- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขามหัศจรรย์แห่งเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขามหัศจรรย์แห่งเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
- อ่าน (5,780)
- By Webmaster
- 11:41:42 | 1 ต.ค. 2561
ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขามหัศจรรย์แห่งเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
The Chocolate Hills, Bohol, Philippines
เนินเขาช็อคโกแลตหรือช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาที่มีลักษณะคล้ายก้อนช็อคโกแลตกลมเล็กหลายๆอันมาวางรวมกัน
ช็อคโกแลตฮิลส์ (The Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ มีความงดงามตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ ริมทะเลถูกประดับไปด้วยหาดทรายสีขาว มีสมบัติใต้ทะเลเป็นความงดงามที่นักดำน้ำพึงถวิล และเป็นสถานที่ที่ทำให้โบฮอลมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่น
แผนที่ตั้งของเกาะโบฮอลที่อยู่ในเขตพื้นที่ของประเทศฟิลิปปินส์บนแผนที่โลก
ประวัติและความเป็นมา
บริเวณจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดเมื่อได้มาเยือนช็อคโกแลตฮิลส์
ตามความเชื่อทางทฤษฎี บริเวณนี้ในอดีตเป็นท้องทะเล และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ต่อมาเมื่อน้ำทะเลเกิดเหือดแห้ง จึงเกิดการทับถมของหินปูนจนกระทั่งกลายเป็นเนินเขาเหล่านี้
ป้ายแสดงข้อมูลและยืนยันความมหัศจรรย์ของช็อคโกแลตฮิลส์ที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของตำนานเชื่อว่ามียักษ์ 2 ตน ที่มักจะทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอ เวลาโมโหหรือโกรธก็จะพากันเขวี้ยงปาก้อนดินใส่กัน ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันจนเบื่อ ก็เลยหันหน้าเข้าหากัน และปรับความเข้าใจจนกลายเป็นมิตรสหายกันในที่สุด หลังจากนั้นเจ้ายักษ์ทั้งสองตัวนี้ก็ไม่ยอมทำความสะอาดพื้นที่ที่ตัวเองเคยปาดินใส่กัน ก้อนดินเหล่านั้นจึงกลายเป็นกองดินมหาศาลให้ได้ชมในวันนี้
บริเวณจุดติดต่อเจ้าหน้าที่ของช็อคโกแลตฮิลส์
หรืออีกหนึ่งตำนานโศกนาฏกรรมโรแมนซ์ ที่เชื่อกันว่า มียักษ์ตนหนึ่งหลงรักหญิงสาวนางหนึ่ง และเมื่อหญิงสาวได้ถึงแก่กรรม ยักษ์ตนนั้นก็เสียใจร้องไห้ฟูมฟาย จนกระทั่งน้ำตาหยดลงมาเป็นเนินเหล่านี้
ดอกไม้ที่ขึ้นอยู่รอบบริเวณจุดชมวิวเนินเขาช็อคโกแลต
แม้ว่าจะมีเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับ ช็อคโกแลตฮิลส์ อยู่หลายเรื่อง แต่สุดท้ายแล้วทฤษฎีทางธรณีวิทยา ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับการให้คำตอบมากที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ดีว่า เนินเขาทับถมกันอย่างไร ถึงเป็นรูปกรวยคว่ำที่สมมาตรใกล้เคียงกันได้ขนาดนี้ ซึ่งนักวิชาการก็ยังให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้เช่นกัน
บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อเดินขึ้นจุดชมวิวของช็อคโกแลตฮิลส์
รูปทรงของช็อคโกแลตฮิลส์ คือเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำ ที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร คาดว่ามีจำนวน 1,260 - 1,776 ลูก ความสูงโดยเฉลี่ยของเนินเหล่านี้อยู่ที่ 30 - 50 เมตร ส่วนลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร โครงสร้างเนินเหล่านี้เป็นหินปูน ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้า โดยเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ส่วนชื่อ เนินเขาช็อกโกแลต มาจากลักษณะของเนินเขาที่คล้ายก้อนช็อคโกแลตกลมเล็ก หลายๆ อัน มาอยู่รวมในที่เดียวกัน
การเดินทางไปเกาะโบฮอล (Bohol Island)
- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปชม Chocolate Hills ต้องนั่งเครื่องบินภายในประเทศจากเมืองหลวงมะนิลา (สนามบินมะนิลา หรือ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่) เพื่อไปลงที่เกาะโบฮอล (สนามบินตักบิลารัน) ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง โดยประมาณ
การเดินทางไปเนินเขาช็อคโกแลต(Chocolate Hills)
- รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง (Tricycle) ซึ่งคนบนเกาะโบฮอลมักจะเดินทางด้วยวิธีนี้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้สามารถพบเห็นได้ทั่วไป เมื่อนักท่องเที่ยวลงเครื่องแล้ว ที่สนามบินตักบิลารันจะมีรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างรับจ้างจอดรอให้ได้เลือกมากมาย สามารถระบุสถานที่ท่องเที่ยว เนินเขาช็อคโกแลต โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถตู้(เช่า/เหมา) นักท่องเที่ยวที่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถติดต่อจองรถเช่าพร้อมคนขับให้มารับที่สนามบินและพาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการได้ ซึ่งราคาการเช่ารถรวมค่าน้ำมันและคนขับเรียบร้อยแล้วอยู่ที่ 2,500 เปโซ โดยเป็นราคาทัวร์รอบเกาะโบฮอล นักท่องเที่ยวจึงสามารถต่อรองราคาพร้อมระบุสถานที่เพื่อความเหมาะสมได้ หากสนใจการเดินทางแบบรถเช่าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://boholrentacar.com/
เวลาทำการเปิด – ปิด
ทางเดินลงไปยังบริเวณจุดให้บริการของเจ้าหน้าที่จากบริเวณจุดชมวิว
เนื่องจากที่ช็อคโกแลตฮิลส์เป็นเนินเขาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นเพื่อไปที่จุดชมวิวทิวทัศน์ได้ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. – 23.30 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอยู่ด้านล่าง
อัตราค่าเข้าชม
เนินเขาช็อคโกแลตที่ให้ทัศนียภาพในมุมกว้างมีเนินเขาใหญ่น้อยขึ้นสลับกันอย่างมหัศจรรย์
ไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากเนินเขาช็อคโกแลตเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงเปรียบเสมือนสถานที่สาธารณะที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพียงแต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อย และความปลอดภัยหรือสำหรับสอบถามข้อมูลต่างๆ
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
บริเวณจุดชมวิวช็อคโกแลตฮิลส์ที่มีตัวอักษร “CHOCOLATE HILLS” ขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ
บริเวณจุดชมวิวเนินเขาช็อคโกแลต ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางเข้ามาที่นี่ โดยบริเวณนั้นจะมีรั้วกั้นเพื่อแสดงขอบเขตที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงเพื่อป้องกันอันตรายในการพลัดหล่น ทั้งนี้ไม่ว่าจะชื่นชมกับทัศนียภาพที่มองได้ถึง 360 องศา หรือการถ่ายภาพความประทับใจเพื่อเก็บเป็นความทรงจำก็ตาม จุดชมวิวนี้จึงห้ามพลาดเมื่อได้มาเยือน
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ช็อคโกแลตฮิลส์ในช่วงฤดูร้อนจะมีสีน้ำตาลคล้ายสีของช็อคโกแลต
นักท่องเที่ยวควรไปในช่วง เดือนธันวาคม ถึง เดือนเมษายน จะดีที่สุดเพราะไม่ใช่ฤดูฝน สำหรับภูเขาช็อกโกแลตในช่วงฤดูร้อนจะได้เห็นเป็น ภูเขาสีน้ำตาล แต่ถ้าไปช่วงหน้าฝนตั้งแต่หลังพฤษภาคมนักท่องเที่ยวถึงจะได้เห็นภูเขาเป็นสีเขียว
ช็อคโกแลตฮิลส์ในช่วงฤดูร้อนจะมีสีน้ำตาลคล้ายสีของช็อคโกแลต
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ช็อคโกแลตฮิลส์ในช่วงฤดูฝนจะมีสีเขียว ชุ่มชื้น บ่งบอกถึงทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะโบฮอล
เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่บนเกาะใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้ประเทศนี้เสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่นได้บ่อยๆ โดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ก่อนเดินทางนักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและข่าวสารเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์อยู่เสมอ ทั้งนี้ช่วงเวลาที่ควรเดินทางมามากที่สุดคือช่วงปลายปีตั้งแต่พฤศจิกายน จนถึงกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว
ช็อคโกแลตฮิลส์ในช่วงฤดูฝนจะมีสีเขียว
ในส่วนของช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่อาจจะมีข้อดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเพราะแสงเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาพออกมางดงาม
ช็อคโกแลตฮิลส์ในช่วงฤดูฝนหรือเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม มีสีเขียวชอุ่ม ให้ความรู้สึกสดชิ่นสบายตา
นอกจากนี้หน้าฝนหรือช่วงเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนตุลาคมก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน เพราะเสี่ยงต่อการเจอพายุไต้ฝุ่นตลอดจนฝนตกชุกทำให้ไม่สามารถไปท่องเที่ยวยังเกาะอื่นๆ ได้ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว ช็อคโกแลตฮิลส์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ช็อคโกแลตฮิลส์ เกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
(The Chocolate Hills, Bohol, Philippines)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด – ปิด : 8.00 – 23.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน
สถานที่ตั้ง : เมืองคาร์เมน เกาะโบโฮล ประเทศฟิลิปปินส์ อยู่ใกล้กับเมืองเซบู
เว็บไซต์ : http://www.chocolatehills.net/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : การพยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ www.tourism.gov.ph
ตรวจสอบเที่ยวบิน www.philippineairlines.com
ตรวจสอบรอบเรือเฟอร์รี่โอเชี่ยนเจ็ท https:www.oceanJet.net
ตรวจสอบการเช่ารถ http://boholrentacar.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000
อ่านต่อสวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997
อ่านต่อเนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
อ่านต่อทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว
อ่านต่อถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ
อ่านต่ออุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว
อ่านต่อสะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อ