วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (6,163)
  • By Webmaster
  • 13:38:43 | 31 มี.ค. 2566

วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

Kiyomizu Dera Temple, Kyoto, Japan

Kiyomizu Dera Temple
อาคารหลักของวัดน้ำใสซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

           วัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

Kiyomizu Dera Temple


ประวัติความเป็นมาของวัดคิโยมิซุ

           ตำนานในการสร้างวัดแห่งนี้กล่าวว่า ในปี ค.ศ. 776 มีพระภิกษุนามว่า “เคนชิน” ซึ่งจำวัดอยู่ในเมืองนารา เขาฝันว่าได้พบกับชายชราคนหนึ่งซึ่งบอกให้พระภิกษุเคนชินออกเดินทางไปยังทิศเหนือ เพื่อค้นหาน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาด พระภิกษุเคนชินจึงออกเดินทางไปตามที่ตนเองฝันเห็น จนไปถึงภูเขาโอโตวะ และได้พบกับน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ นอกจากนี้พระภิกษุเคนชินยังได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่งนามว่า “เกียวเอโกจิ” ซึ่งได้บอกให้พระภิกษุเคนชินแกะสลักไม้เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิม  จากนั้นพระภิกษุเกียวเอโกจิก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

           พระภิกษุเคนชินได้แกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือขึ้น และจำวัดอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่งมีซามูไรนามว่าซากาโนะอุเอะได้เดินทางเข้ามาในป่าเพื่อล่าสัตว์ และพบกับพระภิกษุเคนชินเข้า พระภิกษุเคนชินได้ขอให้ซามูไรคนนั้นละเว้นการฆ่าสัตว์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิม และได้เทศนาพระธรรมให้แก่ซามูไรคนนั้นจนเกิดความนับถือเลื่อมใส จึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นมาเพื่อประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ และตั้งชื่อวัดว่า “คิโยมิซุ” ซึ่งแปลว่า “วัดที่มีน้ำใสบริสุทธิ์”

Kiyomizu Dera Temple
พื้นที่บริเวณทางเข้าวัดซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คนในยามเย็น

Kiyomizu Dera Temple
ทัศนียภาพสวยๆ ของวัดน้ำใส

Kiyomizu Dera Temple
บรรยากาศรอบๆ บริเวณวัดมองจากด้านบน


การเดินทางไปยังวัดคิโยมิซุ
             - รถบัส สาย 100 และ 206 ลงป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi จากนั้นเดินขึ้นเนินไปสู่ตัววัดอีกประมาณ 900 เมตร ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 210 เยน

             รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงเกียวโตมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 590 เยนต่อ 1.7 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้น 80 เยนทุกๆระยะทาง 324 เมตร และสำหรับรถแท็กซี่ของบริษัท MK Taxi จะมีส่วนลดให้ 10% สำหรับลูกค้าที่สวมใส่ชุดกิโมโน นักท่องเที่ยวสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.taxifarefinder.com/main.php?city=Kyoto-Japan


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           วัดคิโยมิซุเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น. และอาจมีการขยายเวลาปิดทำการในช่วงที่มีงานเทศกาลต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kiyomizudera.or.jp/en/

Kiyomizu Dera Temple
ด้วยชื่อเสียงและความศักดิ์สิทธิ์ของวัดน้ำใส ทำให้วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน

Kiyomizu Dera Temple
บรรยากาศนักท่องเที่ยวคึกคักภายในวัดน้ำใส


การซื้อบัตรเข้าชม

           บริเวณวัดเข้าชมฟรี และมีค่าเข้า 300 เยนสำหรับการเข้าไปในบริเวณอาคารหลัก (Main Hall)

Kiyomizu Dera Temple
จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมในส่วนของอาคารหลัก

Kiyomizu Dera Temple
ชื่อของวัดคิโยมิซุ มีความหมายว่า “วัดที่มีน้ำใสบริสุทธิ์”


ความเชื่อและความศรัทธาของวัดคิโยมิซุ

           ที่มาของคำว่า”น้ำใส”ในชื่อวัดแห่งนี้นั้น มีที่มาจากสายน้ำ 3 สายซึ่งไหลมาจากน้ำตกโอโตวะชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยมิสึเดระ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ โดยสายน้ำ 3 สายนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมดื่มน้ำทั้ง 3 สายรวมกัน

                     หากดื่มน้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา

                     หากดื่มน้ำสายที่ 2 จะสมหวังเรื่องความรัก

                     หากดื่มน้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรงทำให้มีอายุยืนยาว

           นอกจากการดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ภายในบริเวณวัดน้ำใสยังมีศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอคุนินุชิโนะ มิโกโตะ (Okuninushino Mikoto) ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในศาลเจ้าแห่งนี้จะมีก้อนหินแห่งความรัก 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร โดยเชื่อกันว่าหากใครสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนแรก ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทิศทาง คนคนนั้นก็จะสมปรารถนาในความรัก

Kiyomizu Dera Temple
นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติทำพิธีชำระล้างก่อนจะเข้าไปในวัด


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยือนวัดคิโยมิซุได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้บริเวณวัดคิโยมิซุจะมีความสวยงามเป็นอย่างมากในช่วงดอกซากุระผลิบานระหว่างฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี และอีกฤดูหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กันคือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/

Kiyomizu Dera Temple
บริเวณทางเดินในวัดซึ่งมีความงามระหว่างฤดูใบไม้เปลี่ยนสี


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

           จากบริเวณถนนใหญ่ หรือจากป้ายรถเมล์ Kiyomizu-michi นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องเดินต่อมาอีกประมาณ 700 เมตรจึงจะถึงตัววัด โดยเส้นทางเดินจะเป็นทางขึ้นเนินมาเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวจึงควรสวมรองเท้าที่สามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย หรือใช้บริการรถแท็กซี่ในกรณีที่มีผู้สูงอายุร่วมเดินทาง

           นอกจากนี้ ในปัจจุบัน วัดน้ำใสมีการปิดอาคารหลัก (Main Hall) รวมถึงพื้นที่อื่นๆเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซมยาวไปจนถึงปี ค.ศ. 2020 นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของการบูรณะก่อนเดินทางไปเยือนวัดแห่งนี้ได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e3901.html
 

Kiyomizu Dera Temple


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดคิโยมิซุ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       (Kiyomizu Dera Temple, Kyoto, Japan)

                       ระดับความนิยม 

                       อัตราค่าเข้าชม : บริเวณวัดเข้าชมฟรี และ 300 เยนสำหรับการเข้าไปในบริเวณอาคารหลัก (Main Hall)

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงดอกซากุระผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

                                                                             ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

                       สถานที่ตั้ง : ย่านฮิกาชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (+81)75-551-1234

                       เว็บไซต์ : http://www.kiyomizudera.or.jp/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                                   เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th

                                                   เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/

                                                   เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ