หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,879)
  • By Webmaster
  • 16:41:00 | 15 ก.พ. 2561

หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

Oshino Hakkai, Yamanashi, Japan


ภาพบ้านเรือนโบราณของหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นฉากหลังอันงดงาม

           หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก คือหมู่บ้านเก่าแก่ในบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ ภายในหมู่บ้านมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จำนวน 8 บ่อ แต่ละบ่อมีความใสสะอาดจนสามารถมองเห็นได้ถึงบริเวณก้นบ่อน้ำ ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

           ด้วยวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิสูงตระหง่าน และสายน้ำบริสุทธิ์ที่เกิดจากหิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายและไหลลงมารวมกัน ทำให้หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว  ซึ่งยังสามารถเดินทางต่อไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ และทะเลสาบยามานากาโกะที่อยู่ใกล้กันได้อย่างง่ายดายอีกด้วย


ทางเดินไปยังบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางหมู่บ้าน
 

ประวัติความเป็นมา


ในอดีต บ่อน้ำในหมู่บ้านแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่ชำระล้างกายและจิตใจของผู้แสวงบุญ

           ในอดีต คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมในการบูชาภูเขาไฟฟูจิเพื่อรับพลังจากเทพเจ้า ด้วยพิธีการที่มีชื่อเรียกว่า “Tohai” โดยขั้นตอนของพิธีนี้คือการไต่ขึ้นสู่ยอดของภูเขาไฟฟูจิ จากนั้นจึงกลับลงมาเพื่อเดินเท้าแสวงบุญไปตามจุดต่างๆรอบภูเขา พิธีการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนทั่วไปในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1600-1868) โดยหนึ่งในขั้นตอนสำคัญก่อนทำการปีนขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟฟูจิ คือการมาชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ในบ่อน้ำพุที่มีชื่อว่า “Fujisan Nemoto Hakko” แปลว่าทะเลสาบทั้ง 8 ของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งก็คือหมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้นั่นเอง


อาคารที่อยู่ติดกับบ่อน้ำ จะมีการติดตั้งกังหันน้ำเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ

          หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไก ในปัจจุบันมีอายุกว่า 80 ปี และยังคงเป็นหมู่บ้านที่มีผู้อยู่ศัยจริงๆ ด้วยการดูแลรักษาอย่างดีของคนในหมู่บ้าน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่ใครๆต่างต้องแวะมาเยี่ยมชม และยังได้รับการยกย่องทั้งในฐานะ 1 ใน 100 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นมรดกแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
 

การเดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จากโตเกียว

           - รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสของ Highway Bus ที่วิ่งระหว่างโตเกียว – ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะแวะจอดที่หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ลงป้าย Oshino Hakkai ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,000 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php
 

การเดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จากบริเวณใกล้เคียง

           - รถบัส จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ขึ้นรถบัสสาย Mishima-Gotemba-Kawaguchiko ลงป้ายOshino Hakkai” มีให้บริการระหว่าง 07.00 – 17.30 น. ค่าโดยสาร 550 เยนต่อเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/route/detail/id/1/

           จากสถานีรถไฟ Fujisan มีรถบัสไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก ทั้งหมด 3 สาย คือรถบัสปลายทาง Uchino, Hirano และ Fujikko tourist buses ให้บริการระหว่าง 07.15 – 17.00 น. ค่าโดยสาร 380 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/2/

           - รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
 

จุดที่น่าสนใจในหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก

           - พิพิธภัณฑ์ Hannoki Bayashi Shiryokan เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขนาดเล็ก ภายในจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ ของประดับตกแต่ง ไปจนถึงอาวุธในการทำสงครามในอดีตของคนในหมู่บ้าน บริเวณภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำอีกหนึ่งบ่อ ที่มีชื่อว่าบ่อ SakonaShiike อีกด้วย


ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของคนในหมู่บ้าน ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
 

           - บ่อน้ำ Wakuike ถือเป็นบ่อน้ำหลักของหมู่บ้าน และเป็นจุดที่นิยมถ่ายภาพของนักท่องเที่ยว เพราะสามารถเก็บบรรยากาศของบ่อน้ำ พร้อมกับอาคารหมู่บ้านโบราณที่เรียงรายอยู่โดยรอบ ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับร้านขายของที่ระลึก และร้านรวงอื่นๆอีกด้วยความพิเศษของบ่อน้ำแห่งนี้คือในปี ค.ศ. 1983 น้ำในบ่อแห่งนี้เคยถูกนำออกไปในอวกาศ เพื่อทำการทดลองการสร้างหิมะนอกโลกโดยองค์การ Nasa


ความใสสะอาดของบ่อน้ำที่ทำให้มองเห็นปราคาร์พ และมองเห็นลึกลงไปได้จนถึงก้นบ่อ
 

           - ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์จากปากมังกร ที่บริเวณบ่อน้ำใหญ่กลางหมู่บ้าน มีการสร้างรูปปั้นมังกร 3 ตัว และเปิดให้มีน้ำไหลผ่านออกจากปากของมังกรแต่ละตัว โดยเชื่อกันว่าน้ำที่ไหลออกมาจากปากของมังกรนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต่างก็นำขวดน้ำมารองน้ำจากจุดนี้ไปดื่มกิน หากนักท่องเที่ยวคนไหนไม่ได้พกขวดน้ำติดตัวมา บริเวณนั้นยังมีการจำหน่ายขวดน้ำเปล่าๆ ในราคา 150 เยนอีกด้วย


น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลออกมาจากปากมังกรทั้ง 3
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เปิดทำการระหว่าง 09.00 – 17.00น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด


บรรยากาศภายในร้านขายของกินและของฝากในหมู่บ้านน้ำใส
 

การซื้อบัตรเข้าชม

           บริเวณทั่วไปไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ส่วนพิพิธภัณฑ์ Hannoki Bayashi Shiryokan มีค่าเข้าชม 300 เยน


จุดจำหน่ายตั๋วเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของหมู่บ้าน
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


บรรยากาศของหมู่บ้านน้ำใสในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

           หมู่บ้านน้ำใสมีความงดงามอย่างมากในสองฤดู คือระหว่างฤดูใบไม้ผลิในช่วงเดือนเมษายน ที่ทั้งในหมู่บ้านและบริเวณรอบๆ จะเต็มไปด้วยดอกซากุระผลิบานอย่างสวยงาม และระหว่างฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับสีสันต่างๆของใบไม้เปลี่ยนสี


หมู่บ้านน้ำใสเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเยือนหมู่บ้านน้ำใสในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีหิมะตกค่อนข้างหนัก ทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก และเสี่ยงต่ออันตรายมากกว่าฤดูอื่นๆ

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ป้ายห้ามนักท่องเที่ยวโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำ

           เนื่องจากหมู่บ้านน้ำใสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนจำนวนมากในแต่ละวัน ระหว่างการชมบ่อน้ำต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงควรระมัดระวังไม่ให้ทำสิ่งของติดตัวใดๆตกหล่นไปในบ่อน้ำ อีกทั้งบ่อน้ำทุกบ่อในหมู่บ้าน ยังมีข้อห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวโยนเหรียญเพื่อขอพรลงไปในบ่อน้ำอีกด้วย


รถบัสที่ให้บริการนักท่องเที่ยวจากหมู่บ้านน้ำใส ไปยังสถานีรถไฟใกล้เคียง

           เนื่องจากจำนวนเที่ยวของรถบัสที่วิ่งผ่านบริเวณหมู่บ้านน้ำใสมีจำนวนไม่มาก มีเพียงชั่วโมงละ 1-2 เที่ยว นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบเวลาเดินรถให้ชัดเจน และเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไปยังป้ายรถเมล์ซึ่งต้องใช้เวลาเดินประมาณ 5-15 นาที ทั้งนี้อาจเตรียมเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมหรือรถแท็กซี่เอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน

           เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

             เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html

           จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย

           นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่

             1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)

           กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html

             2. Fujigoko TV

           กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ : http://www.fujigoko.tv/english/


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

                       (Oshino Hakkai, Yamanashi, Japan)

                       ระดับความนิยม 

                       อัตราค่าเข้าชม : 300 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ฤดูใบไม้ผลิในช่วงเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน

                       สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (+81) 555-84-4223

                       เว็บไซต์ : http://www.vill.oshino.lg.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ https://www.yamanashi-kankou.jp/thai/index.html

                                       เว็บไซต์สำหรับดูภาพวิดีโอสดจากมุมต่างๆรอบภูเขาไฟฟูจิ http://www.fujigoko.tv/english/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023

การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง

อ่านต่อ

3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย

อ่านต่อ

หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง

อ่านต่อ

วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

อ่านต่อ

วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้

อ่านต่อ

วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย

อ่านต่อ

ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่

อ่านต่อ

หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี

อ่านต่อ

สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ