ทะเลสาบไซโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,244)
  • By Webmaster
  • 03:54:37 | 2 ก.พ. 2566

ทะเลสาบไซโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

Saiko Lake, Yamanashi, Japan


ชาวญี่ปุ่นนั่งตกปลาริมทะเลสาบไซโกะในยามเช้า

           ทะเลสาบไซโกะ คือ 1 ในทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ บริเวณโดยรอบเป็นภูเขา ป่าไม้ และมีถ้ำหลายแห่งที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟฟูจิไหลผ่าน ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบคาวากุจิโกะ ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

           ทะเลสาบไซโกะมีต้นกำเนิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในอดีต จนทำให้ลาวาที่กระจายตัวออกมาปิดกั้นพื้นที่เดิมซึ่งเป็นแม่น้ำ จนกลายเป็นทะเลสาบดังเช่นทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร Unesco พร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และน้ำตกชิระอิโตะ ในปี ค.ศ. 2013

           แม้ทะเลสาบไซโกะจะอยู่ติดกับทะเลสาบคาวากุจิโกะที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่บรรยากาศโดยรอบของทะเลสาบไซโกะนั้นยังคงเต็มไปด้วยความสงบ และสามารถสัมผัสความสมบูรณ์ของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ข้อจำกัดของทะเลสาบไซโกะคือพื้นที่ส่วนใหญ่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง จึงทำให้มีจุดที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนเพียงจุดเดียว คือ บริเวณฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ (ป้ายรถเมล์หมายเลข 67 Nenba Minshuku)


บริเวณจุดจอดรถและจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบไซโกะ ซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ
 

การเดินทางบริเวณทะเลสาบไซโกะ

           - รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถ Saiko Sightseeing Bus (สายสีเขียว) ของบริษัท Fujikyu ซึ่งวิ่งระหว่างสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ-ทะเลสาบคาวากุจิโกะ-ทะเลสาบไซโกะ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละประมาณ 40 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ 2 day pass ได้ในราคา 1,200 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Saiko Sightseeing Bus ได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/

           - รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เนื่องจากทะเลสาบไซโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ สำหรับข้อมูลเวลาเปิดปิดทำการของสถานที่ต่างๆบริเวณทะเลสาบไซโกะ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6907.html


ป้ายทะเลสาบไซโกะบริเวณจุดชมวิว
 

การซื้อบัตรเข้าชม

           บริเวณรอบทะเลสาบยามานากาโกะไม่มีการเก็บค่าเข้าชม แต่สถานที่บางแห่งอาทิเช่นถ้ำต่างๆ มีการเก็บค่าเข้าชมเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6907.html
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ภูเขาสูงมากมายที่เรียงรายล้อมทะเลสาบไซโกะเอาไว้

           นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนทะเลสาบไซโกะได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ตารางการเดินรถและกิจกรรมต่างๆรอบทะเลสาบอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
 

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณทะเลสาบไซโกะ

           - ถ้ำค้างคาว (Bat Cave) เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ถ้ำที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมบริเวณทะเลสาบไซโกะ ลักษณะของถ้ำจะอยู่ใต้ดิน มีโพรงขนาดต่างๆซึ่งเกิดจากลาวาไหลผ่าน มีระยะทางที่เปิดให้เที่ยวชมประมาณ 350 เมตร นอกจากจะเป็นถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ยังมีการค้นพบค้างคาวชนิดใหม่ของญี่ปุ่นภายในถ้ำแห่งนี้ ที่บริเวณด้านหน้าของทำยังมีพิพิธภัณฑ์ค้างคาวเพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย


บรรยากาศภายในถ้ำค้างคาวซึ่งมีการค้นพบค้างคาวชนิดใหม่ของญี่ปุ่น
 

           - ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) เป็นถ้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาตลอดทั้งปี ภายในถ้ำจะพบกับผลึกน้ำแข็งรูปทรงต่างๆมากมาย ระยะทางในการเดินชมตามเส้นทางภายในถ้ำมีความยาวทั้งหมด 153 เมตร มีเพดานค่อนข้างต่ำ และพื้นถ้ำอาจมีความลื่นอยู่บ้าง ในอดีต ถ้ำแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นที่เก็บน้ำแข็งของชาวบ้านเพื่อให้มีใช้ตลอดทั้งปีอีกด้วย


ถ้ำน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิติดลบตลอดทั้งปี จนถูกใช้เป็นเหมือนตู้เย็นสำหรับชาวบ้านในอดีต
 

           - ถ้ำลม (Wind Cave) มีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายกับถ้ำน้ำแข็ง เป็นถ้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาตลอดทั้งปีเช่นกัน โดยในอดีตถ้ำแห่งนี้ถูกใช้เพื่อเก็บเสบียงอาหาร รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาไข่ของหนอนไหมก่อนที่จะนำไปผลิตเครื่องนุ่งห่ม ถ้ำแห่งนี้มีความยาวทั้งหมด 201 เมตร และมีเพดานถ้ำค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างไม่ลำบากมากนัก


บรรยากาศภายในถ้ำลมที่มีอุณหภูมิติดลบเช่นเดียวกับถ้ำน้ำแข็ง และมีเพดานถ้ำค่อนข้างสูง

           นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเวลาการเปิดปิดทำการ และค่าใช้จ่ายในการเข้าชมของถ้ำแต่ละแห่งได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6911.html
 

           - พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ (Iyashi no Sato) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่ทำเกษตรกรรมและหัตถกรรมแบบญี่ปุ่น จะกระทั่งในปี ค.ศ. 1966 หมู่บ้านแห่งนี้ถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มจนเสียหายอย่างหนัก คนในหมู่บ้านเดิมย้ายไปอยู่อาศัยในพื้นที่อื่น หลังจากนั้นจึงมีการบูรณะหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 2006 เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถพบกับภาพหมู่บ้านโบราณซึ่งมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6923.html


ต้นซากุระหน้าพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะผลิดอกในฤดูใบไม้ผลิ
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ชาวญี่ปุ่นสูงวัยแวะมาตกปลาตามจุดต่างๆรอบทะเลสาบไซโกะ

           รถบัสสายเขียวของบริษัท Fujikyu ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะเพียงชนิดเดียวระหว่างสถานีคาวากุจิโกะและทะเลสาบไซโกะ ตลอดการเดินทางนักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบตารางการเดินรถ และรักษาเวลาในการท่องเที่ยวให้ดี

           เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

             เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html

           จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย

           นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่

             1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)

           กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html

             2. Fujigoko TV

           กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ : http://www.fujigoko.tv/english/

 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวทะเลสาบไซโกะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ทะเลสาบไซโกะ

                         (Saiko Lake)

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

                         เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันปิดทำการ

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 555-72-3168

                         เว็บไซต์ : http://www.saiko-kankou.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

                         ระดับความนิยม

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ http://www.yamanashi-kankou.jp/english/

                                         เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ