วัดโจเรนจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (105)
  • By Webmaster
  • 15:55:05 | 2 เม.ย. 2567

วัดโจเรนจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Joren-Ji Temple, Tokyo, Japan

Joren-Ji Temple

             วัดโจเรนจิ (Joren-Ji Temple) เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 1400 ปี และมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ พระพุทธรูปไดบุทสึองค์สีดำพระพักตร์อวบอิ่มดูมีเมตา ประดิษฐานอยู่บนดอกบัว กับความสูง 13 เมตร หนักราว 32 ตัน ถือเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นนิยมมาสักการะพระพุทธรูปไดบุทสึ ชมความงดงามของประตูซังเกดัตสึมง และพักผ่อนหย่อนใจในสวนญี่ปุ่น

Joren-Ji Temple
 

ประวัติ

             วัดโจเรนจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อโตเกียวไดบุทสึ เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตอิทาบาชิ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว  สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1598 โดย ท่านโคะโนเอะ มิตสึนากะ ขุนนางผู้ทรงอิทธิพลในสมัยเอโดะ เพื่ออุทิศให้กับท่านโคะโนเอะ มิตสึฮิเดะ บิดาของเขา เดิมทีวัดโจเรนจิตั้งอยู่ที่ Itabashi-shuku ซึ่งเป็นสถานีไปรษณีย์ที่ตั้งอยู่บนถนนโบราณที่เรียกว่า Nakasendo ซึ่งเชื่อมระหว่างโตเกียวกับเกียวโต ภายหลังมีการก่อสร้างทางหลวงจึงต้องย้ายวัดมายังตำแหน่งปัจจุบัน

             ทันทีที่ก้าวเข้าไปภายในบริเวณวัดก็จะพบกับความสวยงามประณีตของประตูซังเกดัตสึมงสร้างด้วยไม้สักทอง ประตูที่เป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ.1622 ก่อนการสร้างพระพุทธรูปไดบุทสึในปีถัดมา ทั้งนี้ในปีค.ศ. 1945 วัดโจเรนจิถูกไฟไหม้เสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ประตูซังเกดัตสึมงจึงได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1958 และมีการบูรณะพระพุทธรูปไดบุทสึในปี ค.ศ.1977

             พระพุทธรูปไดบุทสึทำจากสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่องค์นี้ ถือเป็นจุดเด่นของวัดโจเรนจิ ด้วยความสูง 13 เมตร และหนักกว่า 32 ตัน ประดิษฐานอยู่บนดอกบัว พระพักตร์อวบอิ่มดูมีเมตตา ถือเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นด้วยความหวังที่จะสร้างสันติภาพและป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือสงครามครั้งใหญ่ในภูมิภาค     

             นอกจากพระพุทธรูปไดบุทสึที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ภายในวัดโจเรนจิก็ยังมีหอระฆัง สวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดย่อมๆ บ่อน้ำที่มีปลาคาร์พสีสันสดใส และรูปปั้นหินของเทพเจ้าแห่งโชคทั้งเจ็ดให้ได้เดินชมพักผ่อนหย่อนใจ และภายในบริเวณวัดก็มีร้านค้าที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อเครื่องรางของญี่ปุ่นเพื่อขอพรได้

Joren-Ji Temple
บริเวณประตูทางเข้าวัดโจเรนจิ

Joren-Ji Temple
ประตูซังเกดัตสึมง

Joren-Ji Temple
บรรยากาศรอบๆ บริเวณวัดโจเรนจิ

Joren-Ji Temple
แผ่นจารึกประวัติเกี่ยวกับวัดโจเรนจิ

Joren-Ji Temple
จุดสักการะ

Joren-Ji Temple
รูปเคารพเจ้าแม่กวนอิม

Joren-Ji Temple
บรรยากาศภายในวัดโจเรนจิ
 

การเดินทางไปวัดโจเรนจิ

             - รถไฟ  นั่งรถไฟสาย Tobu-Tojo Line มาลงที่สถานี Shimoakatsuka Station จากนั้นเดินต่อประมาณ 18 นาที
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

             เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 15.45 น.

Joren-Ji Temple
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดโจเรนจิ
 

อัตราค่าเข้าชม 

             ไม่เสียค่าเข้าชม
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดปี

Joren-Ji Temple
 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดโจเรนจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                           วัดโจเรนจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                           (Joren-Ji Temple, Tokyo, Japan)

                           ระดับความนิยม :

                           อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 15.45 น.

                           ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                           สถานที่ตั้ง : 5 Chome-28-3 Akatsuka, Itabashi City, Tokyo 175-0092, Japan

                           โทรศัพท์ : (+81) 3 3975 3325

                           เว็บไซต์ : http://www.tokyo-daibutsu.com/

                           ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                                      เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                                      เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                                      เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ