3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

  • อ่าน (1,822)
  • By Webmaster Webmaster
  • 09:46:32 | 30 ม.ค. 2567

3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

Nihon Sankei, Japan

Nihon Sankei

             ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต  2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ

Nihon Sankei
แผนที่แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
 

1. อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) จังหวัดเกียวโต

Nihon Sankei

             อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ในจังหวัดเกียวโต ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานและมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 จุดชมวิวแห่งนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1970 จากจุดนี้สามารถมองเห็นสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ยาว 3.6 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติกลางอ่าวมิยาซุ (Miyazu)

             มีตำนานเกี่ยวกับการเกิดสันทรายแห่งนี้เล่าต่อกันมาว่า กาลครั้งหนึ่งมีเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์องค์หนึ่ง หลงรักกับเทพธิดาที่อยู่บนโลกมนุษย์ จึงสร้างสะพานทอดยาวลงมายังโลกมนุษย์เพื่อพบกัน แต่แล้ววันหนึ่งสะพานแห่งนั้นพังทลายลง และกลายเป็นหาดทรายขาวพาดผ่านทะเลที่เรียกว่า อามาโนะฮาชิดาเตะ ทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมระหว่างแผ่นดิน 2 ฝั่งอ่าวเข้าด้วยกัน บนแผ่นดินทั้ง 2 ฝั่งของอามาโนะฮาชิดาเตะเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าจำนวนมาก

             ด้านบนของจุดชมวิวมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย ประกอบด้วยเครื่องเล่นต่างๆ อาทิ ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ รถบั๊ม รวมถึงเครื่องเล่นสุดตื่นเต้นอย่างการขี่จักรยานบนรางลอยฟ้า (Cycle-car) ที่จะเผยให้เห็นทัศนียภาพรอบๆ แบบ 360 องศาจากบนเครื่องเล่นนี้ด้วย หนึ่งในกิจกรรมสนุกๆ ที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจุดชมวิวอามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ มักทำกันคือ การก้มลงมองลอดใต้หว่างขาจากจุดชมวิว โดยเมื่อทำเช่นนี้ฝั่งนี้จะได้เห็นสันทรายในมุมมองที่ต่างออกไป เป็นรูปมังกรตัวใหญ่กำลังเหาะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านั่นเอง  

การเดินทาง : จากสถานี Kyoto Station ขึ้นรถสาย Kyoto Eki ไปลงป้าย Amanohashidate Eki mae ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีเพื่อไปยังอามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 -17.00 น.    

พิกัด GPS : 35°33'09.9"N 135°10'55.6"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2399
 

2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) จังหวัดฮิโรชิมะ

Nihon Sankei

             มิยาจิมะ (Miyajima) เป็นเมืองเล็กๆ บนเกาะอิสึคุชิมะ (Itsukushima) ทางตะวันตกของจังหวัดฮิโรชิมะ หลายคนเรียกเกาะนี้ว่าเกาะมิยาจิมะ คืออีก 1 ใน 3 จุดชมวิวสวยที่สุดของญี่ปุ่น บนเกาะที่มีพื้นที่เพียง 30.39 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้มีบ้านเรือนอยู่ประปราย เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์โดยมีเขามิเซนเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ ซึ่งเมื่อนั่งเรือข้ามฟากมาที่เกาะจะเห็นเสาโทริอิขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเล เป็นเสาของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1996 ด้วย

             คำว่า “มิยาจิมะ” มาจากคำว่า “มิยะ” ที่แปลว่าศาลเจ้า กับคำว่า “ชิมะ” ที่แปลว่าเกาะ ซึ่งมีความหมายถึงเกาะแห่งศาลเจ้านั่นเอง เล่ากันว่า ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ดั้งเดิมนั้นสร้างขึ้นบนเกาะมิยาจิมะโดยซาเอกิ คุราชิกิ เพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสาม คือ อะมะเทระสึ (Amaterasu Omikami) เทพีแห่งดวงอาทิตย์, ซูซาโน่ (Susanoo no Mikoto) เทพแห่งลม และสึคุโยมิ (Tsukuyomi) เทพีแห่งดวงจันทร์ ตามตำนานเทพเจ้าของญี่ปุ่น ในปีค.ศ. 593 ซึ่งเป็นปีที่จักรพรรดินีซุยโกะขึ้นครองราชย์

             บนเกาะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งและสามารถเดินไปได้จากท่าเรือ เริ่มจากถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซันโด (Miyajima OmotesandO) ไปต่อที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ วัดไดกันจิ วัดไดโชอิน ก่อนจะไปต่อยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และนิทานพื้นบ้านมิยาจิมะ (Miyajima History and Folklore Museum) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Public Aquarium) บนเกาะแห่งนี้ยังมีสวนโมมิจิดานิ (Momijidani Park) ที่มีสัตว์ป่าอยู่มากมาย ทั้งลิง กวาง แรคคูน และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่ออีกด้วย 

การเดินทาง : จากสถานี Hiroshima Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Sanyo Line ไปลงที่สถานี Miyajimaguchi Station ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วเดินไปท่าเรือ JR Miyajima Ferry ลงเรือเฟอรี (ใช้ตั๋ว JR Pass ลงเรือฟรี) ไปขึ้นที่ท่าเรือ Miyajima Matsudai-kisen Ferry ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 34°17'51.4"N 132°19'26.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะมิยาจิมะ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/1243
 

3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ

Nihon Sankei

Nihon Sankei
บรรยากาศของเรือเฟอรีล่องอ่าวมัตสึชิมะ

             อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ตั้งอยู่จังหวัดมิยางิ โดยการนั่งเรือออกจากฝั่งไปเพียงแค่ 30 นาที อ่าวแห่งนี้เป็น 1 ใน 3 สถานที่ที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น รอบๆ อ่าวมัตสึชิมะรายล้อมไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 260 เกาะซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป

             การชื่นชมความสวยงามของทิวทัศน์อ่าวมัตสึชิมะมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การยืนชมวิวริมอ่าว ไปจนถึงกิจกรรมยอดนิยมที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์รอบๆ อ่าวได้อย่างทั่วถึงอย่างการล่องเรือชมวิว ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวอ่าวมัตสึชิมะ คือการถ่ายภาพสะพานสีแดงหรือวิหารโกะไดโด (Godaido) วัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวมัตสึชิมะแห่งนี้

             แม้ว่าปัจจุบันพื้นที่รอบๆ อ่าวมัตสึชิมะจะมีชื่อเสียงที่สุดในแง่ของความสวยงาม แต่ในด้านประวัติศาสตร์ที่นี่ก็มีความสำคัญโดยเป็นสถานที่สำหรับแสวงบุญทางพุทธศาสนามาอย่างยาวนานด้วย 

การเดินทาง : จากสถานี JR Sendai โดยสารรถไฟสาย JR Senseki Line ไปลงสถานี Matsushimakaigan ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นเดิน 5 นาทีไปยังท่าเรือท่องเที่ยว  ซึ่งสามารถซื้อตั๋วล่องเรือรอบอ่าวมัตสึชิมะได้ โดยเรือมี 3 รอบต่อวัน เวลา 5.00, 9.00, 13.00 น.

พิกัด GPS : 38°19'51.5"N 141°05'42.9"E 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อ่าวมัตสึชิมะ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2369
 


 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                            เว็บไซต์ทางการ 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น https://nihonsankei.jp/eng/

                            เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                            เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

                            สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)

                            ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/

                            สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย https://www.th.emb-japan.go.jp/
 

แอปพลิเคชั่นแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในญี่ปุ่น

           - Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

           - JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ