตัวอักษร

 


ประวัติ

             พระราชวังเว้ ตั้งอยู่ที่เมืองเว้ จังหวัด Thua Thien Hue พระราชวังเว้ได้รับอิทธิพลมาจากจีน เพราะเคยถูกจีนปกครองมาก่อนนานนับพันปี ความน่าสนใจของพระราชวังแห่งนี้คือเคยถูกฝรั่งเศสเผาในปี พ.ศ. 2488 ทำให้กลายเป็นวังร้าง และต่อมาในปีพ.ศ.2511 ก็ถูกสหรัฐทิ้งระเบิด เนื่องจากเป็นที่ซ่องสุมของคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้เข้ามาบูรณะและขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2536 พระราชวังเว้มีพื้นที่กว่า 5.2 ตารางกิโลเมตร และมีกำแพงสร้างล้อมรอบถึง 3 ชั้น ที่นี่จึงถูกเรียกชื่อในภาษาอังกฤษว่า Imperial Citadel “Imperial” หมายถึงจักรพรรดิ ส่วน “Citadel” คือป้อมปราการ

           ป้อมปราการชั้นที่ 1 คือ ป้อมปราการเมืองหลวงเว้ (Kinh Thah Hue) กำแพงด้านนอกสุดสร้างด้วยหิน อิฐ และดิน สูง 8 เมตร หนา 20 เมตร ยาว 10 กิโลเมตร มีทางเข้า 10 ทาง และมีป้อมระวังภัย 24 ป้อม ล้อมรอบด้วยคูน้ำอีกหนึ่งชั้น ตรงกำแพงด้านใต้ที่หันหน้าเห็นแม่น้ำคือหอธงขนาดใหญ่ สูงเด่น มองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง

           ป้อมปราการชั้นที่ 2 คือ ป้อมปราการหลวง (Hoang Thanh) สูง 6 เมตร สำหรับป้องกันพื้นที่ขนาดเล็กกว่า ล้อมรอบพระราชฐาน วัง วัด และอุทยาน สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการชมจะอยู่ในเขตกำแพงชั้นในนี้ สิ่งก่อสร้างที่สร้างในบริเวณกำแพงชั้นนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าซาลอง โดยสร้างเลียนแบบพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง ประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศตกแต่งอย่างงดงาม ด้านบนประตูมีหอคอยห้าปักษาวายุภักษ์ (เหลิ่วงู้ฟุ่ง) หลังคาตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสดใส ตรงกลางใช้สีเหลือง ด้านข้างใช้สีเขียว เคยถูกใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิเมื่อเสด็จมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในอดีตที่ประตูทางทิศใต้ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายขายตั๋ว ถูกใช้เป็นทางเข้าออกสำหรับกษัตริย์เท่านั้น ปัจจุบันประตูเมืองทั้งสี่ประตูเปิดให้ประชาชนสามารถสัญจร

           ป้อมปราการชั้นที่ 3 คือ ป้อมปราการต้องห้าม (Tu Cam Thanh) ภายในกำแพงเป็นที่ประทับของกษัตริย์ทั้ง 13 พระองค์ ในราชวงศ์เหงียนและครอบครัว


สังเกตว่าด้านบนของป้อมปราการจะมีหอคอยที่ในอดีตใช้สอดส่องข้าศึกอยู่


ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจพระราชวังเว้เป็นจำนวนมาก


สวนขนาดย่อมตรงกลางที่ตัดแต่งอย่างสวยงาม


ดอกไม้ที่เบ่งบานขับให้บรรยากาศโดยรวมภายในพระราชวังดูอ่อนโยนและรื่นรมย์ยิ่งขึ้นไปอีก


ท้องพระโรง อีกหนึ่งมุมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป


การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปดานัง

           Imperial Citadel Hue ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากนั้นจึงเดินทางโดยรถยนต์ต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเวียดนามกลาง จากกรุงเทพฯ ไปดานัง นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศบินไปลงที่ดานังได้โดยตรง มีสายการบินที่ให้บริการทั้งจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เที่ยวบินตรงใช้เวลาประมาณ 1.25 ชั่วโมง


การเดินทางไป
Imperial Citadel Hue

              จากท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ไปยัง Imperial Citadel มีระยะทาง 94.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้ถนนสาย Duong Nguyen Tat Thanh ไปทาง Nguyen Luong Bang/QL1A มุ่งไป Hoa Hiep Nam จากนั้นตาม QL1A ไปทาง Nguyen Tat Thanh มุ่งไป tt. Phu Bai, Thi xa Huong Thuy แล้วเดินทางต่อไปบน Nguyen Tat Thanh ขับไปทาง Cua Ngan/DT8B มุ่งไป Thanh pho Hue

            วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยัง Imperial Citadel Hue คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์


เวลาทำการเปิด
– ปิด

           08:00 – 17:00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันพฤหัสบดี ขยายเวลาถึง 22 น.


ช่วงวันหยุดปริมาณนักท่องเที่ยวอาจจะหนาตาเป็นพิเศษ


บรรยากาศความสดชื่นเขียวขจีช่วงฤดูฝน


มีรถคล้ายๆ รถกอล์ฟขับให้บริการนักท่องเที่ยวรอบๆ พระราชวัง 


อัตราค่าเข้าชม

           150,000 VND


ตัวอาคารสีเหลือง เอกลักษณ์ของความเป็นเว้


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
Imperial Citadel Hue

           พระตำหนักไท่ฮัว หรือไทฮวา (Thai Hoa Palace) เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยว Imperial Citadel บริเวณด้านหน้าจะเป็นลานโล่งเพื่อให้จอหงวนยืนเข้าเฝ้ากษัตริย์ตามตำแหน่ง ใบเสมาหน้าพระราชวังคือหลักศิลาที่สลักตำแหน่งของจอหงวนแต่ละคนไว้ เพื่อให้ยืนตรงตำแหน่งและเป็นระเบียบเวลาเข้าเฝ้า ส่วนภายในเป็นโถงกว้างจะมีบัลลังก์ตั้งอยู่ โดยในอดีตจะมีจอหงวนที่เก่งที่สุดเพียง 4 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ยืนอยู่รอบบัลลังก์นี้


พระตำหนักไท่ฮัว หรือไทฮวาเป็นสถานที่สำคัญที่องค์จักรพรรดิจะออกว่าการทุกสองสัปดาห์ 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


นักท่องเที่ยวถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่หอบูชาขุนนาง


สถาปัตยกรรมอันงดงามวิจิตร มีสีเหลืองเป็นสีหลัก


ซุ้มทางเดินเชื่อมมีหลังคาและตกแต่งสวยงาม


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           ระหว่างประตูทิศใต้กับกับกำแพงใหญ่ตรงหอธง มีปืนใหญ่เก้าทัพตั้งเรียงอยู่ 9 กระบอก โดยแต่ละกระบอกนั้นมีน้ำหนักถึง 10 ตัน ห้ากระบอกทางด้านซ้ายเป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้า ได้แก่ โลหะ น้ำ ไม้ ไฟ และดิน ส่วนอีกสี่กระบอกทางด้านขวาเป็นตัวแทนของฤดูกาลทั้งสี่


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระราชวังเว้ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พระราชวังเว้ จังหวัดเถื่อเทียน เว้ ประเทศเวียดนาม

                       (Imperial Citadel Hue, Thua Tien Hue Province, Vietnam)

                       ระดับความนิยม : 

                       เวลาเปิด – ปิด : 8.00 – 17:00 น.

                       อัตราค่าเข้าชม : 150,000 VND

                       ตั้งอยู่ที่ : จังหวัดเถื่อเทียน เว้ ประเทศเวียดนาม

                       โทรศัพท์ : (+84)234 382 2355

                       เว็บไซต์ : http://www.vietnamtourism.com/en/index.php/tourism/items/455

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดเถื่อเทียน เว้ https://www.visithue.vn

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม https://www.vietnamtourism.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน

มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน

วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม

อ่านต่อ

8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน

อ่านต่อ

หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

อ่านต่อ

สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา

อ่านต่อ

วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ