ด่านเยี่ยนเหมินกวน กำแพงเมืองจีนด่านประตูห่านป่าแห่งซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน

  • อ่าน (3,856)
  • By Webmaster
  • 17:39:49 | 19 มี.ค. 2561

ด่านเยี่ยนเหมินกวน กำแพงเมืองจีนด่านประตูห่านป่าแห่งซินโจว
มณฑลซานซี ประเทศจีน

雁门关 , Yanmenguan, The Wild Goose Pass of Xinzhou, Shanxi, China

 

             กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน หรือที่อาจรู้จักกันในนามของ ด่านประตูห่านป่า (雁门关 ) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่ที่เมืองซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน

 

           โดยด่านเยี่ยนเหมินกวนเป็นกำแพงเมืองจีนที่ตั้งอยู่ระหว่างแนวของภูเขาซึ่งโค้งงุ้มเข้าหากัน และมีความเชื่อว่าแม้แต่ห่านป่าซึ่งเป็นนกที่มีฤดูกาลอพยพระยะไกลทุกฤดู ยังต้องบินลอดใต้ทิวเขานั้น กำแพงเมืองจีนแห่งนี้จึงถูกเรียกว่าประตูห่านป่า (雁门/Yanmen/เยี่ยนเหมิน) สืบทอดกันมานั่นเอง

           ปัจจุบัน กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน ถือเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน หรือที่รู้จักกันในนามของ “กำแพงหมื่นลี้”  ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างด้วยมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 โดยบริเวณด่านเยี่ยนเหมินกวนถือเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีหลักฐานการก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง  

 
ป้ายรับรอง “หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก” แห่งด่านเยี่ยนเหมินกวน

           นอกจากนี้ กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนยังเป็น สถานที่ยอดนิยมในการถ่ายทำภาพยนตร์ แนวประวัติศาสตร์ที่โด่งดังหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ขุนศึกตระกูลหยาง, เปาบุ้นจิ้น และยังเป็น หนึ่งในสิบสถานที่ห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังมณฑลซานซี


กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนท่ามกลางหิมะของเดือนธันวาคม


ป้อมสังเกตการณ์บนกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน

 
ทางเดินบนกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์และมรดกโลก 


กำแพงเมืองจีนคืออะไร ใครเป็นคนสร้าง

           กำแพงเมืองจีน หรือที่นิยมเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้ เป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก โดยในปี 2012 สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ได้ออกมาประกาศว่า ความยาวรวมทั้งหมดของกำแพงหมื่นลี้คือ 21,196 กิโลเมตร

 
กำแพงเมืองด่านเยี่ยนเหมินกวนที่ยิ่งใหญ่

           ทั้งนี้ กำแพงเมืองจีนทั้งหมดกว่า 20,000 กิโลเมตรไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนเสร็จภายในครั้งเดียว แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของกำแพงเมืองจีน สามารถย้อนประวัติการสร้างกลับไปได้ถึงสมัยราชวงศ์โจวและยุคจ้านกั๋ว (770 – 221 BC) ก่อนที่จะปรากฏบันทึกการก่อสร้างอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฉิน (221–207 BC) ต่อด้วยสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 BC – 220 AD) และสิ้นสุดการก่อสร้างปรับปรุงเป็นครั้งสุดท้ายในสมัยราชวงศ์หมิง (1368–1644  AD)

          โดยจุดประสงค์หลักของการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนในสมัยโบราณคือ เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทุ่งหญ้าทางตอนเหนือ และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางเส้นทางการค้าสำคัญของจีนโบราณกับภูมิภาคอื่นๆ


ป้อมกำแพงเมืองจีนแห่งด่านเยี่ยนเหมินกวน


เยี่ยนเหมินกวน กำแพงเมืองจีนด่านประตูห่านป่า สู่แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก

 

           กำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวนเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์และสมรภูมิที่สำคัญอย่างยิ่งของจีนโบราณ จึงเริ่มมีการสร้างกำแพงกับป้อมปราการขึ้นที่บริเวณนี้นับตั้งแต่ยุคจ้านกั๋ว (770 – 221 BC) ก่อนก่อสร้างเพิ่มเติมอย่างยิ่งใหญ่ในสมัยฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) แห่งราชวงศ์ฉิน (221–207 BC) และมีบทบาทในฐานะด่านทางการทหารที่สำคัญสืบต่อมายาวนาน ก่อนจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่สำคัญภายในปัจจุบัน

 
ป้ายรับรองฐานะแหล่งท่องเที่ยวของรัฐบาลจีน และป้ายแสดงความเป็นมรดกโลกของยูเนสโก

           โดยหนึ่งในตำนานอิงประวัติศาสตร์ที่โด่งดังของกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน คือเรื่องเล่าของตระกูลหยาง ซึ่งเป็นตระกูลขุนศึกที่สำคัญในสมัยราชวงศ์ซ่ง (960 – 1127 AD) ซึ่งพลีชีพต่อสู้กับข้าศึกจนเกือบหมดตระกูลที่ด่านเยี่ยนเหมินกวนแห่งนี้ ทำให้ในปัจจุบัน กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการถ่ายทำภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์อีกด้วย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://en.eshanxi.gov.cn/fascinatingshanxi/picture/314924.shtml)

 
รูปปั้นของขุนศึกตระกูลหยาง หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ด่านเยี่ยนเหมินกวน


การเดินทางไปกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน

           กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซินโจว (忻州 / Xinzhou) มณฑลซานซี ประเทศจีน โดยวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด ที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมายังที่นี่คือ ใช้บริการเที่ยวบินที่บินมายัง ท่าอากาศยานซินโจวอู่ไถซาน (忻州五台山机 / Xinzhou Wutaishan Airport / WUT) อาทิ

           - เที่ยวบินตรงจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจวซินเจิ้ง (郑州新郑国际机场 / Zhengzhou Xinzheng International Airport / CGO) ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 15 – 20 นาที

           - เที่ยวบินตรงจาก ท่าอากาศยานนานาชาติอิ๋นชวนเหอตง (银川河东国际机场 / Yinchuan Hedong International Airport / INC) ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 20 – 25 นาที

           - เที่ยวบินตรงจาก ท่าอากาศยานนานาชาติฉงชิ่งเจียงเป่ย (重庆江北国际机场 / Chongqing Jiangbei International Airport / CKG)  ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 5 นาที

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้บริการเที่ยวบินจาก ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง (北京首都国际机场 / Beijing Capital International Airport / PEK) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 4 ชั่วโมง – 4 ชั่วโมง 30 นาที และมีจุดพักเครื่อง 1 จุด

           และหลังจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสหรือรถแท็กซี่เพื่อเดินทางเข้าไปยังเขตเมืองซินโจว (ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร / ค่าบริการแท็กซี่เริ่มต้นประมาณ 6 – 7 หยวน) และเดินทางต่อไปยังกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนได้โดย

             - รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถเลือกนั่งรถบัสที่วิ่งระหว่าง เมืองซินโจว – เขตไต้ ซึ่งมีรถบัสให้บริการทุกวันในเวลา 6.20 น. – 18.00 น ในช่วงฤดูร้อน และ 6.30 น. – 17.00 น. ในช่วงฤดูหนาว โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง ลงป้ายสุดท้ายที่เขตไต้ (代县) จากนั้นสามารถเลือกใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถรับจ้าง เพื่อเดินทางต่อไปยังกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนที่อยู่ห่างออกไปอีก 20 กิโลเมตรได้ โดยอัตราค่าบริการแท็กซี่เริ่มต้นที่ 6 – 7 หยวนเช่นกัน

             - รถไฟ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกบริการขนส่งสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวจีน เนื่องจากมีให้บริการทุกวันและมีรอบเวลาที่ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที – 2 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวสามารถ เลือกขึ้นรถไฟภายในเมืองซินโจว และลงที่สถานีเขตไต้ (代县) จากนั้นใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถรับจ้างไปยังกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรอบเวลาและประเภทของรถไฟที่วิ่งผ่านระหว่างสถานีซินโจวและเขตไต้, อัตราค่าบริการ รวมถึงจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่ https://exservice.12306.cn/excater/index.html (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)

             - รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ วิธีการเดินทางต่อที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากเมืองซินโจวอยู่ห่างจากกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนประมาณ 110 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเรียกใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะหรือบริการเช่ารถขับต่อไปได้ อีกทั้งภายในบริเวณกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน ยังมีลานจอดรถไว้คอยให้บริการด้วย


บริเวณลานจอดรถที่กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 19.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

           นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรผ่านสำหรับเข้าชมกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนได้ โดยมีค่าใช้จ่าย คือ 90 หยวน/คน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าออนไลน์ได้ที่ http://www.yanmenguan.cn/mall/lists/cid/314.shtml


จุดบริการนักท่องเที่ยวและจำหน่ายบัตรเข้าชมกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน


ทิวทัศน์ที่สวยงามภายในด่านเยี่ยนเหมินกวน


แผนผังด่านกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน 

           หลังจากนักท่องเที่ยวซื้อบัตรสำหรับเข้าชมกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนแล้ว จะมีบริการรถบัสพานักท่องเที่ยวเดินทางจากบริเวณจำหน่ายตั๋วด้านหน้า ไปยังบริเวณท่องเที่ยวของกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ทรงคุณค่าทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและด้านประวัติศาสตร์ และมีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ยากที่จะหาชมจากที่ไหนได้

 
เส้นทางที่รถบัสจะพานักท่องเที่ยวไปยังด่านเยี่ยนเหมินกวน


ประตูและที่ตรวจบัตรเข้าชมด่านเยี่ยนเหมินกวนหลังลงรถบัส


ทางเดินหลังผ่านจุดตรวจบัตรที่รายล้อมไปด้วยอาคารซึ่งมีเค้าโครงสถาปัตยกรรมโบราณ


ปากทางเข้าสู่บริเวณกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน

 
เส้นทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะในฤดูหนาว


ป้อมปราการโบราณที่ยืนหยัดสู้ละอองหิมะมาหลายร้อยปี


ทิวทัศน์ของด่านเยี่ยนเหมินกวนที่พาดผ่านภูเขาหลายต่อหลายลูก

 
อาคารโบราณในด่านที่ถูกย้อมเป็นสีขาวด้วยหิมะของฤดูหนาว


ป้อมปราการที่สูงที่สุดของด่านเยี่ยนเหมินกวน

 
ทางเดินบนกำแพงเมืองจีนกับทิวทัศน์สถาปัตยกรรมหอสูงจีนโบราณ


หอสูงกับป้ายจารึกกลอนโบราณ

 
กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนที่ถูกย้อมด้วยหิมะจนเปรียบเสมือนมังกรสีขาวตัวใหญ่


เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว


กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนในฤดูหนาวกับหิมะที่โปรยปราย 

           กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกฤดูกาล ซึ่งมีเสน่ห์ต่างกันออกไป โดยฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุดคือช่วง เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อุณหภูมิระหว่างวันจะอยู่ที่ 15 – 27 องศาเซสเซียส ทำให้สามารถเดินทางเที่ยวชมความงามของทิวทัศน์ที่ด่านเยี่ยนเหมินกวนได้อย่างสบายๆ กับช่วง เดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่แม้อุณหภูมิระหว่างวันจะอยู่ที่ 11 – 22 องศาเซสเซียส แต่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีกับหุบเขาเยี่ยนเหมินกวนได้

           นอกจากนี้ อีกหนึ่งทิวทัศน์ที่ขึ้นชื่อของด่านเยี่ยนเหมินกวนคือช่วงฤดูหนาว หรือเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งบ่อยครั้งที่ในฤดูนี้อากาศจะหนาวติดลบกว่าสิบองศาเซสเซียสและมีหิมะตก ทำให้การเดินชมกำแพงเมืองจีนค่อนข้างลำบาก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าภาพของกำแพงเมืองจีนกับหิมะสีขาวโพลนและเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตามอิฐและหลังคาต่างๆ เป็นภาพที่สวยงามอีกภาพหนึ่งของกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน

 
นักท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่มีจำนวนน้อยมากจนอาจจะไม่มีเลยในบางวัน 

           โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมความงามของกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน ควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ในการเที่ยวชมความงามของกำแพงเมืองจีนและบริเวณรอบๆ และควรตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเที่ยวชมได้ที่ https://www.accuweather.com/ 


ร้านขายของภายในกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน

           ปัจจุบัน ภายในบริเวณกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน มีบริการทั้งร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม และของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ หากเป็นช่วงที่สภาพอากาศไม่ดีนัก อาทิ วันที่หิมะตกในฤดูหนาว ร้านดังกล่าวอาจหยุดให้บริการได้

 
บริเวณที่เป็นที่ตั้งร้านขายของในช่วงอากาศดี


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีนและเมืองซินโจว มณฑลซานซี

           กำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน เป็นกำแพงเมืองจีนที่มีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก และมีหลายจุดที่สร้างตามแนวของภูเขาสูงที่ต้องใช้การเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมจึงควร เตรียมพร้อมร่างกายรวมถึงสวมใส่รองเท้า เสื้อผ้าที่เหมาะสม ในการเดินเที่ยวกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน


บันไดทางเดินขึ้นกำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน 

           และนอกจากกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวนแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภายในตัวเมืองซินโจว มณฑลซานซี สามารถไปเที่ยวสถานที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งบางช่วงอาจมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจึงสามารถตรวจสอบปฏิทินการจัดงานเทศกาลของตัวเมืองเพื่อความสะดวกในการวางแผนการท่องเที่ยวได้ที่ http://en.eshanxi.gov.cn/

           ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือใช้แอพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้เผื่อด้วย เพราะแม้หลายป้ายภายในบริเวณกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่โด่งดังและโรงแรมใหญ่อื่นๆจะมีป้ายภาษาอังกฤษ แต่สถานที่อื่นๆ อาทิ ร้ายอาหารหรือป้ายรถเมลล์ภายในเขตไต้ ยังคงมีแต่ป้ายภาษาจีนเท่านั้น


ป้ายรายละเอียดบางอันของแหล่งท่องเที่ยวก็ยังคงมีแต่ภาษาจีนเท่านั้น

           และข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com แทน Google


ป้ายคำอธิบายที่มี
QR Code ให้นักท่องเที่ยวที่มีอินเตอร์เน็ตสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมความสวยงามของกำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่



                       ด่านเยี่ยนเหมินกวน กำแพงเมืองจีนด่านประตูห่านป่าแห่งซินโจว
, มณฑลซานซี, ประเทศจีน

                       (门关 , Yanmenguan,The Wild Goose Pass of Xinzhou, Shanxi, China)

                       อัตราค่าเข้าชม : 90 หยวน/คน

                       เวลาเปิด – ปิด : 07.00 น. – 19.00 น. ของทุกวัน

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม (หลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันชาติจีน)

                       ตั้งอยู่ที่ : เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

                       โทร : (86)400-188-2118    เว็บไซต์ : http://www.yanmenguan.cn

                       ระดับความนิยม

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/

                                       จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/

                                       บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/

                                       บริการการข้อมูลท่องเที่ยวมณฑลซานซี http://www.shanxichina.gov.cn/en/index.shtml

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน

มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน

วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม

อ่านต่อ

8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน

อ่านต่อ

หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

อ่านต่อ

สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา

อ่านต่อ

วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ